พลังของ Nonfarm Payrolls: มากกว่าแค่ตัวเลขทางเศรษฐกิจ
สวัสดีครับ นักลงทุนและผู้ที่สนใจในโลกการเงินทุกท่าน รายงานการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐอเมริกา หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ Nonfarm Payrolls (NFP) เป็นหนึ่งในข้อมูลเศรษฐกิจที่ทั่วโลกจับตามากที่สุดในแต่ละเดือน ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น? ลองนึกภาพว่าเศรษฐกิจก็เหมือนร่างกายของเรา ตัวเลข NFP เปรียบเสมือนอัตราชีพจรที่บอกสุขภาพโดยรวมของตลาดแรงงาน ซึ่งเป็นกลไกสำคัญที่ขับเคลื่อนการใช้จ่ายของผู้บริโภค และกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศยักษ์ใหญ่แห่งนี้
- NFP เป็นตัวเลขที่มีการประกาศทุกเดือนซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน
- ตลาดการเงินตอบสนองต่อข้อมูล NFP ทันที ซึ่งสร้างความผันผวน
- การใช้จ่ายของผู้บริโภคอิงจากสุขภาพของตลาดแรงงานที่สะท้อนจาก NFP
คุณอาจสงสัยว่าตัวเลขเพียงตัวเดียวจะมีความสำคัญถึงขั้นทำให้ตลาดหุ้น ตลาด Forex และตลาดทองคำ ปั่นป่วนได้เชียวหรือ? คำตอบคือใช่ครับ เพราะตลาดการเงินนั้นไวต่อสัญญาณที่บ่งชี้ถึงแนวโน้มเศรษฐกิจในอนาคต และ NFP ก็เป็นหนึ่งในสัญญาณที่ชัดเจนที่สุด ถ้าคนมีงานทำเยอะ มีรายได้ดี พวกเขาก็มีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายมากขึ้น ซึ่งหมายถึงเศรษฐกิจจะเติบโต การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในตัวเลขนี้ สามารถเปลี่ยนมุมมองของนักลงทุนทั่วโลกที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ได้อย่างรวดเร็ว
ทำความเข้าใจพื้นฐาน: NFP คืออะไรและสำคัญอย่างไร
รายงานการจ้างงานนอกภาคการเกษตร หรือ Nonfarm Payrolls (NFP) คือตัวเลขที่วัดการเปลี่ยนแปลงจำนวนผู้มีงานทำในสหรัฐฯ ในช่วงเดือนที่ผ่านมา โดยนับรวมทุกภาคส่วน ยกเว้นภาคการเกษตร พนักงานภาครัฐบาล และพนักงานในครัวเรือนส่วนบุคคล รายงานนี้จัดทำโดยสำนักสถิติแรงงานของสหรัฐฯ (Bureau of Labor Statistics – BLS) และมักจะประกาศในวันศุกร์แรกของทุกเดือน
| ประเภทข้อมูล | รายละเอียดเพิ่มเติม |
|---|---|
| การประกาศ | วันศุกร์แรกของทุกเดือน |
| แหล่งข้อมูล | Bureau of Labor Statistics (BLS) |
| กลุ่มข้อมูลที่นับรวม | ทุกภาคส่วนยกเว้นการเกษตร, ภาครัฐ และครัวเรือน |
ความสำคัญของ NFP อยู่ที่บทบาทในการเป็น ตัวชี้วัดชั้นนำ (Leading Indicator) ของสุขภาพเศรษฐกิจ ตัวเลข NFP ที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งบ่งชี้ว่าบริษัทต่างๆ กำลังขยายตัว มีความต้องการแรงงานเพิ่มขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นทางธุรกิจและแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดี ในทางตรงกันข้าม ตัวเลข NFP ที่ลดลง หรือเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาด อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าเศรษฐกิจกำลังชะลอตัว
นอกจากนี้ NFP ยังส่งผลโดยตรงต่อ นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) หากตลาดแรงงานแข็งแกร่ง อัตราการว่างงานต่ำ Fed อาจพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยนี้เองที่มีผลกระทบอย่างมหาศาลต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ พันธบัตรรัฐบาล และตลาดสินทรัพย์อื่นๆ ทั่วโลก
ถอดรหัสรายงาน Non Farm ล่าสุด (ข้อมูล พ.ค. 2568 สำหรับเดือน เม.ย.): ตัวเลขบอกอะไรเราบ้าง
เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา ตลาดการเงินทั่วโลกก็ได้เฝ้ารอการประกาศตัวเลข Nonfarm Payrolls สำหรับเดือนเมษายนอย่างใจจ่อ และตัวเลขที่ออกมาก็มีประเด็นที่น่าสนใจให้เราวิเคราะห์อย่างละเอียด
- ตัวเลขจริง (Actual): การจ้างงานนอกภาคการเกษตรเพิ่มขึ้น 177,000 ตำแหน่ง
- ตัวเลขคาดการณ์ (Forecast): ตลาดคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 138,000 ตำแหน่ง
- ตัวเลขครั้งก่อน (Previous): เดือนมีนาคมเพิ่มขึ้น 185,000 ตำแหน่ง
| ประเภทตัวเลข | ตัวเลข |
|---|---|
| ตัวเลขจริง | 177,000 ตำแหน่ง |
| ตัวเลขคาดการณ์ | 138,000 ตำแหน่ง |
| ตัวเลขครั้งก่อน | 185,000 ตำแหน่ง |
จากตัวเลขเหล่านี้ เราเห็นอะไรบ้าง? สิ่งแรกที่ชัดเจนคือ ตัวเลขจริงที่ 177K นั้นสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้มาก (138K) ในทางหนึ่ง นี่เป็นสัญญาณเชิงบวกที่บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐฯ ยังคงมีความแข็งแกร่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ประเมินไว้ อย่างไรก็ตาม หากมองย้อนกลับไปที่ตัวเลขเดือนก่อนหน้า (มีนาคม) ซึ่งอยู่ที่ 185K เราจะเห็นว่า การจ้างงานใหม่มีการชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้าเล็กน้อย ซึ่งเป็นอีกแง่มุมที่ต้องนำมาพิจารณา
การที่ตัวเลขจริงสูงกว่าคาด มักสร้างแรงกดดันให้ เงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น และกดดัน ราคาทองคำ ในทันที เพราะสะท้อนถึงเศรษฐกิจที่อาจยังไม่จำเป็นต้องใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินในเร็ววัน แต่การชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้า ก็เป็นปัจจัยที่อาจทำให้การแข็งค่าของดอลลาร์หรือการอ่อนค่าของทองคำไม่รุนแรงเท่าที่ควรจะเป็น หากตัวเลขสูงกว่าคาดมากๆ และเป็นการเร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้า
เปรียบเทียบกับ ADP: สัญญาณที่ขัดแย้งกันหรือไม่?
ก่อนที่รายงาน NFP จะประกาศออกมาประมาณสองวัน ตลาดมักจะให้ความสนใจกับอีกรายงานหนึ่งคือ ADP Employment Change ซึ่งเป็นการนับจำนวนการจ้างงานในภาคเอกชนโดยบริษัท Automatic Data Processing (ADP) รายงานนี้มักถูกมองว่าเป็น ตัวชี้วัดล่วงหน้า (Precursor) หรือตัวคาดการณ์อย่างไม่เป็นทางการสำหรับ NFP แม้จะไม่ใช่ตัวเลขเดียวกันทั้งหมดก็ตาม
สำหรับเดือนเมษายน 2568 (ข้อมูลประกาศเมื่อ 1 พฤษภาคม 2568) ตัวเลข ADP ออกมาดังนี้:
- ตัวเลขจริง (Actual): การจ้างงานภาคเอกชนเพิ่มขึ้น 62,000 ตำแหน่ง
- ตัวเลขคาดการณ์ (Forecast): ตลาดคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 114,000 ตำแหน่ง
- ตัวเลขครั้งก่อน (Previous): เดือนมีนาคมเพิ่มขึ้น 147,000 ตำแหน่ง
| ประเภทข้อมูล ADP | ตัวเลข |
|---|---|
| ตัวเลขจริง | 62,000 ตำแหน่ง |
| ตัวเลขคาดการณ์ | 114,000 ตำแหน่ง |
| ตัวเลขครั้งก่อน | 147,000 ตำแหน่ง |
สิ่งที่น่าสังเกตคือ ตัวเลข ADP ล่าสุดนั้นต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก และ ลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งให้ภาพที่ค่อนข้างอ่อนแอของตลาดแรงงานภาคเอกชน ตรงกันข้ามกับตัวเลข NFP ที่ออกมาสูงกว่าคาด สิ่งนี้สร้างความซับซ้อนในการตีความแนวโน้มครับ
ความแตกต่างระหว่าง ADP และ NFP ไม่ใช่เรื่องแปลกเสมอไป เนื่องจากวิธีการเก็บข้อมูลและขอบเขตที่ต่างกัน แต่เมื่อความแตกต่างมีนัยสำคัญเช่นนี้ อาจทำให้นักวิเคราะห์ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบว่า สัญญาณใดคือภาพสะท้อนตลาดแรงงานที่แท้จริงมากกว่ากัน หรือตลาดแรงงานอาจกำลังส่งสัญญาณที่ผสมผสานและไม่ชัดเจนนัก
NFP เชื่อมตรงถึงเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) ได้อย่างไร?
ความสัมพันธ์ระหว่าง Nonfarm Payrolls กับ เงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) เป็นสิ่งที่นักลงทุนในตลาด Forex ทุกคนต้องทำความเข้าใจ เป็นกลไกที่ค่อนข้างตรงไปตรงมาตามหลักเศรษฐศาสตร์พื้นฐาน
- เมื่อ NFP ออกมาดีกว่าที่คาด (หรือสูงขึ้น): นี่คือสัญญาณว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังแข็งแกร่ง ซึ่งจะเพิ่มความน่าสนใจในการลงทุนในสินทรัพย์ที่อิงกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ เช่น หุ้น หรือพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เงินทุนจากทั่วโลกจะไหลเข้าสู่สหรัฐฯ เพื่อลงทุนในสินทรัพย์เหล่านี้ และในการลงทุนเหล่านั้น นักลงทุนจำเป็นต้องใช้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ความต้องการที่เพิ่มขึ้นนี้ส่งผลให้ เงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ
- เมื่อ NFP ออกมาแย่กว่าที่คาด (หรือลดลง): นี่คือสัญญาณว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังชะลอตัวลง อาจทำให้นักลงทุนกังวลและดึงเงินลงทุนออกจากสินทรัพย์เสี่ยง ความต้องการเงินดอลลาร์ก็จะลดลง ส่งผลให้ เงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ
สำหรับตัวเลข NFP ล่าสุดที่ 177K สูงกว่าคาด 138K นั้น โดยทั่วไปแล้ว ควรเป็นปัจจัยหนุนให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น ในระยะสั้น เราจึงอาจเห็นคู่สกุลเงินหลักอย่าง EUR/USD ปรับตัวลง หรือ USD/JPY ปรับตัวขึ้นหลังจากประกาศตัวเลข อย่างไรก็ตาม ระดับการแข็งค่าหรืออ่อนค่าจะขึ้นอยู่กับ “ขนาด” ของความประหลาดใจ (Surprise) ของตัวเลข และปัจจัยเศรษฐกิจอื่นๆ ในขณะนั้นด้วย
ปฏิกิริยาของทองคำ: การเต้นรำของสินทรัพย์ปลอดภัย
หากเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เปรียบเสมือนราชินีแห่งสกุลเงินในตลาด Forex ทองคำ ก็มักถูกมองว่าเป็นราชาแห่ง สินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven Asset) ในยามที่เศรษฐกิจโลกเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน หรือมีความเสี่ยงทางการเงินสูง นักลงทุนมักจะหันไปลงทุนในทองคำเพื่อรักษามูลค่าของเงินทุน ซึ่งตรงกันข้ามกับแนวคิดการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าในยามเศรษฐกิจดี
ความสัมพันธ์ระหว่าง Nonfarm Payrolls กับราคาทองคำจึงมักเป็นไปในทิศทาง ผกผัน (Inverse Relationship) กับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
- เมื่อ NFP ออกมาดีกว่าที่คาด (เศรษฐกิจแข็งแกร่ง): สัญญาณเศรษฐกิจที่ดีทำให้ความกังวลลดลง นักลงทุนรู้สึกปลอดภัยที่จะลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำจึงลดลง ส่งผลให้ ราคาทองคำมักจะปรับตัวลดลง
- เมื่อ NFP ออกมาแย่กว่าที่คาด (เศรษฐกิจอ่อนแอ): สัญญาณเศรษฐกิจที่ไม่ดีเพิ่มความกังวลและไม่แน่นอน นักลงทุนมองหาสินทรัพย์ปลอดภัยเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ความต้องการทองคำจึงเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ ราคาทองคำมักจะปรับตัวสูงขึ้น
จากตัวเลข NFP ล่าสุดที่สูงกว่าคาด ซึ่งบ่งชี้ถึงเศรษฐกิจที่อาจแข็งแกร่งกว่าที่ประเมินไว้ มีแนวโน้มที่จะกดดันราคาทองคำให้ปรับตัวลดลง ในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม ตลาดทองคำยังคงได้รับอิทธิพลจากปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย เช่น อัตราเงินเฟ้อ นโยบายอัตราดอกเบี้ยที่คาดการณ์ และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ดังนั้น แม้ NFP จะเป็นปัจจัยสำคัญ แต่ก็ไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่กำหนดทิศทางราคาทองคำทั้งหมด
ฝ่าพายุ Non Farm: ทำความเข้าใจความผันผวนในตลาด
สิ่งที่ทำให้ช่วงเวลาการประกาศตัวเลข Nonfarm Payrolls เป็นที่กล่าวขานในหมู่นักลงทุน คือ ความผันผวน (Volatility) ที่สูงมาก ตลาด Forex และตลาดทองคำสามารถเคลื่อนไหวหลายร้อยจุดได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่นาทีหลังการประกาศ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น?
สาเหตุหลักมาจาก ความไม่แน่นอน (Uncertainty) เกี่ยวกับตัวเลขจริง และ ปริมาณการซื้อขาย (Trading Volume) ที่สูงมากในช่วงเวลานั้น นักลงทุนและสถาบันการเงินทั่วโลกต่างรอตัวเลขนี้เพื่อปรับพอร์ตการลงทุนและกลยุทธ์การซื้อขาย เมื่อตัวเลขประกาศออกมา ข้อมูลใหม่นี้จะถูกประมวลผลและตอบสนองในตลาดทันที ซึ่งนำไปสู่การเคลื่อนไหวของราคาที่รุนแรง
ความผันผวนนี้ทำให้เกิดความเสี่ยงหลายอย่างที่คุณต้องระวัง:
- Spread กว้างขึ้น: Spread คือส่วนต่างระหว่างราคา Bid และ Ask ในช่วงที่มีความผันผวนสูงและสภาพคล่องในตลาดลดลง Spread มักจะถ่างออก ทำให้ต้นทุนการซื้อขายของคุณสูงขึ้น
- Slippage: คือการที่คำสั่งซื้อขายของคุณไม่ได้รับการจับคู่ที่ราคาที่คุณต้องการ แต่ได้รับการจับคู่ที่ราคาที่แย่กว่า เนื่องจากราคาเคลื่อนที่เร็วมากในช่วงประกาศ ตัวอย่างเช่น คุณตั้ง Buy Limit ไว้ที่ 1800 แต่ราคาลงไปถึง 1798 แล้วดีดกลับ คำสั่งของคุณอาจถูกเปิดที่ 1798 แทน 1800
- Gap: คือการที่ราคากระโดดข้ามช่วงราคาไป โดยไม่มีการซื้อขายเกิดขึ้นในช่วงนั้น Gapping มักเกิดขึ้นเมื่อมีข่าวสำคัญมากๆ และทำให้ราคาเปิดกระโดดข้ามราคาปิดไป
| ความเสี่ยงที่ต้องระวัง | คำอธิบาย |
|---|---|
| Spread กว้างขึ้น | ต้นทุนการซื้อขายสูงขึ้น |
| Slippage | คำสั่งซื้อขายไม่ตรงราคาที่ตั้งใจ |
| Gap | ราคาเปิดกระโดดข้ามช่วงราคา |
การซื้อขายในช่วงเวลา Non Farm จึงเป็นเหมือนการวิ่งเข้าไปในพายุ หากคุณไม่มีการเตรียมตัวที่ดี หรือไม่มีกลยุทธ์ที่รัดกุม ความเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินลงทุนมีสูงมาก
ความเสี่ยงและโอกาส: การซื้อขายในช่วงประกาศ NFP
แม้ความผันผวนในช่วงประกาศ NFP จะมีความเสี่ยงสูง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันนำมาซึ่ง โอกาสในการทำกำไร สำหรับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์และมีการวางแผนที่ดี การเคลื่อนไหวของราคาที่รวดเร็วสามารถสร้างผลตอบแทนที่สูงได้ในเวลาอันสั้น อย่างไรก็ตาม สำหรับนักลงทุนมือใหม่ หรือผู้ที่ยังไม่คุ้นเคยกับสภาวะตลาดที่ผันผวนรุนแรง การเข้าซื้อขายในช่วงเวลานี้อาจไม่ใช่แนวคิดที่ดีนัก
- ใช้ Position Size ที่เหมาะสม: ลดขนาดการซื้อขายของคุณลง เพื่อให้การเคลื่อนไหวของราคาที่รุนแรงไม่ส่งผลกระทบต่อบัญชีของคุณมากเกินไป
- ตั้ง Stop Loss: กำหนดจุดตัดขาดทุนที่ชัดเจนเสมอ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าโบรกเกอร์ของคุณมีระบบการทำงานที่ดีในช่วงที่มีความผันผวนสูง
- หลีกเลี่ยง Leverage ที่สูงเกินไป: Leverage สูงขยายได้ทั้งกำไรและขาดทุน ในสภาวะที่ผันผวนสูง การใช้ Leverage มากเกินไปอาจทำให้บัญชีของคุณถูก Margin Call ได้ง่าย
| แนวทางการบริหารความเสี่ยง | คำอธิบาย |
|---|---|
| ตั้ง Stop Loss | กำหนดจุดตัดขาดทุนที่ชัดเจน |
| ตรวจสอบระบบโบรกเกอร์ | เพื่อให้มั่นใจว่าไม่เกิดปัญหาช่วงความผันผวน |
| ใช้ Position Size ที่เหมาะสม | ลดขนาดการซื้อขายเพื่อไม่ให้ผลกระทบมาก |
หากคุณตัดสินใจที่จะซื้อขายในช่วง Non Farm สิ่งสำคัญที่สุดคือ การบริหารจัดการความเสี่ยง (Risk Management) เราไม่สามารถควบคุมตลาดได้ แต่เราควบคุมการตัดสินใจของเราได้
หากคุณกำลังมองหาแพลตฟอร์มการซื้อขายที่รองรับความผันผวนสูง และมีเครื่องมือบริหารจัดการความเสี่ยงครบครัน รวมถึงให้ข้อมูลและการวิเคราะห์ที่แม่นยำ Moneta Markets เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนไทย แพลตฟอร์มจากออสเตรเลียนี้มีเครื่องมือและฟีเจอร์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้คุณรับมือกับสภาวะตลาดต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
มากกว่าแค่ NFP: ปัจจัยอื่นที่ขับเคลื่อนตลาด
แม้ Nonfarm Payrolls จะเป็นข่าวเศรษฐกิจที่ทรงอิทธิพล แต่สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าตลาดการเงินนั้นซับซ้อนและได้รับอิทธิพลจากปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย การพิจารณา NFP เพียงอย่างเดียวอาจทำให้คุณพลาดภาพรวมได้
ปัจจัยสำคัญอื่นๆ ที่เราควรติดตามรวมถึง:
- อัตราเงินเฟ้อ (Inflation): ตัวเลขเช่น Consumer Price Index (CPI) และ Producer Price Index (PPI) มีผลอย่างมากต่อการตัดสินใจด้านอัตราดอกเบี้ยของ Fed
- อัตราดอกเบี้ย: การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยของ Fed มีผลกระทบโดยตรงต่อต้นทุนการกู้ยืม การใช้จ่าย และการลงทุน
- ผลประกอบการของบริษัท (Corporate Earnings): รายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่สะท้อนถึงสุขภาพของภาคธุรกิจ
- เหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitical Events): สงคราม ความขัดแย้งทางการค้า หรือความไม่แน่นอนทางการเมือง สามารถส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและความผันผวนของตลาดได้อย่างรวดเร็ว
- สุนทรพจน์ของเจ้าหน้าที่ Fed: คำพูดของประธาน Fed และสมาชิกคณะกรรมการคนอื่นๆ มักมีเบาะแสเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินในอนาคต
| ปัจจัยที่สำคัญ | คำอธิบาย |
|---|---|
| อัตราเงินเฟ้อ | มีผลต่อการตัดสินใจด้านอัตราดอกเบี้ยของ Fed |
| อัตราดอกเบี้ย | กระทบต่อต้นทุนการกู้ยืม |
| ผลประกอบการของบริษัท | สะท้อนถึงสุขภาพของภาคธุรกิจ |
การวิเคราะห์ตลาดควรครอบคลุมปัจจัยเหล่านี้ทั้งหมด เพื่อให้คุณมีมุมมองที่รอบด้านมากที่สุด ก่อนตัดสินใจลงทุนในสินทรัพย์ใดๆ
สร้างกลยุทธ์การเทรดของคุณ: ภูมิปัญญาสำหรับวัน Non Farm
สำหรับนักลงทุน โดยเฉพาะผู้ที่เพิ่งเริ่มต้น การรับมือกับรายงาน Nonfarm Payrolls อาจดูน่ากลัว แต่ด้วยความเข้าใจและการเตรียมตัวที่เหมาะสม คุณจะสามารถนำข้อมูลนี้มาใช้ประโยชน์ได้
แนวทางในการสร้างกลยุทธ์ของคุณสำหรับวัน NFP อาจรวมถึง:
- ศึกษาข้อมูลล่วงหน้า: ทราบกำหนดการประกาศ คาดการณ์ของตลาด และตัวเลขย้อนหลัง
- วิเคราะห์สถานการณ์ก่อนประกาศ: ตลาดมีแนวโน้มอย่างไรก่อนข่าวออก? มีปัจจัยอื่นใดที่อาจส่งผลกระทบร่วมด้วยหรือไม่?
- ตัดสินใจว่าจะเทรดในช่วงข่าวหรือไม่: หากยังไม่มั่นใจในทักษะหรือแผนการบริหารความเสี่ยง การเฝ้ารออาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
การเลือกใช้เครื่องมือและแพลตฟอร์มที่เหมาะสมก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน แพลตฟอร์มที่มีความเสถียร การส่งคำสั่งที่รวดเร็ว และเครื่องมือวิเคราะห์ครบครัน สามารถช่วยให้คุณดำเนินตามแผนการซื้อขายได้อย่างราบรื่น Moneta Markets ให้บริการแพลตฟอร์มการซื้อขายชั้นนำอย่าง MT4, MT5 และ Pro Trader พร้อมคุณสมบัติที่หลากหลาย เพื่อสนับสนุนการเทรดของคุณในทุกสภาวะตลาด
บทสรุป: สิ่งที่ได้เรียนรู้จากรอบ Non Farm นี้
รายงานการจ้างงานนอกภาคการเกษตรล่าสุดที่ 177K ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้นั้น เป็นสัญญาณที่น่าสนใจเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานสหรัฐฯ และมีแนวโน้มที่จะส่งผลหนุนให้ เงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น ขณะที่ ราคาทองคำ อาจถูกกดดัน อย่างไรก็ตาม ตัวเลข ADP ที่ออกมาค่อนข้างอ่อนแอ และการชะลอตัวลงเล็กน้อยของ NFP จากเดือนก่อนหน้า ก็เป็นแง่มุมที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ
สิ่งที่ชัดเจนที่สุดคือช่วงเวลาการประกาศ NFP ยังคงเป็นช่วงเวลาที่ ตลาดมีความผันผวนสูงมาก ซึ่งนำมาทั้งโอกาสและความเสี่ยง คุณในฐานะนักลงทุน จำเป็นต้องเตรียมตัวให้พร้อม ทำความเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เช่น Spread, Slippage, Gap และที่สำคัญที่สุดคือการมี แผนการซื้อขาย และ บริหารจัดการความเสี่ยง อย่างเคร่งครัด
ตลาดการเงินนั้นเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การเรียนรู้และปรับตัวอยู่เสมอคือกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ ขอให้การวิเคราะห์นี้เป็นประโยชน์ในการตัดสินใจลงทุนของคุณ และขอให้ทุกการซื้อขายของคุณประสบความสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ครับ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับแนวโน้ม non farm วันนี้
Q：ทำไมข้อมูล NFP ถึงสำคัญสำหรับนักลงทุน?
A：ข้อมูล NFP เป็นตัวชี้วัดสุขภาพเศรษฐกิจและส่งผลต่อนโยบายการเงินของ Fed ซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจลงทุนของนักลงทุน.
Q：การประกาศตัวเลข NFP ส่งผลกระทบต่อมูลค่าของเงินดอลลาร์อย่างไร?
A：ตัวเลข NFP ที่ออกมาดีกว่าคาดมักส่งผลให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ขณะที่ตัวเลขที่แย่กว่าจะทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง.
Q：การเทรดในช่วง NFP มีความเสี่ยงอย่างไร?
A：การเทรดในเวลานั้นมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากความผันผวนที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจเกิด Spread กว้างขึ้นและ Slippage
