## Swing Trade คืออะไร? ทำความเข้าใจกลยุทธ์ทำกำไรจากคลื่นราคาในระยะกลาง
### คำจำกัดความของ Swing Trade
Swing Trade หมายถึงวิธีการซื้อขายที่ตั้งใจจับจังหวะการเคลื่อนไหวของราคาในช่วงเวลาสั้นๆ ถึงปานกลาง ประมาณไม่กี่วันไปจนถึงสองสามสัปดาห์ หรือบางกรณีอาจยาวนานถึงเดือนเดียว เป้าหมายหลักคือการเกาะติดกับการแกว่งตัวของราคาภายในแนวโน้มใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นช่วงที่ราคาขึ้นหรือลง วิธีนี้อยู่ตรงกลางระหว่างการเทรดรายวันที่ต้องปิดตำแหน่งภายในวันเดียว กับการถือสินทรัพย์ยาวๆ หลายเดือนหรือหลายปี ทำให้ผู้เทรดมีเวลาคิดวิเคราะห์มากขึ้นโดยไม่ต้องเร่งรีบ แต่ยังคงความคล่องตัวในการหาผลตอบแทนจากตลาดได้ดี

### หลักการทำงานของ Swing Trade
หัวใจของ Swing Trade คือการค้นหาจุดพลิกผันของราคา เช่น จุดสูงสุดชั่วคราวหรือ Swing High และจุดต่ำสุดชั่วคราวหรือ Swing Low ผู้เทรดมักเลือกเปิดสถานะซื้อเมื่อราคาลงมาสัมผัสจุดต่ำที่คาดว่าจะเด้งกลับขึ้น หรือเปิดสถานะขายเมื่อราคาขึ้นถึงจุดสูงที่อาจปรับฐานลงมา การตัดสินใจเหล่านี้ส่วนใหญ่มาจากการศึกษากราฟ เช่น ลวดลายของแท่งเทียน รูปแบบราคา และเครื่องมือวิเคราะห์อื่นๆ เพื่อจับสัญญาณการเปลี่ยนทิศทางหรือการยืดเยื้อของแนวโน้ม ซึ่งช่วยให้ผู้เทรดสามารถวางแผนได้อย่างมีระบบมากขึ้น โดยเฉพาะในตลาดที่ราคาแกว่งตัวบ่อยๆ

### ข้อดีของการทำ Swing Trade สำหรับนักลงทุนไทย
ในมุมมองของนักลงทุนไทย Swing Trade มีจุดเด่นหลายอย่างที่ดึงดูดใจ โดยเฉพาะสำหรับคนที่อยากมีชีวิตการลงทุนที่สมดุลกับชีวิตประจำวัน ประการแรกคือความยืดหยุ่นในเรื่องเวลา ไม่ต้องจ้องหน้าจอทั้งวันเหมือนการเทรดรายวัน ทำให้เหมาะกับมนุษย์เงินเดือนหรือคนที่มีภาระอื่นๆ นอกจากนี้ ยังช่วยลดความเครียดเพราะไม่ต้องรับมือกับความผันผวนเล็กๆ น้อยๆ ทุกนาที การถือตำแหน่งนานกว่านั้นเปิดโอกาสให้กำไรต่อครั้งมีขนาดใหญ่กว่า และสามารถนำไปใช้กับตลาดหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นหุ้นไทยในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) สกุลเงินต่างประเทศ หรือแม้กระทั่งคริปโตฯ ที่กำลังมาแรง ที่สำคัญคือ ทุนเริ่มต้นไม่จำเป็นต้องเยอะมาก เมื่อเทียบกับการลงทุนยาวที่อาจต้องล็อกเงินไว้จำนวนมาก เพียงแค่ปรับขนาดการเทรดให้พอดี ก็เริ่มต้นได้ไม่ยาก
## เปรียบเทียบ Swing Trade กับกลยุทธ์ยอดนิยมอื่นๆ
เพื่อช่วยให้นักลงทุนไทยเห็นภาพรวมชัดเจนยิ่งขึ้น ลองมาดูการเปรียบเทียบระหว่าง Swing Trade กับวิธีการเทรดอื่นๆ ที่นิยมกันในตลาด ซึ่งจะช่วยให้คุณเลือกกลยุทธ์ที่เข้ากับสไตล์ตัวเองได้ดีกว่า
### Swing Trade vs. Day Trade: ความแตกต่างที่สำคัญ
| คุณสมบัติ | Swing Trade | Day Trade |
| :—————- | :—————————————— | :—————————————— |
| **ระยะเวลาถือครอง** | ไม่กี่วันถึงไม่กี่สัปดาห์ (ข้ามคืน) | ภายในหนึ่งวัน (ไม่ถือข้ามคืน) |
| **ความถี่ในการเทรด** | น้อยกว่า (ไม่กี่ครั้งต่อสัปดาห์/เดือน) | สูงมาก (หลายครั้งต่อวัน) |
| **เป้าหมายกำไร** | ทำกำไรจากคลื่นราคาที่ใหญ่กว่า | ทำกำไรจากความผันผวนเล็กน้อยในแต่ละวัน |
| **ความเสี่ยง** | มีความเสี่ยง Gap เปิด/ปิดตลาด, ข่าวสารข้ามคืน | ไม่มีความเสี่ยง Gap เปิด/ปิดตลาด |
| **เวลาหน้าจอ** | น้อยกว่า (วิเคราะห์ก่อนและหลังตลาดปิด) | ต้องเฝ้าหน้าจอเกือบตลอดเวลาทำการ |
| **การวิเคราะห์** | เน้นการวิเคราะห์ทางเทคนิคและปัจจัยที่ส่งผลระยะสั้น-กลาง | เน้นการวิเคราะห์ทางเทคนิคในกรอบเวลาสั้นมาก |
| **สภาพคล่อง** | เหมาะกับหุ้นที่มีสภาพคล่องปานกลางถึงสูง | เหมาะกับหุ้นที่มีสภาพคล่องสูงมาก |
การเทรดรายวันเหมาะกับคนที่มีเวลาว่างเยอะและทนต่อความผันผวนได้ดี ในขณะที่ Swing Trade ให้ความสะดวกสบายมากกว่า โดยเฉพาะสำหรับคนที่ชอบวิเคราะห์ลึกๆ ก่อนตัดสินใจ
### Swing Trade vs. Scalping Trade: ใครเร็วกว่ากัน?
Scalping Trade ถือเป็นกลยุทธ์ที่รวดเร็วที่สุด โดยมุ่งหาผลกำไรเล็กๆ น้อยๆ จากการเคลื่อนไหวเพียงไม่กี่จุดหรือไม่กี่สตางค์ต่อครั้ง แต่ต้องเทรดบ่อยมากในช่วงเวลาสั้นๆ แค่ไม่กี่วินาทีหรือนาที ซึ่งต้องการความไวในการตอบสนองและระบบที่แม่นยำ รวมถึงสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงสุดๆ แต่ Swing Trade ตรงกันข้าม ช้ากว่าและเน้นคลื่นราคาขนาดใหญ่กว่า ทำให้เหมาะกับคนที่ไม่อยากเครียดกับการตัดสินใจทันทีทันใด
### Swing Trade vs. Position Trade: มุมมองระยะยาว
Position Trade เป็นการลงทุนแบบยาวๆ ที่ถือสินทรัพย์ไว้หลายเดือนหรือหลายปี โดยอาศัยการวิเคราะห์พื้นฐานของบริษัทหรือภาพรวมเศรษฐกิจเป็นหลัก แตกต่างจาก Swing Trade ที่โฟกัสกับการแกว่งตัวระยะสั้น วิธีนี้เหมาะกับนักลงทุนที่ไม่ชอบตามตลาดบ่อยๆ และมั่นใจในศักยภาพเติบโตระยะยาวของสินทรัพย์นั้นๆ ซึ่งในตลาดไทยที่อาจมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันบ่อย Position Trade ช่วยลดความกังวลจากข่าวระยะสั้นได้ดี

## กลยุทธ์และเครื่องมือสำคัญสำหรับการทำ Swing Trade
ความสำเร็จในการ Swing Trade ขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์ที่เฉียบคมและวินัยที่มั่นคง ซึ่งช่วยให้คุณจับจังหวะตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ปล่อยให้อารมณ์มาครอบงำ
### การวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ควรรู้
ผู้เทรด Swing มักพึ่งพาเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจน เช่น เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ หรือ Moving Averages ที่ช่วยบอกแนวโน้มและจุดพลิกผัน เช่น การใช้ EMA 10 กับ 20 ที่ตัดกัน หรือ MA 50 กับ 200 สำหรับภาพรวมระยะกลาง นอกจากนี้ ดัชนี RSI ยังวัดความแรงของราคาเพื่อหาจุดที่ซื้อหรือขายเกินจริง ซึ่งอาจนำไปสู่การกลับตัว MACD เองก็ช่วยจับการเปลี่ยนแปลงของโมเมนตัมผ่านการตัดกันของเส้นหรือการเบี่ยงเบน ส่วน Bollinger Bands วัดความผันผวนและโซนที่ราคาอาจเด้งกลับสู่ค่าเฉลี่ย ซึ่งการรวมเครื่องมือเหล่านี้เข้าด้วยกันจะยกระดับความแม่นยำในการตัดสินใจ โดยเฉพาะในตลาดหุ้นไทยที่ราคามักแกว่งตามข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
### การกำหนดจุดเข้าและจุดออก
การวางจุดเข้าและออก รวมถึงการควบคุมความเสี่ยง เป็นส่วนที่ขาดไม่ได้ในการ Swing Trade จุดเข้ามักเกิดเมื่อราคายืนยันการเด้งจาก Swing Low หรือสัญญาณจากเครื่องมือ เช่น RSI ขึ้นจากโซนต่ำกว่า 30 หรือ MACD ตัดขึ้น สำหรับจุดออกเพื่อเอากำไร ควรตั้งตามแนวต้านหลักหรืออัตราส่วนเสี่ยงต่อผลตอบแทนอย่าง 1:2 หรือ 1:3 เพื่อให้คุ้มค่า ส่วนจุด Stop Loss ต้องชัดเจนเสมอ โดยวางต่ำกว่า Swing Low ล่าสุดหรือแนวรับสำคัญ เพื่อป้องกันการขาดทุนใหญ่หากตลาดไม่เป็นใจ ซึ่งในทางปฏิบัติ การทดสอบย้อนหลังหรือ backtesting จะช่วยปรับแต่งจุดเหล่านี้ให้เหมาะกับสไตล์ส่วนตัว
## Swing Trade ในบริบทของตลาดไทย: โอกาสและความท้าทาย
ในประเทศไทย การ Swing Trade มีเอกลักษณ์เฉพาะจากโครงสร้างตลาดและกฎระเบียบ ซึ่งเปิดโอกาสแต่ก็มาพร้อมความท้าทายที่ต้องระวัง โดยเฉพาะกับความผันผวนจากปัจจัยภายในและภายนอก
### แพลตฟอร์มและโบรกเกอร์ไทยที่รองรับ Swing Trade
นักลงทุนไทยมีตัวเลือกโบรกเกอร์และแพลตฟอร์มที่สะดวกสำหรับ Swing Trade ผ่านผู้ให้บริการในประเทศ เช่น Liberator ที่เป็นตัวเลือกใหม่ๆ ด้วยค่าคอมมิชชั่น 0% สำหรับหุ้นไทย เหมาะกับคนที่เทรดบ่อยแต่ไม่ต้องการค่าใช้จ่ายสูง Finansia Syrus Securities หรือ FSS มีเครื่องมือวิเคราะห์ครบถ้วนและแพลตฟอร์มหลากหลายสำหรับนักลงทุนมือเก๋า Yuanta Securities โดดเด่นด้วยทีมวิเคราะห์และคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ ส่วน Streaming เป็นแอปหลักที่โบรกเกอร์หลายแห่งใช้ มีฟีเจอร์วิเคราะห์พื้นฐาน ถ้าสนใจ Forex หรือ CFD สามารถใช้ MetaTrader 4/5 ผ่านโบรกเกอร์ต่างประเทศที่เชื่อถือได้และรองรับคนไทย
[ตาราง: เปรียบเทียบคุณสมบัติโบรกเกอร์ไทยสำหรับ Swing Trade (ตัวอย่าง)]
| โบรกเกอร์ | ค่าคอมมิชชั่น (หุ้นไทย) | แพลตฟอร์มเทรดหลัก | จุดเด่น |
| :————– | :———————- | :—————– | :————————————– |
| Liberator | 0% | Liberator App | ค่าคอมมิชชั่นต่ำ, เหมาะกับ Active Trader |
| Finansia Syrus | ตามเงื่อนไข | FSS iSmart, Streaming | เครื่องมือครบครัน, บทวิเคราะห์ |
| Yuanta Securities | ตามเงื่อนไข | Yuanta App, Streaming | บทวิเคราะห์, คำแนะนำ |
### ตัวอย่าง Swing Trade ในตลาดหุ้นไทย (SET)
ลองนึกภาพว่าคุณกำลังสแกนหุ้นใน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) แล้วเจอหุ้นตัวหนึ่งที่อยู่ในแนวโน้มขึ้นชัดเจน ราคาย่อลงใกล้เส้นค่าเฉลี่ย 50 วันซึ่งทำหน้าที่เป็นแนวรับ พร้อม RSI ที่เด้งขึ้นจากต่ำกว่า 30 และ MACD เตรียมตัดขึ้นเหนือเส้นสัญญาณ คุณอาจเข้าซื้อเมื่อแท่งเทียนปิดเหนือเส้นนั้นเพื่อยืนยัน ตั้ง Stop Loss ต่ำกว่า Swing Low ก่อนหน้าประมาณ 3-5% และ Take Profit ที่แนวต้านถัดไปหรือเมื่อ RSI สูงกว่า 70 แล้วเริ่มอ่อนแรง หลังจากถือไว้ 5 วัน ราคาขึ้นถึงเป้า คุณขายเอากำไร ซึ่งเป็นตัวอย่างง่ายๆ ที่เกิดขึ้นได้จริงในตลาดไทย โดยเฉพาะหุ้นขนาดกลางที่แกว่งตัวชัดเจน
### ข้อควรระวังและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องในประเทศไทย
ก่อนเริ่ม Swing Trade ในไทย ต้องเช็คให้แน่ใจว่าปฏิบัติตามกฎของ สำนักงาน ก.ล.ต. (SEC Thailand) และตลาดหลักทรัพย์ฯ รวมถึงเรื่องภาษีที่แตกต่างกันไป กำไรจากหุ้นใน SET สำหรับบุคคลธรรมดาโดยทั่วไปไม่โดนหักภาษี ณ ที่จ่าย แต่ Forex หรือคริปโตอาจซับซ้อนกว่านั้น ควรเลือกหุ้นที่มีสภาพคล่องดีเพื่อเข้า-ออกง่ายโดยไม่กระทบราคา และติดตามข่าวสำคัญ เช่น ผลประกอบการบริษัท นโยบายรัฐบาล หรือเหตุการณ์เศรษฐกิจใหญ่ๆ ที่อาจทำให้ตลาดสวิงแรง นอกจากนี้ ตลาดไทยบางช่วงผันผวนสูง ดังนั้นปรับขนาดเทรดให้พอดีกับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาใหญ่
## การจัดการความเสี่ยงและจิตวิทยาการเทรดสำหรับ Swing Trader
ถึงจะมีกลยุทธ์ดีแค่ไหน ถ้าขาดการจัดการความเสี่ยงและ mindset ที่แข็งแกร่ง ก็ยากที่จะอยู่รอดในตลาดระยะยาว โดยเฉพาะกับ Swing Trade ที่ต้องถือข้ามคืนบ่อยๆ
### วางแผนการเทรดและบริหารเงินทุน
เริ่มจากมีแผนการเทรดที่ชัดเจนทุกครั้ง โดยกำหนดสินทรัพย์เป้าหมาย กลยุทธ์ จุดเข้า-ออก และ Stop Loss ก่อนลงมือ สำหรับการบริหารเงิน ไม่ควรทุ่มเกิน 1-2% ของทุนทั้งหมดต่อเทรด เพื่อป้องกันการสูญเสียหนัก และใช้อัตราส่วน Risk-Reward ที่สมดุล เช่น 1:2 หมายถึงเสี่ยง 1 ส่วนเพื่อหวังกำไร 2 ส่วน ซึ่งช่วยให้แม้แพ้บ้างแต่ชนะรวมยังกำไร โดยในตลาดไทยที่ข่าวอาจกระทบกะทันหัน การมีแผนสำรองจะยิ่งสำคัญ
### ควบคุมอารมณ์และวินัยในการเทรด
จิตวิทยาการเทรดคือกุญแจสำคัญ ความโลภหรือกลัวอาจทำให้ละเลยแผน ดังนั้นต้องยึดมั่นในกฎที่ตั้งไว้ เช่น ตัดขาดทุนทันทีเมื่อถึง Stop Loss การจดบันทึกหรือ Trading Journal ทุกเทรดช่วยทบทวนจุดอ่อนและปรับปรุงได้ดี และจำไว้ว่าทุกความผิดพลาดคือโอกาสเรียนรู้ ไม่ใช่จุดจบ ซึ่งนักลงทุนไทยหลายคนที่ประสบความสำเร็จมักเน้นวินัยนี้เหนือสิ่งอื่นใด
## สรุป: Swing Trade เหมาะกับคุณหรือไม่?
Swing Trade เป็นทางเลือกที่ลงตัวสำหรับตลาดผันผวน โดยให้ความยืดหยุ่นด้านเวลา ไม่ต้องเฝ้าหน้าจอทั้งวันเหมือน Day Trade แต่ยังจับกำไรจากคลื่นราคาใหญ่ได้ดีกว่าการลงทุนยาว ถ้าคุณสนใจวิเคราะห์ทางเทคนิค มีวินัยสูง และจัดการความเสี่ยงเก่ง วิธีนี้ก็น่าจะเหมาะสม อย่างไรก็ตาม การเริ่มต้นด้วยการศึกษาและฝึกในบัญชีทดลอง หรือทุนน้อยๆ ก่อน เป็นขั้นตอนที่ขาดไม่ได้ การทำความเข้าใจประเภทของนักลงทุน และระดับความเสี่ยงที่สบายใจ จะช่วยให้คุณก้าวสู่การเทรดจริงได้อย่างมั่นใจ
## คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Swing Trade (FAQs)
Swing Trade คืออะไร และเหมาะกับนักลงทุนประเภทไหนในประเทศไทย?
Swing Trade คือกลยุทธ์การซื้อขายที่เน้นการทำกำไรจากความผันผวนของราคาในระยะกลาง (ไม่กี่วันถึงไม่กี่สัปดาห์) เหมาะสำหรับนักลงทุนไทยที่:
- มีงานประจำ ไม่สามารถเฝ้าหน้าจอได้ตลอดเวลา
- ต้องการโอกาสทำกำไรที่ใหญ่กว่า Day Trade แต่ไม่ต้องการถือยาวแบบ Position Trade
- มีความเข้าใจพื้นฐานด้านการวิเคราะห์ทางเทคนิคและสามารถบริหารความเสี่ยงได้
เริ่มต้นทำ Swing Trade ในตลาดหุ้นไทย ต้องใช้เงินทุนขั้นต่ำเท่าไหร่?
ไม่มีข้อกำหนดเงินทุนขั้นต่ำตายตัวสำหรับการทำ Swing Trade ในตลาดหุ้นไทย แต่ควรมีเงินทุนที่เพียงพอสำหรับการซื้อหุ้นขั้นต่ำ (Board Lot) ซึ่งโดยทั่วไปคือ 100 หุ้น รวมถึงค่าธรรมเนียมการซื้อขาย การเริ่มต้นด้วยเงินทุน 5,000 – 10,000 บาท สามารถทำได้ แต่การมีเงินทุนที่มากขึ้นจะช่วยให้สามารถบริหารความเสี่ยงและกระจายการลงทุนได้ดีขึ้น
Swing Trade แตกต่างจาก Day Trade และ Scalping อย่างไรในแง่ของความเสี่ยงและผลตอบแทน?
Swing Trade มีระยะเวลาถือครองนานกว่า Day Trade และ Scalping ทำให้มีโอกาสทำกำไรต่อครั้งได้มากกว่า แต่ก็มีความเสี่ยงจากการถือข้ามคืน (Overnight Risk) เช่น การเปิด Gap ของราคาในวันถัดไป Day Trade และ Scalping เน้นการทำกำไรเล็กน้อยในระยะเวลาสั้นมาก แต่ต้องเผชิญกับความถี่ในการเทรดที่สูงและค่าธรรมเนียมที่อาจสูงกว่า
โบรกเกอร์ไทยเจ้าไหนที่ได้รับความนิยมและมีเครื่องมือดีๆ สำหรับ Swing Trade หุ้นไทย?
โบรกเกอร์ไทยที่ได้รับความนิยมสำหรับ Swing Trade ได้แก่ Liberator (เน้นค่าคอมมิชชั่น 0%), Finansia Syrus, Yuanta Securities และ Kiatnakin Phatra Securities ซึ่งมักจะมีแพลตฟอร์มการซื้อขายอย่าง Streaming ที่มีเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคพื้นฐานให้ใช้งาน รวมถึงบทวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญ
การทำ Swing Trade ในตลาด Forex ของไทย มีข้อควรระวังอะไรเป็นพิเศษบ้าง?
การทำ Swing Trade ในตลาด Forex ของไทยมักทำผ่านโบรกเกอร์ต่างประเทศ ซึ่งอาจมีความเสี่ยงด้านกฎหมายและข้อบังคับที่ไม่ชัดเจนในประเทศไทย ควรเลือกโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือ ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานสากล และเข้าใจถึงความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยน (Currency Risk) และเลเวอเรจ (Leverage) ที่สูง
นักลงทุนไทยที่ทำ Swing Trade ต้องเสียภาษีกำไรจากการลงทุนอย่างไร?
สำหรับกำไรจากการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) บุคคลธรรมดาได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่สำหรับกำไรจากการเทรด Forex หรือคริปโตเคอร์เรนซี อาจต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามอัตราก้าวหน้า ซึ่งควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีเพื่อความถูกต้อง
ใช้เวลากี่วันในการถือครองสินทรัพย์สำหรับการทำ Swing Trade?
โดยทั่วไป การถือครองสินทรัพย์สำหรับการทำ Swing Trade จะอยู่ที่ประมาณ 2-10 วันทำการ แต่ก็อาจขยายได้ถึง 2-4 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของคลื่นราคาและกลยุทธ์ที่ใช้
มีแหล่งเรียนรู้ Swing Trade ภาษาไทยดีๆ แนะนำไหม?
มีแหล่งเรียนรู้ Swing Trade ภาษาไทยมากมาย เช่น บทความจากโบรกเกอร์หลักทรัพย์ เว็บไซต์ให้ความรู้ด้านการลงทุน (เช่น SET Education, Krungsri Plearn Plearn), ช่อง YouTube ของนักลงทุนไทยที่มีชื่อเสียง และกลุ่มชุมชนการลงทุนใน Facebook หรือ Pantip ที่มีการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์
ปัญหาหรือข้อผิดพลาดที่นักลงทุนไทยมักเจอในการทำ Swing Trade มีอะไรบ้าง?
นักลงทุนไทยมักเจอข้อผิดพลาด เช่น:
- ไม่ตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) ทำให้ขาดทุนหนัก
- การตัดสินใจด้วยอารมณ์ (ความโลภ/ความกลัว) แทนที่จะยึดตามแผน
- Overtrading (เทรดบ่อยเกินไป) หรือ Overtading (ลงเงินมากเกินไปในหนึ่งไม้)
- ไม่ทำ Trading Journal เพื่อเรียนรู้จากข้อผิดพลาด
- ไม่เข้าใจความเสี่ยงจากการถือข้ามคืน
การใช้เทคนิคอลอินดิเคเตอร์ใดบ้างที่ Swing Trader ไทยนิยมใช้และได้ผลดี?
Swing Trader ไทยนิยมใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคหลายชนิด ได้แก่:
- เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages)
- ดัชนีความสัมพันธ์ระหว่างราคา (RSI)
- MACD (Moving Average Convergence Divergence)
- Bollinger Bands
- Volume (ปริมาณการซื้อขาย)
การผสมผสานอินดิเคเตอร์เหล่านี้เข้าด้วยกันเพื่อยืนยันสัญญาณจะช่วยเพิ่มความแม่นยำได้