ช่วงเวลาเทรด Forex: คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับนักเทรดทุกระดับ 2025

Table of Contents

ช่วงเวลาทองในการเทรด Forex: คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับนักเทรดทุกระดับ

ตลาด Forex หรือตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เป็นตลาดการเงินที่ใหญ่และมีสภาพคล่องสูงที่สุดในโลก คุณรู้หรือไม่ว่าตลาดแห่งนี้เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ นั่นหมายความว่ามีโอกาสในการซื้อขายเกิดขึ้นได้ตลอดทั้งวันทั้งคืน แต่การจะทำกำไรในตลาดนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่กับกลยุทธ์การเทรดที่คุณใช้เท่านั้นครับ การทำความเข้าใจและใช้ประโยชน์จาก “ช่วงเวลา” ที่เหมาะสมในการเทรด ก็มีความสำคัญไม่แพ้กันเลย

ในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึกถึงเรื่องของ Forex Session ต่างๆ ทำความเข้าใจเวลาเปิด-ปิดของตลาดหลักทั่วโลก และชี้ให้เห็นถึงช่วงเวลาที่ตลาดคึกคักที่สุด รวมถึงช่วงเวลาที่คุณอาจจะต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อให้คุณสามารถวางแผนการเทรดได้อย่างชาญฉลาดยิ่งขึ้น เปรียบเสมือนการรู้จังหวะในการเข้าและออกให้ถูกที่ถูกเวลา

ตลาด Forex ซึ่งเป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ทำความรู้จัก Forex Session หลักทั้ง 4: หัวใจของการซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมง

แม้ตลาด Forex จะเปิด 24 ชั่วโมง แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกช่วงเวลาจะมีความเคลื่อนไหวหรือสภาพคล่องเท่ากัน ตลาด Forex ถูกขับเคลื่อนโดยศูนย์กลางทางการเงินหลักทั่วโลก ซึ่งมีเวลาทำการแตกต่างกัน เราเรียกช่วงเวลาทำการของศูนย์กลางเหล่านี้ว่า Trading Sessions หรือ Forex Sessions โดยมี 4 เซสชั่นหลักที่สำคัญ ได้แก่:

  • Sydney Session (ตลาดซิดนีย์): เป็นตลาดแรกที่เปิดทำการของวันใหม่ เป็นจุดเริ่มต้นของรอบการซื้อขาย 24 ชั่วโมง
  • Tokyo Session (ตลาดโตเกียว): หรือที่เรียกว่า Asia Session ตลาดนี้มีความสำคัญต่อคู่เงินที่มี JPY (เยนญี่ปุ่น) เป็นส่วนประกอบ
  • London Session (ตลาดลอนดอน): ถือเป็นเซสชั่นที่ใหญ่และมีอิทธิพลมากที่สุดในโลก Forex
  • New York Session (ตลาดนิวยอร์ก): หรือที่เรียกว่า North American Session เป็นเซสชั่นสุดท้ายของวัน

การที่ตลาดเหล่านี้เปิดสลับกันไป ทำให้เกิดการซื้อขายได้อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวันทั้งคืนตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ แต่สิ่งที่สำคัญคือ เราต้องรู้ว่าตลาดไหนเปิดอยู่ และช่วงเวลาไหนที่ตลาดต่างๆ มีการทับซ้อนกัน

นักเทรด Forex ขณะติดต่อตลาดเงินตรา

เจาะลึกเวลาเปิด-ปิด Forex Session (ตามเวลา GMT และเวลาไทย)

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน เรามาดูเวลาเปิด-ปิดโดยประมาณของแต่ละเซสชั่นกันครับ โดยปกติแล้ว เวลาจะอ้างอิงตามเขตเวลา GMT (Greenwich Mean Time) และอาจมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในช่วงเวลาออมแสง (Daylight Saving Time) ในบางประเทศ

Forex Session เวลา GMT เวลาไทย
Sydney Session 21:00 น. – 07:00 น. เปิดประมาณ 04:00 น. – ปิดประมาณ 14:00 น.
Tokyo Session 23:00 น. – 09:00 น. เปิดประมาณ 06:00 น. – ปิดประมาณ 16:00 น.
London Session 08:00 น. – 17:00 น. เปิดประมาณ 15:00 น. – ปิดประมาณ 00:00 น. – 02:00 น.
New York Session 13:00 น. – 22:00 น. เปิดประมาณ 20:00 น. – ปิดประมาณ 05:00 น.

โปรดจำไว้ว่าเวลาเหล่านี้เป็นเพียงค่าเฉลี่ย และเวลาจริงอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับฤดูกาล (เวลาออมแสง) และวันทำการของแต่ละประเทศ การมีปฏิทินเศรษฐกิจหรือเครื่องมือที่แสดงเวลาตลาด Forex แบบเรียลไทม์เป็นสิ่งที่มีประโยชน์มากสำหรับนักเทรด

ช่วงเวลา Overlap: โอกาสและความผันผวนที่เพิ่มสูงขึ้น

สิ่งสำคัญที่นักเทรดควรให้ความสนใจคือ ช่วงเวลาที่ตลาดหลัก “เปิดทับซ้อน” หรือ Overlap กัน ช่วงเวลานี้มักเป็นช่วงที่มีปริมาณการซื้อขาย (Volume) และสภาพคล่อง (Liquidity) สูงอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อมีผู้เล่นจำนวนมากเข้ามาในตลาดพร้อมกัน การเคลื่อนไหวของราคาก็จะมีความผันผวน (Volatility) สูงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักเทรดที่ต้องการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคา

ช่วง Overlap ที่สำคัญได้แก่:

  • London & New York Overlap: นี่คือช่วง Overlap ที่สำคัญที่สุดและมีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุดในรอบ 24 ชั่วโมง เนื่องจากตลาดที่ใหญ่ที่สุดสองแห่งของโลกกำลังเปิดทำการพร้อมกัน ช่วงเวลานี้มักจะเกิดการเคลื่อนไหวของราคาอย่างรุนแรง
  • Tokyo & London Overlap: ช่วงนี้ตลาดเอเชียกำลังจะปิดและตลาดลอนดอนกำลังจะเปิด ทำให้เกิดการส่งต่อโมเมนตัมหรือการปรับฐานราคา
  • Sydney & Tokyo Overlap: เป็นช่วง Overlap ที่เกิดตั้งแต่เช้าตรู่ เป็นช่วงที่ตลาดเพิ่งเริ่มต้น ทำให้ความผันผวนยังไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับช่วงอื่น

การเทรดในช่วง Overlap ที่มีความผันผวนสูง อาจต้องอาศัยกลยุทธ์ที่แตกต่างจากการเทรดในช่วงที่ตลาดนิ่ง การจัดการความเสี่ยง (Money Management) และการตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) มีความสำคัญเป็นพิเศษในช่วงเวลานี้

การเทรดในตลาด Forex

ช่วงเวลา Overlap สำคัญ: ทำไม London กับ New York ถึงเป็นที่จับตา?

เราเน้นย้ำว่าช่วงเวลาที่ตลาดลอนดอนและตลาดนิวยอร์กเปิดทำการพร้อมกัน เป็นช่วงที่น่าจับตาที่สุด เพราะอะไรน่ะหรือครับ? ลองจินตนาการว่านี่คือช่วงเวลาที่ผู้เล่นรายใหญ่ ทั้งธนาคาร สถาบันการเงิน และกองทุนต่างๆ จากทั้งยุโรปและอเมริกา กำลังดำเนินการซื้อขายในปริมาณมหาศาลพร้อมๆ กัน

ผลลัพธ์คือ

  • สภาพคล่องสูงสุด: มีผู้ซื้อและผู้ขายจำนวนมาก ทำให้การเข้าและออกจากคำสั่งซื้อขายทำได้ง่ายและรวดเร็ว
  • สเปรด (Spread) ต่ำสุด: เมื่อมีสภาพคล่องสูง ส่วนต่างระหว่างราคา Bid และ Ask มักจะแคบลง ทำให้ต้นทุนในการเทรดต่ำลง
  • ความผันผวนสูงสุด: ด้วยปริมาณการซื้อขายที่มหาศาล ทำให้ราคาสามารถเคลื่อนไหวได้ไกลและรวดเร็ว เกิดแนวโน้มที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสในการทำกำไรสำหรับนักเทรดที่เชี่ยวชาญ

ดังนั้น หากคุณเป็นนักเทรดที่ชอบความเคลื่อนไหวและต้องการทำกำไรจากเทรนด์หรือโมเมนตัม ช่วง London & New York Overlap (ประมาณ 20:00 น. – 00:00 น. เวลาไทย) คือช่วงเวลาที่คุณควรให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก แต่ก็อย่าลืมว่าความผันผวนที่สูงขึ้นก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงขึ้นเช่นกัน

ตลาด Forex ในช่วง Overlap ระหว่าง London และ New York

ผลกระทบของข่าวเศรษฐกิจสำคัญต่อ Forex Session

นอกเหนือจากเวลาเปิด-ปิดของตลาด ข่าวสารและตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญก็มีอิทธิพลอย่างมหาศาลต่อความเคลื่อนไหวของราคาในตลาด Forex คุณอาจเคยได้ยินเกี่ยวกับข่าว Non-Farm Payrolls ของสหรัฐฯ ใช่ไหมครับ? ข่าวนี้เป็นหนึ่งในข่าวที่มีผลกระทบสูงที่สุด (มักถูกจัดอยู่ในประเภท High Impact News หรือมีสัญลักษณ์สีแดงในปฏิทินเศรษฐกิจ) สามารถทำให้ราคาคู่เงินที่เกี่ยวข้องกับ USD เกิดการแกว่งตัวอย่างรุนแรงได้ภายในเวลาอันสั้น

ข่าวเศรษฐกิจสำคัญอื่นๆ ที่ต้องจับตา ได้แก่:

  • การประกาศอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางหลัก เช่น Federal Reserve (Fed) ของสหรัฐฯ, European Central Bank (ECB), Bank of England (BoE)
  • รายงานอัตราเงินเฟ้อ (CPI)
  • รายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)
  • รายงานการจ้างงานอื่นๆ
  • การแถลงการณ์ของประธานธนาคารกลาง

ข่าวเหล่านี้มักมีกำหนดการประกาศที่ชัดเจน นักเทรดควรตรวจสอบปฏิทินเศรษฐกิจล่วงหน้า และเตรียมพร้อมรับมือกับความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเวลาก่อนและหลังการประกาศ การเทรดในช่วงที่มีข่าวแรงมีความเสี่ยงสูงมาก หากคุณยังไม่มั่นใจในแผนการเทรดหรือการบริหารความเสี่ยงของตัวเอง การหลีกเลี่ยงการเทรดในช่วงนี้อาจเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า

ข่าวเศรษฐกิจที่มีผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวในตลาด Forex

ถอดรหัสข้อมูลเศรษฐกิจ: Actual vs Forecast

เมื่อมีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจ สิ่งที่เราต้องดูไม่ใช่แค่ว่าตัวเลขนั้นคืออะไร แต่คือการเปรียบเทียบตัวเลขที่ประกาศจริง (Actual) กับตัวเลขที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ (Forecast) นี่คือกลไกสำคัญที่ขับเคลื่อนราคาครับ

  • ถ้าตัวเลข Actual ดีกว่า Forecast อย่างมีนัยสำคัญ: มักส่งผลให้สกุลเงินของประเทศนั้นแข็งค่าขึ้น
  • ถ้าตัวเลข Actual แย่กว่า Forecast อย่างมีนัยสำคัญ: มักส่งผลให้สกุลเงินของประเทศนั้นอ่อนค่าลง
  • ถ้าตัวเลข Actual ใกล้เคียง Forecast: ผลกระทบต่อราคามักจะไม่รุนแรงเท่าสองกรณีแรก

ตัวอย่างเช่น หากข่าว Non-Farm Payrolls ของสหรัฐฯ ประกาศออกมาว่ามีการจ้างงานเพิ่มขึ้นสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้มาก นี่มักจะเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และส่งผลให้ค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้น ในทางกลับกัน หากตัวเลขแย่กว่าที่คาดการณ์ไว้มาก USD ก็มีแนวโน้มอ่อนค่าลง

การทำความเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างตัวเลขเศรษฐกิจกับแนวโน้มของสกุลเงิน ช่วยให้คุณประเมินทิศทางของราคาได้เบื้องต้น แต่อย่าลืมว่าตลาดอาจมีปฏิกิริยาที่ซับซ้อนกว่านั้นเสมอ การผสมผสานการวิเคราะห์ข่าวเข้ากับการวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นสิ่งสำคัญ

ช่วงเวลาที่ควรหลีกเลี่ยง: เมื่อตลาดเงียบหรือเสี่ยงเกินไป

ไม่ใช่ทุกช่วงเวลาตลอด 24 ชั่วโมงที่เหมาะกับการเทรด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักเทรดมือใหม่ มีบางช่วงเวลาที่สภาพคล่องในตลาดลดลงอย่างมาก ซึ่งอาจทำให้คุณเผชิญกับความเสี่ยงที่ไม่จำเป็น

ช่วงเวลาที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่:

  • ช่วงที่ตลาดส่วนใหญ่ปิดทำการ: โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงหลังตลาดนิวยอร์กปิด (ประมาณ 05:00 น. เวลาไทย) ไปจนถึงก่อนตลาดโตเกียวเปิดอย่างเต็มที่ (ประมาณ 07:00-08:00 น. เวลาไทย) ในช่วงนี้ สภาพคล่องต่ำมาก ทำให้สเปรด (ส่วนต่างราคาซื้อ/ขาย) อาจกว้างขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และการส่งคำสั่งซื้อขายอาจล่าช้ากว่าปกติ
  • ช่วงที่มีข่าวเศรษฐกิจที่มีผลกระทบสูง: ดังที่กล่าวไป การเทรดในช่วงที่ข่าวออกมีความเสี่ยงสูงมาก หากคุณไม่มีกลยุทธ์ที่ชัดเจนในการรับมือกับความผันผวนที่รุนแรง
  • วันหยุดสำคัญ: ตลาด Forex จะปิดทำการในช่วงวันหยุดสำคัญระดับสากล เช่น วัน Christmas และวัน New Year
  • วันหยุดธนาคาร (Bank Holiday): หากประเทศใดประเทศหนึ่งที่มีสกุลเงินหลัก (เช่น สหรัฐฯ, อังกฤษ, ยุโรป, ญี่ปุ่น) มีวันหยุดธนาคารในประเทศนั้น สภาพคล่องของสกุลเงินนั้นๆ อาจลดลงอย่างมาก ทำให้การเทรดคู่เงินที่มีสกุลเงินนั้นเป็นส่วนประกอบมีความเสี่ยงมากขึ้น

การหลีกเลี่ยงการเทรดในช่วงเวลาเหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงจากสเปรดที่กว้างขึ้น หรือการเคลื่อนไหวของราคาที่ผิดปกติซึ่งอาจเกิดขึ้นในช่วงสภาพคล่องต่ำ

ความเสี่ยงในช่วงรอยต่อเซสชั่นและปัจจัยพิเศษอื่นๆ

นอกจากช่วงเวลาที่สภาพคล่องต่ำแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่อาจสร้างความเสี่ยงให้กับนักเทรดในช่วงเวลาเฉพาะได้อีก เช่น:

  • Volatility Spikes: บางครั้งในช่วงรอยต่อระหว่างเซสชั่น (เช่น ช่วงที่ตลาดเอเชียกำลังจะปิดและตลาดลอนดอนกำลังจะเปิด) อาจเกิดการพุ่งขึ้นหรือร่วงลงของราคาอย่างรวดเร็วและรุนแรงในระยะสั้นๆ โดยไม่มีข่าวชัดเจนรองรับ ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า Volatility Spikes ซึ่งอาจทำให้คำสั่ง Stop Loss ของคุณถูกชนได้ง่าย แม้ว่าราคาจะกลับมาในทิศทางเดิมในเวลาต่อมาก็ตาม
  • Delay Execution: ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูงมาก หรือสภาพคล่องเริ่มลดลง การส่งคำสั่งซื้อขายของคุณอาจเกิดความล่าช้า (Delay) หรือได้ราคาที่ไม่ตรงกับที่คุณเห็นบนหน้าจอ (Slippage) นี่เป็นสิ่งที่นักเทรดต้องทำความเข้าใจและยอมรับว่าเป็นความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้

การตระหนักถึงความเสี่ยงเหล่านี้ช่วยให้คุณเตรียมตัวและปรับกลยุทธ์ได้เหมาะสม เช่น การใช้คำสั่งซื้อขายประเภท Limit Order แทน Market Order ในบางสถานการณ์ หรือการลดขนาด Lot ลงในช่วงที่คาดว่าจะมีความผันผวนสูงผิดปกติ

การเลือกคู่เงินให้เหมาะสมกับช่วงเวลา

คู่เงินแต่ละคู่มีแนวโน้มที่จะมีการเคลื่อนไหวที่แตกต่างกันไปในแต่ละเซสชั่น ขึ้นอยู่กับสกุลเงินที่ประกอบอยู่ในคู่นั้นๆ

  • ในช่วง Tokyo Session (Asia): คู่เงินที่มี JPY (เยนญี่ปุ่น) เป็นส่วนประกอบมักจะมีการเคลื่อนไหวที่ชัดเจน เช่น USD/JPY, EUR/JPY, AUD/JPY
  • ในช่วง London Session (Europe): คู่เงินหลักที่มี EUR, GBP, CHF เป็นส่วนประกอบมักจะคึกคัก เช่น EUR/USD, GBP/USD, EUR/GBP, USD/CHF
  • ในช่วง New York Session (America): คู่เงินที่มี USD หรือ CAD เป็นส่วนประกอบมักจะมีการเคลื่อนไหวที่รุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเข้าสู่ช่วง Overlap กับ London เช่น EUR/USD, GBP/USD, USD/CAD, AUD/USD
  • ในช่วง Overlap London & New York: คู่เงินหลักที่มีสภาพคล่องสูงทั้งหมดมักจะมีการเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ โดยเฉพาะคู่เงินหลัก (Majors) และคู่เงินที่นิยมเทรดกันทั่วโลกอย่าง XAU/USD (ทองคำ)

การเลือกคู่เงินที่สอดคล้องกับช่วงเวลาที่คุณสะดวกเทรด จะช่วยให้คุณเจอสภาพคล่องและความผันผวนที่เหมาะสมกับสไตล์การเทรดของคุณได้ง่ายขึ้น

วางแผนการเทรดของคุณตามรอบเวลาตลาด

เพื่อให้การเทรด Forex มีประสิทธิภาพสูงสุด การวางแผนล่วงหน้าตามรอบเวลาตลาดเป็นสิ่งจำเป็น คุณสามารถทำได้ดังนี้:

  1. กำหนดช่วงเวลาที่คุณสะดวกเทรด: คุณมีเวลาว่างในช่วงไหนของวัน? เช้า สาย บ่าย เย็น หรือกลางคืน?
  2. ตรวจสอบว่าช่วงเวลาที่คุณสะดวกตรงกับ Forex Session ใด หรือช่วง Overlap ใด: เช่น หากคุณสะดวกช่วง 20:00 น. – 00:00 น. (เวลาไทย) นั่นคือช่วง London & New York Overlap ซึ่งเป็นช่วงที่มีความผันผวนสูง
  3. เลือกคู่เงินที่มักจะเคลื่อนไหวดีในช่วงเวลานั้น: อ้างอิงจากข้อก่อนหน้า
  4. ตรวจสอบปฏิทินข่าวเศรษฐกิจสำคัญที่เกี่ยวข้องกับคู่เงินที่คุณสนใจในช่วงเวลาที่คุณจะเทรด: มีข่าวใหญ่รออยู่หรือไม่?
  5. ปรับกลยุทธ์การเทรดและการบริหารความเสี่ยงให้เข้ากับลักษณะของช่วงเวลานั้นๆ: เช่น ลดขนาด Lot ในช่วงข่าว หรือใช้กลยุทธ์ที่เน้นการ Breakout ในช่วง Overlap

การมีแผนที่ชัดเจนจะช่วยให้คุณเทรดได้อย่างมีวินัยและลดการตัดสินใจภายใต้อารมณ์ลงได้ และหากคุณกำลังมองหาแพลตฟอร์มที่ให้ความยืดหยุ่นในการเทรดตลอดทั้งวันทั้งคืน Moneta Markets เสนอแพลตฟอร์มหลากหลายรูปแบบ รวมถึง MT4, MT5 และ Pro Trader ที่รองรับสไตล์การเทรดที่แตกต่างกัน ให้คุณเลือกใช้ตามความถนัด

นักเทรด Forex กำลังวางแผนการเทรด

เมื่อไหร่ที่ไม่ควรเทรดเลย?

นอกจากการหลีกเลี่ยงช่วงสภาพคล่องต่ำและช่วงข่าวแรงแล้ว ยังมีสถานการณ์อื่นที่คุณอาจพิจารณาหยุดการเทรดชั่วคราว:

  • เมื่อไม่มั่นใจในแผนการเทรด: หากคุณไม่แน่ใจในสัญญาณที่เห็น หรือยังวิเคราะห์ไม่ชัดเจน การไม่เทรดเลยดีกว่าการเสี่ยงโดยไม่มีทิศทาง
  • เมื่อสภาพจิตใจไม่พร้อม: ความเครียด ความเหนื่อยล้า หรืออารมณ์ที่ไม่ปกติ อาจนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาดได้ การพักผ่อนและกลับมาเทรดเมื่อพร้อมจะดีกว่า
  • เมื่อตลาดอยู่ในสภาวะผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด: เช่น เกิดช่องว่างราคา (Gap) ขนาดใหญ่ผิดปกติ หรือราคาเคลื่อนไหวอย่างไร้เหตุผลโดยไม่มีข่าวรองรับ อาจเป็นสัญญาณของเหตุการณ์พิเศษที่ต้องใช้ความระมัดระวังสูง

การรู้ว่าเมื่อไหร่ควรกดปุ่มซื้อขาย และเมื่อไหร่ควรอยู่เฉยๆ เป็นทักษะสำคัญที่นักเทรดทุกคนต้องฝึกฝน

สรุป: ความรู้เรื่องช่วงเวลา คือเครื่องมือทรงพลังของคุณ

ตลาด Forex เปิด 24 ชั่วโมง แต่ไม่ใช่ทุกช่วงเวลาที่เหมาะกับนักเทรดทุกคน การทำความเข้าใจและใช้ประโยชน์จาก Forex Session ต่างๆ การรู้เวลาเปิด-ปิดของตลาดหลัก การตระหนักถึงช่วงเวลา Overlap ที่สำคัญซึ่งมาพร้อมกับสภาพคล่องและความผันผวนที่สูง การติดตามข่าวสารและตัวเลขเศรษฐกิจที่มีผลกระทบสูง รวมถึงการหลีกเลี่ยงช่วงเวลาที่มีความเสี่ยงหรือสภาพคล่องต่ำ ทั้งหมดนี้คือองค์ประกอบสำคัญในการวางแผนการเทรด Forex อย่างรอบคอบ

จำไว้ว่า ความรู้คือพลัง ในตลาดที่มีการแข่งขันสูงอย่าง Forex การติดอาวุธให้ตัวเองด้วยข้อมูลและการวิเคราะห์ที่แม่นยำ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จของคุณได้อย่างมหาศาล และหากคุณกำลังมองหาโบรกเกอร์ที่ให้ความสำคัญกับความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยในการซื้อขาย Moneta Markets ที่มีใบอนุญาตกำกับดูแลจากหลายหน่วยงานชั้นนำทั่วโลก อาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยให้คุณเทรดได้อย่างมั่นใจ

เราหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมและเข้าใจถึงความสำคัญของ “ช่วงเวลาเทรด Forex” ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ขอให้คุณนำความรู้นี้ไปปรับใช้ในการวางแผนการเทรดของคุณ และขอให้คุณประสบความสำเร็จในเส้นทางการเป็นนักเทรดครับ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับช่วงเวลาเทรด forex

Q:ช่วงเวลาที่ตลาด Forex คึกคักที่สุดคือเมื่อไร?

A:ช่วงเวลาที่คึกคักที่สุดของตลาด Forex คือช่วง Overlap ระหว่างตลาดลอนดอนและตลาดนิวยอร์ก ซึ่งปรากฏระหว่างเวลา 20:00 น. – 00:00 น. เวลาไทย

Q:เหตุใดการเลือกคู่เงินจึงสำคัญ?

A:การเลือกคู่เงินที่เหมาะสมกับช่วงเวลาที่คุณเทรดช่วยให้คุณเข้าถึงสภาพคล่องและการเคลื่อนไหวของราคาได้ดีขึ้น

Q:ข่าวเศรษฐกิจมีผลอย่างไรต่อตลาด Forex?

A:ข่าวเศรษฐกิจมีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวของราคาในตลาด Forex โดยสามารถสร้างความผันผวนขึ้นในช่วงการประกาศ

發佈留言

發佈留言必須填寫的電子郵件地址不會公開。 必填欄位標示為 *