บทนำ: สรุปราคาทองประจำวันที่ 13 กันยายน 2566
ตลาดทองคำในไทยเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2566 แสดงให้เห็นถึงความเคลื่อนไหวที่ดึงดูดความสนใจ โดยสมาคมค้าทองคำได้อัปเดตราคาซื้อและขายทั้งทองคำแท่งและทองรูปพรรณ ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยตลอดทั้งวัน สิ่งนี้สะท้อนถึงความไม่แน่นอนในตลาดที่เกิดจากทั้งปัจจัยภายในประเทศและแรงกดดันจากต่างชาติ สำหรับวันนั้น ราคาทองคำโดยรวมลดลงนิดหน่อยจากจุดเริ่มต้นของตลาด ทำให้ผู้สนใจลงทุนในทองต้องเฝ้าสังเกตการณ์อย่างละเอียด เพื่อจับจังหวะที่เหมาะสม

ตารางราคาทองคำแท่งและทองรูปพรรณ วันที่ 13 ก.ย. 66
สมาคมค้าทองคำประกาศราคาทองคำสำหรับวันที่ 13 กันยายน 2566 ดังตารางด้านล่าง (หน่วยเป็นบาทต่อบาททองคำ)
| ประเภททองคำ | รับซื้อ (บาท) | ขายออก (บาท) |
|---|---|---|
| ทองคำแท่ง | 31,950 | 32,050 |
| ทองรูปพรรณ | 31,373.52 | 32,550 |
หมายเหตุ: ราคานี้คือราคาปิดตลาดหรือการปรับครั้งสุดท้ายของวัน

การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในวันที่ 13 กันยายน 2566
ตลอดวันที่ 13 กันยายน 2566 ราคาทองคำปรับเปลี่ยนไปสองครั้ง โดยเริ่มจากราคาเปิดตลาดที่ค่อนข้างมั่นคง แต่ต่อมาเกิดการขึ้นลงสลับกัน ซึ่งแสดงถึงการตอบสนองต่อสถานการณ์ตลาด
- เปิดตลาด: ทองคำแท่งรับซื้อ 32,000 บาท ขายออก 32,100 บาท
- ปรับครั้งที่ 1 (09:30 น.): เพิ่มขึ้น 50 บาท
ทองคำแท่ง: รับซื้อ 32,050 บาท ขายออก 32,150 บาท
ทองรูปพรรณ: รับซื้อ 31,464.44 บาท ขายออก 32,650 บาท - ปรับครั้งที่ 2 (14:00 น.): ลดลง 100 บาท
ทองคำแท่ง: รับซื้อ 31,950 บาท ขายออก 32,050 บาท
ทองรูปพรรณ: รับซื้อ 31,373.52 บาท ขายออก 32,550 บาท
โดยรวมแล้ว ราคาทองคำปิดวันลดลงสุทธิ 50 บาทจากจุดเริ่มต้น ซึ่งชี้ให้เห็นถึงแรงกดดันจากปัจจัยภายนอกที่เข้ามาในช่วงบ่าย ทำให้ตลาดต้องปรับตัวตาม

ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคาทองคำในวันที่ 13 กันยายน 2566
ความผันผวนของราคาทองคำในวันดังกล่าวมาจากหลายปัจจัยที่เชื่อมโยงกันทั้งในระดับโลกและภายในประเทศ ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาให้ดี
- ราคาทองโลก (Spot Gold): ราคาในตลาดสากลเป็นตัวกำหนดทิศทางหลักสำหรับราคาในไทย วันนั้นราคาทองโลกแกว่งไกวเบาๆ เนื่องจากนักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ประกาศในวันเดียวกัน ข้อมูลนี้มีผลต่อการคาดการณ์นโยบายดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ถ้าเงินเฟ้อยังสูง Fed อาจขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลให้ดอลลาร์แข็งและกดราคาทองลง คุณสามารถติดตามข้อมูลจากแหล่งน่าเชื่อถืออย่าง World Gold Council เพื่อวิเคราะห์เพิ่มเติม
- ค่าเงินบาท (THB Exchange Rate): อัตราแลกเปลี่ยนบาทต่อดอลลาร์มีบทบาทสำคัญเพราะทองคำส่วนใหญ่ซื้อขายด้วยดอลลาร์ ถ้าบาทแข็งขึ้น ราคาทองในไทยจะถูกลง และตรงกันข้าม ในวันนั้นบาทแข็งเล็กน้อยตอนเช้าแต่กลับอ่อนลงช่วงบ่าย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ราคาทองปรับตัวลดตาม โดยเฉพาะเมื่อรวมกับราคาโลกที่ไม่ค่อยสดใส
- เศรษฐกิจโลกและข่าวสำคัญ: นอกจาก CPI แล้ว ปัจจัยอย่างความเสี่ยงถดถอยเศรษฐกิจ ความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศ หรือการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้น ก็ส่งผลต่อความต้องการทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ข้อมูลจากภาคอุตสาหกรรมหรือบริการในยุโรปและเอเชียก็มีอิทธิพลต่อความเชื่อมั่นนักลงทุน รายงานจากหน่วยงานอย่าง ธนาคารแห่งประเทศไทย มักให้มุมมองเชิงลึกเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ ตัวอย่างเช่น ในช่วงนั้น ความกังวลเรื่องเงินเฟ้อที่ยืดเยื้อทำให้ตลาดระมัดระวังมากขึ้น
ภาพรวมราคาทองคำเดือนกันยายน 2566 และแนวโน้มระยะสั้น
วันที่ 13 กันยายน 2566 เป็นเพียงจุดหนึ่งในภาพรวมตลาดทองคำทั้งเดือนกันยายน 2566 ซึ่งโดยทั่วไปเดือนนี้มักมีความผันผวนสูง เนื่องจากเป็นช่วงที่ตลาดรับมือกับข่าวเศรษฐกิจใหญ่ๆ เช่น การประชุมธนาคารกลางทั่วโลกและตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ การลดลงของราคาในวันนั้นอาจบ่งบอกว่านักลงทุนกำลังรอสัญญาณชัดเจนก่อนตัดสินใจ แนวโน้มระยะสั้นยังคงขึ้นอยู่กับผลประชุม Fed และท่าทีจากธนาคารกลางอื่นๆ ถ้าข้อมูลเงินเฟ้อออกมาดีกว่าคาด ราคาอาจฟื้นตัว แต่ถ้ายังน่ากังวล ตลาดอาจปรับลงต่อ
ข้อคิดจากราคาทองคำในอดีต: บทเรียนสำหรับนักลงทุน
การย้อนดูการเคลื่อนไหวราคาทองคำในอดีตอย่างวันที่ 13 กันยายน 2566 ช่วยให้นักลงทุนไทยได้บทเรียนสำคัญหลายข้อ ประการแรก ตลาดทองมักตอบสนองไวต่อข่าวเศรษฐกิจ โดยเฉพาะจากสหรัฐและการเปลี่ยนแปลงค่าเงินบาท ซึ่งในวันนั้นเห็นได้ชัดจากการปรับราคาสองครั้ง ประการที่สอง ความผันผวนในวันเดียวแสดงว่าต้องเตรียมใจรับมือเสมอ ไม่ว่าจะซื้อทองแท่งหรือทองรูปพรรณ การลงทุนควรเน้นระยะยาวเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจาก波动สั้นๆ และติดตามข่าวจากแหล่งเชื่อถือได้อย่างสม่ำเสมอ เช่น ดูแนวโน้มจากข้อมูลย้อนหลังเพื่อคาดการณ์อนาคต โดยพิจารณาว่าปัจจัยอย่าง CPI ในปีนั้นเคยทำให้ราคากระตุกหลายครั้ง
สรุปและทิศทางต่อไป
โดยสรุป ราคาทองคำวันที่ 13 กันยายน 2566 ลดลงสุทธิ 50 บาทจากราคาเปิด ภายใต้อิทธิพลจากราคาทองโลกที่แกว่งและบาทที่อ่อนลงช่วงบ่าย ปัจจัยเหล่านี้ยังคงเป็นตัวกำหนดทิศทางในอนาคต การลงทุนทองคำยังน่าพิจารณาสำหรับการกระจายความเสี่ยงและรักษามูลค่า แต่ต้องอาศัยการวิเคราะห์ละเอียดและเฝ้าติดตามตลาดอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่พลาดโอกาสหรือหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่ไม่คาดคิด
ราคาทองคำในวันที่ 13 กันยายน 2566 มีการปรับเปลี่ยนอย่างไรบ้าง?
ในวันที่ 13 กันยายน 2566 ราคาทองคำมีการปรับเปลี่ยนทั้งหมด 2 ครั้ง โดยปรับขึ้น 50 บาทในครั้งแรก และปรับลง 100 บาทในครั้งที่สอง ทำให้ราคาสุทธิลดลง 50 บาทจากราคาเปิดตลาด
ปัจจัยหลักที่ทำให้ราคาทองคำไทยขึ้นลงในวันนั้นคืออะไร?
ปัจจัยหลักคือการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในตลาดโลก (Spot Gold) ซึ่งได้รับอิทธิพลจากการรอคอยข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ และการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ
ถ้าจะซื้อขายทองคำแท่งหรือทองรูปพรรณ ควรดูราคาจากแหล่งใดที่เชื่อถือได้?
ควรดูราคาจาก สมาคมค้าทองคำ ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลอย่างเป็นทางการและน่าเชื่อถือที่สุดในประเทศไทย
ราคาทองคำ ณ วันที่ 13 กันยายน 2566 มีความสำคัญอย่างไรเมื่อเทียบกับช่วงเวลาอื่น ๆ ในปีนั้น?
ราคาทองคำในวันนี้เป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มการเคลื่อนไหวตลอดเดือนกันยายน ซึ่งมักเป็นช่วงที่มีความผันผวนจากข่าวสารเศรษฐกิจสำคัญ การลดลงในวันนั้นอาจสะท้อนถึงความไม่แน่นอนของตลาดในช่วงเวลานั้น
ค่ากำเหน็จทองคำคืออะไร และมีผลต่อราคาทองรูปพรรณอย่างไรบ้าง?
ค่ากำเหน็จคือค่าใช้จ่ายในการแปรรูปทองคำให้เป็นเครื่องประดับหรือทองรูปพรรณ ซึ่งจะถูกเพิ่มเข้าไปในราคาทองคำแท่ง ทำให้ราคาทองรูปพรรณมีราคาขายออกที่สูงกว่าทองคำแท่ง และมีราคาซื้อคืนที่ต่ำกว่า
นักลงทุนควรพิจารณาอะไรบ้างเมื่อดูข้อมูลราคาทองคำย้อนหลังเพื่อการลงทุนในอนาคต?
นักลงทุนควรพิจารณาแนวโน้มราคาในระยะยาว, ปัจจัยทางเศรษฐกิจโลกและในประเทศที่ส่งผลต่อราคา, ความสัมพันธ์ระหว่างราคาทองโลกและค่าเงินบาท รวมถึงเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในอดีตเพื่อทำความเข้าใจการตอบสนองของตลาด
ราคาทองคำในตลาดโลกมีผลต่อราคาทองคำในประเทศไทยโดยตรงหรือไม่?
มีผลโดยตรงอย่างมาก เนื่องจากประเทศไทยเป็นผู้นำเข้าทองคำเกือบทั้งหมด การเปลี่ยนแปลงของราคาทองโลกจึงสะท้อนมายังราคาทองในประเทศเกือบจะทันที
การแข็งค่าหรืออ่อนค่าของเงินบาทส่งผลต่อราคาทองคำในประเทศอย่างไร?
หากเงินบาทแข็งค่าขึ้น ราคาทองคำในประเทศจะถูกลงเมื่อแปลงจากดอลลาร์สหรัฐฯ ในทางกลับกัน หากเงินบาทอ่อนค่าลง ราคาทองคำในประเทศจะแพงขึ้น แม้ว่าราคาทองโลกจะคงที่ก็ตาม
นอกจากราคาทองคำรายวันแล้ว มีข้อมูลใดอีกบ้างที่นักลงทุนทองคำในไทยควรรู้?
นักลงทุนควรรู้ข้อมูลเกี่ยวกับ อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท-ดอลลาร์, ข่าวสารเศรษฐกิจโลกที่สำคัญ, นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ และความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตร ซึ่งล้วนส่งผลต่อราคาทองคำ
ทำไมราคาทองคำในประเทศไทยถึงมีทั้งราคาซื้อและราคาขายที่แตกต่างกัน?
ความแตกต่างระหว่างราคาซื้อและราคาขาย (Bid-Ask Spread) คือส่วนต่างที่ร้านทองหรือผู้ประกอบการใช้เป็นกำไรในการดำเนินการซื้อขาย รวมถึงครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ การขนส่ง และความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของราคา