ปิ๊บ (Pip) และ พอยต์ (Point) คืออะไร? หน่วยวัดสำคัญที่คุณต้องรู้ในการเทรด Forex
การก้าวเข้าสู่โลกของการซื้อขายในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ หรือที่เราเรียกกันว่า Forex นั้น สิ่งแรกๆ ที่คุณจะต้องทำความเข้าใจคือหน่วยวัดการเปลี่ยนแปลงของราคา เช่นเดียวกับการที่เราวัดระยะทางเป็นกิโลเมตร หรือวัดน้ำหนักเป็นกิโลกรัม ในตลาด Forex เรามีหน่วยวัดเฉพาะที่ใช้กันทั่วโลก ซึ่งนั่นก็คือ ปิ๊บ (Pip) และ พอยต์ (Point) ครับ การทำความเข้าใจหน่วยวัดเหล่านี้ไม่ใช่แค่เรื่องทางเทคนิค แต่เป็นพื้นฐานสำคัญที่จะช่วยให้คุณอ่านกราฟราคาได้อย่างถูกต้อง วางแผนการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญที่สุด คือการบริหารความเสี่ยงได้อย่างแม่นยำ เรามาดูกันว่าหน่วยวัดทั้งสองนี้คืออะไร ทำงานอย่างไร และมีความสำคัญต่อการเทรดของคุณมากแค่ไหน
- ปิ๊บ (Pip) เป็นหน่วยที่วัดการเปลี่ยนแปลงราคาใน Forex
- พอยต์ (Point) เป็นหน่วยที่ใช้สำหรับการวัดราคาแบบละเอียด
- การเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่าง Pip และ Point สำคัญสำหรับการวางแผนการเทรด
ทำความรู้จัก Pip (ปิ๊บ): หน่วยมาตรฐานสากลของการเคลื่อนไหวราคา
Pip ย่อมาจากคำว่า Percentage in Point หรือบางครั้งก็เรียกว่า Price Interest Point ครับ มันคือหน่วยวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาที่เล็กที่สุดในตลาด Forex ที่เป็นมาตรฐานสากล ซึ่งเทรดเดอร์ทั่วโลกใช้สื่อสารกัน การเปลี่ยนแปลงของราคาเพียงเล็กน้อยในตลาด Forex จะถูกวัดด้วยหน่วย Pip นี้ ทำให้เราสามารถระบุได้ว่าคู่สกุลเงินนั้นๆ เคลื่อนที่ไปมากน้อยแค่ไหนในแต่ละช่วงเวลา
ลองนึกภาพตามว่า ถ้าคุณกำลังดูราคาคู่เงิน EUR/USD และราคาเปลี่ยนจาก 1.1050 เป็น 1.1051 การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้แหละครับ คือการเคลื่อนที่ 1 Pip นั่นเอง สำหรับคู่เงินส่วนใหญ่ที่มีการแสดงราคาในรูปแบบทศนิยม 4 ตำแหน่ง (ยกเว้นคู่เงินเยน) Pip จะอยู่ที่ตำแหน่งทศนิยมที่ 4 ครับ
คู่เงิน | ราคาเริ่มต้น | ราคาใหม่ | การเปลี่ยนแปลง (Pip) |
---|---|---|---|
EUR/USD | 1.1050 | 1.1051 | 1 Pip |
USD/JPY | 130.25 | 130.26 | 1 Pip |
GBP/USD | 1.3750 | 1.3755 | 5 Pip |
Point (พอยต์): หน่วยย่อยที่ละเอียดกว่า Pip
ในโลกของการเทรดที่ทันสมัยมากขึ้น โดยเฉพาะในตลาด Forex ที่มีความผันผวนและละเอียดอ่อน โบรกเกอร์ส่วนใหญ่จะแสดงราคาคู่เงินด้วยทศนิยมที่มากกว่า 4 ตำแหน่ง เพื่อให้การวัดราคามีความละเอียดมากยิ่งขึ้น นี่คือจุดที่ Point เข้ามามีบทบาทครับ
Point คือหน่วยที่เล็กกว่า Pip ครับ ใช้สำหรับการวัดการเคลื่อนไหวของราคาที่มีทศนิยมเพิ่มขึ้น สำหรับคู่เงินส่วนใหญ่ที่แสดงราคาด้วยทศนิยม 5 ตำแหน่ง (เช่น EUR/USD ที่แสดงราคา 1.10505) Point จะอยู่ที่ตำแหน่งทศนิยมที่ 5 ในขณะที่ Pip ยังคงอยู่ที่ตำแหน่งทศนิยมที่ 4 ครับ
ความสัมพันธ์ระหว่าง Pip และ Point: 1 Pip เท่ากับกี่ Point?
ความสัมพันธ์ระหว่างสองหน่วยวัดนี้เป็นสิ่งสำคัญที่คุณต้องจำให้แม่นครับ สำหรับคู่เงินส่วนใหญ่ที่ไม่ได้จับคู่กับเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) และแสดงราคาด้วยทศนิยม 5 ตำแหน่ง ความสัมพันธ์คือ 1 Pip จะเท่ากับ 10 Points
ยกตัวอย่างเช่น หากราคา EUR/USD เคลื่อนที่จาก 1.10500 เป็น 1.10510 การเคลื่อนไหวนี้คือ 1 Pip หรือเท่ากับ 10 Points นั่นเอง แต่ถ้าหากราคาเคลื่อนที่จาก 1.10500 เป็น 1.10501 นี่คือการเคลื่อนที่เพียง 1 Point ซึ่งก็คือ 0.1 Pip ครับ การทำความเข้าใจความสัมพันธ์นี้จะช่วยให้คุณคำนวณผลกำไรขาดทุนและวางแผนการเทรดได้อย่างถูกต้อง
การเคลื่อนไหวราคา | Pip | Point |
---|---|---|
1.10500 ไปที่ 1.10510 | 1 Pip | 10 Points |
1.10500 ไปที่ 1.10501 | 0.1 Pip | 1 Point |
ข้อยกเว้นสำหรับคู่เงิน Yen (JPY): การนับ Pip และ Point ที่แตกต่างออกไป
อย่างที่เรากล่าวไปข้างต้น มีข้อยกเว้นสำหรับคู่เงินที่จับคู่กับสกุลเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) เช่น USD/JPY, EUR/JPY, GBP/JPY เป็นต้น คู่เงินเหล่านี้มักจะแสดงราคาด้วยทศนิยมเพียง 2 ตำแหน่ง (หรือ 3 ตำแหน่งในโบรกเกอร์ที่แสดงราคาละเอียดขึ้น) การนับ Pip และ Point สำหรับคู่เงินเหล่านี้จึงแตกต่างจากคู่เงินอื่นๆ
สำหรับคู่เงิน JPY, Pip จะอยู่ที่ตำแหน่งทศนิยมที่ 2 ครับ (เช่น ราคา USD/JPY 130.55, เลข 5 ตัวสุดท้ายคือ Pip) และหากโบรกเกอร์แสดงราคาด้วยทศนิยม 3 ตำแหน่ง (เช่น 130.555) Point จะอยู่ที่ตำแหน่งทศนิยมที่ 3 ครับ ดังนั้น ความสัมพันธ์สำหรับคู่เงิน JPY คือ 1 Pip ก็ยังคงเท่ากับ 10 Points เช่นกัน แต่ตำแหน่งทศนิยมที่นับจะต่างออกไปครับ
การวัดระยะการเคลื่อนที่ของกราฟราคาด้วย Pip และ Point
เมื่อคุณดูกราฟราคาในแพลตฟอร์มการเทรด การวัดระยะการเคลื่อนที่ที่ผ่านมาหรือที่คาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้นนั้นเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เราใช้ Pip และ Point นี่แหละครับในการวัดระยะทางดังกล่าว
สำหรับคู่เงิน Forex ส่วนใหญ่ การวัดระยะจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งบนกราฟนิยมใช้หน่วย Point (โดยดูจากหลักสุดท้ายของราคา) แล้วแปลงกลับมาเป็นหน่วย Pip โดยการหารด้วย 10 เพื่อความง่ายในการสื่อสารและการคำนวณ ตัวอย่างเช่น หากราคาเคลื่อนที่ไป 150 Points สำหรับคู่เงิน 5 ตำแหน่งทศนิยม ก็หมายถึงราคาเคลื่อนที่ไป 15 Pips นั่นเองครับ
การวัดระยะนี้สำคัญมากในการวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น การวัดขนาดของแท่งเทียน, การวัดระยะการพักตัวของราคา, หรือการวัดเป้าหมายราคาจากรูปแบบกราฟต่างๆ การที่คุณสามารถแปลงหน่วยจาก Point เป็น Pip ได้อย่างรวดเร็วจะช่วยให้การวิเคราะห์ของคุณลื่นไหลมากยิ่งขึ้น
ตัวอย่างการวัดระยะ | Points | Pips |
---|---|---|
การเคลื่อนที่จากราคา 1.10500 ไป 1.10650 | 150 Points | 15 Pips |
การเคลื่อนที่จากราคา 1.10500 ไป 1.10590 | 90 Points | 9 Pips |
ความสำคัญของ Pip ในการวางแผนการเทรด: Take Profit และ Stop Loss
หนึ่งในบทบาทที่สำคัญที่สุดของ Pip คือการนำมาใช้ในการวางแผนการเทรดครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการกำหนดจุดทำกำไร (Take Profit – TP) และจุดตัดขาดทุน (Stop Loss – SL) การกำหนด TP และ SL เป็นการบริหารความเสี่ยงขั้นพื้นฐานที่เทรดเดอร์ทุกคนต้องทำ
เมื่อคุณเปิดสถานะเทรด คุณต้องตัดสินใจว่าคุณยินดีที่จะรับความเสี่ยงได้เท่าไร หรือต้องการทำกำไรที่ระยะห่างเท่าใดจากราคาเข้าเทรด ระยะห่างนี้จะถูกวัดเป็นหน่วย Pips ครับ ตัวอย่างเช่น คุณอาจจะวาง Stop Loss ห่างจากราคาเข้า 20 Pips และวาง Take Profit ห่างจากราคาเข้า 40 Pips การกำหนดระยะห่างเป็น Pips ทำให้แผนการเทรดของคุณชัดเจนและวัดผลได้
การกำหนด TP และ SL เป็น Pips ยังช่วยให้คุณสามารถเปรียบเทียบแผนการเทรดในคู่เงินที่แตกต่างกันได้ง่ายขึ้น แม้ว่ามูลค่าต่อ Pip ของแต่ละคู่เงินจะไม่เท่ากัน แต่ระยะห่างเป็น Pips ก็ยังเป็นตัวบ่งชี้ถึงความกว้างของการเคลื่อนไหวที่คุณคาดหวังหรือยอมรับความเสี่ยงได้
Pip, Lot Size และ Money Management: การบริหารความเสี่ยงด้วยหน่วยวัดราคา
การเข้าใจ Pip เป็นหัวใจสำคัญในการคำนวณขนาดการเทรด หรือที่เรียกว่า Lot Size เพื่อให้สอดคล้องกับแผนการบริหารเงินทุน (Money Management) ของคุณ การคำนวณมูลค่าของ 1 Pip ต่อขนาดการเทรดต่างๆ จะช่วยให้คุณทราบว่าการเคลื่อนที่ของราคา 1 Pip มีผลต่อยอดเงินในบัญชีของคุณเท่าใด ซึ่งสิ่งนี้จำเป็นมากต่อการควบคุมความเสี่ยงและหลีกเลี่ยงการ Overtrade ครับ
โดยทั่วไป มูลค่าของ 1 Pip จะขึ้นอยู่กับคู่เงินที่คุณเทรด ขนาด Lot Size ที่คุณใช้ และสกุลเงินของบัญชีเทรดของคุณ ตัวอย่างเช่น สำหรับคู่เงินที่มี USD เป็นสกุลเงินที่สอง (เช่น EUR/USD, GBP/USD) มูลค่าของ 1 Pip มักจะประมาณ 10 USD ต่อ Standard Lot (100,000 หน่วย) แต่สำหรับคู่เงินอื่นๆ หรือขนาด Lot Size ที่ต่างไป มูลค่านี้ก็จะแตกต่างกัน คุณสามารถคำนวณมูลค่า Pip Value นี้ได้ หรือใช้เครื่องมือคำนวณที่มีให้บนเว็บไซต์ของโบรกเกอร์ส่วนใหญ่ครับ
Lot Size | มูลค่า 1 Pip | คู่เงิน |
---|---|---|
Standard Lot (100,000) | 10 USD | EUR/USD |
Mini Lot (10,000) | 1 USD | GBP/USD |
Micro Lot (1,000) | 0.1 USD | USD/JPY |
เมื่อคุณทราบมูลค่าต่อ Pip แล้ว และได้กำหนดระยะ Stop Loss เป็น Pips ตามแผนการเทรด คุณก็จะสามารถคำนวณขนาด Lot Size ที่เหมาะสมได้ เพื่อให้จำนวนเงินที่สูญเสียหากราคาไปชน Stop Loss นั้น อยู่ในขอบเขตความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้ตามหลัก Money Management (เช่น ไม่เกิน 1-2% ของยอดเงินในบัญชีต่อการเทรดหนึ่งครั้ง)
ถ้าคุณกำลังมองหาแพลตฟอร์มที่ช่วยให้คุณจัดการความเสี่ยงและคำนวณขนาดการเทรดได้อย่างสะดวกสบาย พร้อมเครื่องมือที่หลากหลายสำหรับการเทรด Forex และ CFD สินค้าอื่นๆ Moneta Markets เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจครับ แพลตฟอร์มนี้มีเครื่องมือช่วยในการคำนวณและแสดงรายละเอียดของสถานะเทรดอย่างชัดเจน.
การนับ Pip ในการเทรดสินค้าอื่นๆ นอกเหนือจาก Forex
นอกจากคู่สกุลเงิน Forex แล้ว เรายังสามารถเทรดสินค้าทางการเงินอื่นๆ ได้อีกมากมาย เช่น ทองคำ (Gold), น้ำมัน (Oil), หรือดัชนีหุ้น (Indices) การนับ Pip สำหรับสินค้าเหล่านี้อาจมีหลักการที่แตกต่างจากการนับในคู่เงิน Forex ทั่วไปเล็กน้อย
สำหรับสินค้าบางประเภท เช่น ทองคำ หรือดัชนี การนับ Pip มักจะดูที่จำนวนเต็มหลักสุดท้ายก่อนทศนิยม หรือตามที่โบรกเกอร์กำหนดโดยเฉพาะ เนื่องจากมูลค่าการเคลื่อนไหว 1 หน่วยอาจไม่เท่ากับ 10 Points เสมอไป ขึ้นอยู่กับลักษณะของสินค้านั้นๆ และวิธีการแสดงราคาของโบรกเกอร์ครับ
สิ่งสำคัญคือ คุณจะต้องทำความเข้าใจวิธีการนับ Pip ที่ถูกต้องสำหรับแต่ละตราสารที่คุณต้องการเทรด โดยดูข้อมูลจากสเปคของตราสารนั้นๆ ที่โบรกเกอร์ของคุณแจ้งไว้ การทำความเข้าใจนี้จะช่วยให้คุณคำนวณมูลค่าการเคลื่อนไหวและวางแผนการเทรดได้อย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะเทรดคู่เงิน ทองคำ หรือสินค้ารูปแบบอื่น
Pip และ Point ในมุมมองโบรกเกอร์: ทำไมราคาถึงแสดงหลายตำแหน่งทศนิยม?
ในอดีต ราคาคู่เงิน Forex มักจะแสดงด้วยทศนิยม 4 ตำแหน่ง แต่ในปัจจุบัน โบรกเกอร์ส่วนใหญ่หันมาแสดงราคาด้วยทศนิยม 5 ตำแหน่ง (หรือ 3 ตำแหน่งสำหรับคู่เงินเยน) ซึ่งการเพิ่มตำแหน่งทศนิยมสุดท้ายนี้ก็คือการเพิ่มหน่วย Point เข้ามานั่นเองครับ
การแสดงราคาที่ละเอียดขึ้นด้วย Point มีข้อดีหลายประการ ประการแรกคือทำให้การซื้อขายมีความยืดหยุ่นและแม่นยำมากขึ้น เทรดเดอร์สามารถเข้าหรือออกสถานะที่ราคาที่ละเอียดกว่าเดิมได้ ประการที่สองคือทำให้สเปรด (ส่วนต่างราคาซื้อ-ขาย) สามารถแสดงได้อย่างละเอียดมากขึ้นเช่นกัน และประการสุดท้าย การมี Point ทำให้เทรดเดอร์สามารถเปิดสถานะด้วยขนาด Lot Size ที่เล็กลงได้ในบางกรณี ซึ่งช่วยให้การบริหารเงินทุนมีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยเฉพาะสำหรับเทรดเดอร์ที่มีเงินทุนไม่มากนัก
ในฐานะเทรดเดอร์ การที่คุณเข้าใจว่าทำไมโบรกเกอร์จึงแสดงราคาเช่นนี้ และสามารถแยกแยะระหว่าง Pip กับ Point ได้อย่างถูกต้อง จะช่วยให้คุณใช้ประโยชน์จากข้อมูลราคาที่โบรกเกอร์มีให้ได้อย่างเต็มที่
การเลือกโบรกเกอร์ที่แสดงราคาได้ละเอียด พร้อมเครื่องมือที่ช่วยในการวิเคราะห์และวางแผนก็เป็นสิ่งสำคัญ หากคุณกำลังพิจารณาโบรกเกอร์สำหรับเทรด Forex และ CFD ต่างๆ Moneta Markets มีแพลตฟอร์มที่รองรับการแสดงราคาที่ละเอียดและเครื่องมือครบครัน ทั้ง MT4, MT5, Pro Trader รวมถึงมีการกำกับดูแลจากหน่วยงานหลายแห่ง เช่น FSCA, ASIC, FSA ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจในการเทรดของคุณได้ครับ
บทสรุป: Pip และ Point เครื่องมือพื้นฐานสู่ความสำเร็จในการเทรด
Pip และ Point อาจฟังดูเป็นเพียงหน่วยวัดเล็กๆ น้อยๆ ในตลาด Forex แต่เชื่อเถอะครับว่าสองสิ่งนี้เป็นเครื่องมือพื้นฐานที่ทรงพลังและจำเป็นสำหรับเทรดเดอร์ทุกคน ตั้งแต่การอ่านกราฟราคา การวัดระยะการเคลื่อนไหว การกำหนดจุดเข้าและออกทำกำไร/ตัดขาดทุน ไปจนถึงการคำนวณขนาดการเทรดเพื่อบริหารความเสี่ยง ทั้งหมดนี้ล้วนเกี่ยวข้องกับการทำความเข้าใจ Pip และ Point อย่างถ่องแท้
การที่คุณสามารถนำความรู้เรื่อง Pip และ Point ไปประยุกต์ใช้ในการวางแผน Take Profit และ Stop Loss รวมถึงการคำนวณ Lot Size ให้สอดคล้องกับหลัก Money Management จะช่วยให้คุณเทรดได้อย่างมีแบบแผน ลดโอกาสในการตัดสินใจที่ผิดพลาดทางอารมณ์ และเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอในระยะยาว
จำไว้ว่า การเรียนรู้ไม่เคยสิ้นสุดในโลกของการเทรด การทำความเข้าใจพื้นฐานอย่างแน่นหนา จะเป็นบันไดขั้นแรกที่สำคัญที่จะนำพาคุณไปสู่ความสำเร็จในตลาดการเงินที่มีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ฝึกฝนการใช้หน่วยวัดเหล่านี้ให้ชำนาญ แล้วคุณจะพบว่าการวางแผนและบริหารการเทรดของคุณจะง่ายและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นครับ ขอให้คุณประสบความสำเร็จในการเทรด!
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับpips คือ
Q:ปิ๊บคืออะไร?
A:ปิ๊บ (Pip) คือหน่วยวัดการเปลี่ยนแปลงราคาจากการเทรด Forex ที่ใช้ในการคำนวณกำไรขาดทุน
Q:พอยต์แตกต่างจากปิ๊บอย่างไร?
A:พอยต์ (Point) เป็นหน่วยการวัดที่เล็กกว่าปิ๊บ โดยใช้การวัดราคาที่มีทศนิยมเพิ่มขึ้น
Q:1 ปิ๊บเท่ากับกี่พอยต์?
A:สำหรับคู่เงินทั่วไป 1 ปิ๊บจะเท่ากับ 10 พอยต์ ยกเว้นคู่เงินเยนญี่ปุ่น