non farm payroll คืออะไร 2025: ทำความเข้าใจดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่นักลงทุนต้องรู้

Table of Contents

Nonfarm Payrolls คืออะไร? ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่นักลงทุนต้องรู้

สวัสดีครับนักลงทุนทุกท่าน วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดตัวหนึ่งของโลก นั่นก็คือ Nonfarm Payrolls หรือตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐอเมริกา คุณอาจเคยได้ยินชื่อนี้บ่อยครั้ง โดยเฉพาะเมื่อใกล้ถึงวันศุกร์แรกของเดือน แต่คุณรู้หรือไม่ว่าทำไมตัวเลขเพียงตัวเลขเดียวนี้ถึงมีพลังมหาศาลในการขับเคลื่อนตลาดการเงินทั่วโลก ทั้งค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ราคาทองคำ และแม้กระทั่งตลาดหุ้น บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกถึงแก่นของ Nonfarm Payrolls อธิบายว่ามันคืออะไร มีความสำคัญอย่างไร และคุณในฐานะนักลงทุน ควรจะรับมืออย่างไรกับข้อมูลสำคัญนี้ เหมือนกับเรากำลังเรียนรู้ภาษาใหม่ๆ ที่จะช่วยให้เราเข้าใจโลกการเงินได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

ข้อสำคัญเกี่ยวกับ Nonfarm Payrolls ได้แก่:

  • เป็นข้อมูลที่มีการประกาศเดือนละครั้งในวันศุกร์แรกของเดือน
  • มีอิทธิพลต่อราคาเงินดอลลาร์ ราคาทองคำ และตลาดหุ้น
  • เป็นตัวชี้วัดที่สะท้อนถึงสุขภาพโดยรวมของเศรษฐกิจสหรัฐฯ
องค์ประกอบ รายละเอียด
จำนวนการจ้างงาน นับเฉพาะจ้างงานในภาคที่ไม่ใช่การเกษตรประมาณ 80%
การจัดทำรายงาน ดำเนินการโดยกรมสถิติแรงงานของสหรัฐอเมริกา (BLS)
สำคัญต่อ การวิเคราะห์เศรษฐกิจ การลงทุน การตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงิน

เจาะลึกความหมาย: Nonfarm Payrolls นับอะไรบ้าง?

ก่อนอื่นเลย เรามาทำความเข้าใจกันให้ชัดเจนว่า Nonfarm Payrolls คืออะไรกันแน่ ตามชื่อเลยครับ มันคือจำนวนตัวเลขผู้มีงานทำในสหรัฐอเมริกา แต่มีข้อแม้สำคัญคือ “นอกภาคการเกษตร” นั่นหมายความว่า ตัวเลขนี้จะนับรวมการจ้างงานในอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ไม่ใช่การทำฟาร์มหรือเกษตรกรรม ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 80% ของแรงงานทั้งหมดในสหรัฐฯ

แล้วงานแบบไหนบ้างที่รวมอยู่ใน Nonfarm Payrolls?

  • การจ้างงานในภาคบริการ (Services) เช่น ร้านอาหาร, โรงพยาบาล, ธนาคาร, ร้านค้าปลีก
  • การจ้างงานในภาคการผลิต (Manufacturing) เช่น โรงงานอุตสาหกรรม
  • การจ้างงานในภาคก่อสร้าง (Construction)
  • การจ้างงานภาครัฐบาล (Government) ทั้งระดับรัฐบาลกลาง รัฐ และท้องถิ่น

ส่วนการจ้างงานที่ ไม่นับรวม ในตัวเลข Nonfarm Payrolls ได้แก่:

  • การจ้างงานในภาคการเกษตร (Farm Workers)
  • ลูกจ้างในครัวเรือน (Household Workers) เช่น แม่บ้าน, พ่อครัวส่วนตัว
  • พนักงานในองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร (Non-profit Organizations) เช่น โบสถ์, โรงเรียนเอกชนบางแห่ง
  • พนักงานที่ทำงานรับราชการทหาร (Military Personnel)

ตัวเลขนี้จัดทำและประกาศโดยกรมสถิติแรงงานของสหรัฐอเมริกา (Bureau of Labor Statistics – BLS) ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งภายใต้กระทรวงแรงงานของสหรัฐฯ คุณจะเห็นว่าขอบเขตการนับมีความเฉพาะเจาะจง เพื่อให้ได้ภาพที่ชัดเจนของกิจกรรมทางเศรษฐกิจหลักๆ ที่ขับเคลื่อนประเทศ

การแสดงแนวคิดดัชนีทางเศรษฐกิจ

ทำไม Nonfarm Payrolls จึงเป็นดัชนีชี้นำทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุด?

คุณอาจสงสัยว่าแค่ตัวเลขคนมีงานทำ ทำไมถึงสำคัญนัก? ลองคิดแบบนี้ครับ การจ้างงานเปรียบเสมือนชีพจรของเศรษฐกิจ เมื่อผู้คนมีงานทำ พวกเขาก็จะมีรายได้ และเมื่อมีรายได้ พวกเขาก็จะนำไปใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าและบริการต่างๆ การใช้จ่ายของผู้บริโภคคือเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราว 70% ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวม

ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงของตัวเลข Nonfarm Payrolls จึงสะท้อนถึงสุขภาพโดยรวมของเศรษฐกิจได้อย่างชัดเจน:

  • ถ้า Nonfarm Payrolls เพิ่มขึ้น จำนวนมากในแต่ละเดือน หมายความว่าบริษัทต่างๆ กำลังมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับการผลิตหรือการให้บริการที่เพิ่มขึ้น นี่เป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจกำลังขยายตัว ประชาชนมีงานทำ มีรายได้ มีความมั่นใจในการใช้จ่ายมากขึ้น
  • ถ้า Nonfarm Payrolls ลดลง หรือเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดการณ์ หมายความว่าการจ้างงานชะลอตัวลง หรืออาจมีการปลดพนักงาน ซึ่งบ่งชี้ถึงเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัว ผู้คนอาจกังวลเรื่องรายได้และลดการใช้จ่ายลง

ในฐานะ ดัชนีชี้นำ (Leading Indicator) ตัวเลข Nonfarm Payrolls มักจะให้ภาพแนวโน้มของเศรษฐกิจในอนาคตอันใกล้ ก่อนที่ตัวชี้วัดอื่นๆ จะตามมา ดังนั้น นักวิเคราะห์และนักลงทุนจึงให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับตัวเลขนี้ เพื่อประเมินทิศทางของเศรษฐกิจว่าจะเติบโตหรือถดถอย

การเปลี่ยนแปลงใน Nonfarm Payrolls ความหมาย
เพิ่มขึ้นอย่างมาก เศรษฐกิจกำลังขยายตัว
ลดลงหรือเพิ่มน้อย เศรษฐกิจกำลังชะลอตัว

กำหนดการประกาศ Nonfarm Payrolls และแหล่งข้อมูลที่คุณควรติดตาม

ตัวเลข Nonfarm Payrolls นี้มีความพิเศษตรงที่มันถูกจับตาและรอคอยจากทั่วโลก ประกาศเดือนละครั้งเท่านั้นครับ โดยปกติแล้วจะประกาศใน วันศุกร์แรกของเดือน

สำหรับเวลาในการประกาศนั้น จะเป็นเวลา 8:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออกของสหรัฐอเมริกา (EST) ซึ่งตรงกับเวลาในประเทศไทยคือ 20:30 น. ในช่วงเวลาปกติ (ประมาณต้นเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนมีนาคม) และจะตรงกับเวลา 19:30 น. ในช่วงที่มีการปรับเวลาออมแสง (Daylight Saving Time) ของสหรัฐฯ (ประมาณกลางเดือนมีนาคม – ต้นเดือนพฤศจิกายน)

แหล่งข้อมูลที่คุณสามารถติดตามการประกาศตัวเลขนี้ได้แบบเรียลไทม์ และมักจะมีปฏิทินเศรษฐกิจให้ดูย้อนหลังและคาดการณ์ล่วงหน้า ได้แก่:

  • Forexfactory.com: เว็บไซต์นี้ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักเทรด Forex มีปฏิทินเศรษฐกิจที่ชัดเจนมาก แสดงทั้งตัวเลขก่อนหน้า (Previous), คาดการณ์ (Forecast), และตัวเลขจริง (Actual)
  • Investing.com: เป็นอีกเว็บไซต์หนึ่งที่มีปฏิทินเศรษฐกิจที่ครอบคลุมข้อมูลจากทั่วโลก รวมถึง Nonfarm Payrolls ด้วย
  • เว็บไซต์ของกรมสถิติแรงงานสหรัฐฯ (BLS): หากคุณต้องการข้อมูลต้นฉบับและรายละเอียดเชิงลึก คุณสามารถเข้าชมได้โดยตรงที่ bls.gov แต่อาจต้องใช้ทักษะในการตีความข้อมูลทางสถิติอยู่บ้าง

การรู้กำหนดเวลาและแหล่งที่มาของข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะความรวดเร็วในการเข้าถึงข้อมูลสามารถสร้างความได้เปรียบในการตัดสินใจลงทุนได้ครับ

แรงงานในสภาพแวดล้อมเมืองที่หลากหลาย

ผลกระทบโดยตรง: Nonfarm Payrolls กับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ

นี่คือจุดที่ Nonfarm Payrolls มีอิทธิพลมากที่สุดในตลาดการเงินโลกครับ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีขนาดใหญ่และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นสกุลเงินสำรองหลักของโลก และถูกใช้ในการแลกเปลี่ยนสินค้ารวมถึงพลังงานเกือบทั้งหมด การเปลี่ยนแปลงในเศรษฐกิจสหรัฐฯ ย่อมส่งผลกระทบโดยตรงต่อค่าเงินดอลลาร์

ความสัมพันธ์ระหว่าง Nonfarm Payrolls และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นไปในทิศทางที่ค่อนข้างตรงไปตรงมา:

  • เมื่อ ตัวเลข Nonfarm Payrolls ออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ (Strong NFP) หมายความว่าการจ้างงานเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง เศรษฐกิจเติบโตได้ดีกว่าที่คิด นี่เป็นสัญญาณเชิงบวกสำหรับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ความเชื่อมั่นในค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ก็จะเพิ่มขึ้น ทำให้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ
  • เมื่อ ตัวเลข Nonfarm Payrolls ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ (Weak NFP) หมายความว่าการจ้างงานชะลอตัวลง หรือแย่กว่าที่คาด นี่เป็นสัญญาณเชิงลบสำหรับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ความกังวลต่อเศรษฐกิจจะเพิ่มขึ้น และความต้องการถือครองเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ก็จะลดลง ทำให้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ

ผลกระทบนี้มักจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรงในช่วงเวลาประกาศตัวเลขครับ คู่สกุลเงินหลักที่มีเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นส่วนประกอบ เช่น EUR/USD, GBP/USD, AUD/USD, USD/JPY มักจะมีการเคลื่อนไหวที่ผันผวนอย่างมาก

สถานการณ์ Nonfarm Payrolls ผลกระทบต่อค่าเงินดอลลาร์
สูงกว่าที่คาดการณ์ ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า
ต่ำกว่าที่คาดการณ์ ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า

Nonfarm Payrolls กับทองคำและตลาดหุ้น: ความสัมพันธ์ที่คุณต้องรู้

นอกจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แล้ว Nonfarm Payrolls ยังส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อราคาทองคำและตลาดหุ้นอีกด้วยครับ ความสัมพันธ์เหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นผลพวงมาจากความเชื่อมโยงกับทิศทางเศรษฐกิจและความคาดหวังต่อนโยบายการเงิน

สำหรับ ราคาทองคำ:

ทองคำมักถูกมองว่าเป็น สินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอนหรือมีความเสี่ยง:

  • เมื่อ ตัวเลข Nonfarm Payrolls ออกมาแข็งแกร่ง (Strong NFP) บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ แข็งแรง มีความเสี่ยงทางเศรษฐกิจน้อยลง นักลงทุนจะมีความต้องการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำลดลง และอาจหันไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงกว่าแต่ให้ผลตอบแทนดีกว่าแทน ซึ่งมักจะทำให้ ราคาทองคำปรับตัวลดลง นอกจากนี้ Nonfarm Payrolls ที่แข็งแกร่งยังเพิ่มโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งทำให้การถือครองทองคำที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ยมีความน่าสนใจน้อยลง
  • เมื่อ ตัวเลข Nonfarm Payrolls ออกมาอ่อนแอ (Weak NFP) บ่งชี้ถึงเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัว ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนจะเพิ่มขึ้น นักลงทุนจะหันมาหาสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำมากขึ้น เพื่อปกป้องความมั่งคั่ง ซึ่งมักจะทำให้ ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น Nonfarm Payrolls ที่อ่อนแอยังลดโอกาสที่ Fed จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย หรืออาจนำไปสู่การลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเป็นผลดีต่อราคาทองคำ

สำหรับ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ:

ตลาดหุ้นมักจะสะท้อนถึงผลประกอบการของบริษัทต่างๆ ซึ่งเชื่อมโยงโดยตรงกับสุขภาพเศรษฐกิจโดยรวม:

  • เมื่อ ตัวเลข Nonfarm Payrolls ออกมาแข็งแกร่ง (Strong NFP) บ่งชี้ถึงเศรษฐกิจที่ขยายตัว การจ้างงานที่เพิ่มขึ้นหมายถึงผู้บริโภคมีกำลังซื้อมากขึ้น บริษัทมีรายได้และผลกำไรที่ดีขึ้น นี่เป็นสัญญาณเชิงบวกสำหรับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่ ซึ่งมักจะทำให้ ตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น ดัชนีหุ้นหลักๆ เช่น S&P 500, Dow Jones Industrial Average, Nasdaq Composite มักจะตอบสนองในเชิงบวก
  • เมื่อ ตัวเลข Nonfarm Payrolls ออกมาอ่อนแอ (Weak NFP) บ่งชี้ถึงเศรษฐกิจที่ชะลอตัว การจ้างงานที่ลดลงหรือซบเซาบ่งชี้ถึงกำลังซื้อของผู้บริโภคที่อาจลดลง ส่งผลกระทบต่อยอดขายและผลกำไรของบริษัท ซึ่งเป็นสัญญาณเชิงลบสำหรับตลาดหุ้น มักจะทำให้ ตลาดหุ้นปรับตัวลดลง

ความสัมพันธ์เหล่านี้เป็นหลักการโดยทั่วไป แต่ในความเป็นจริง การเคลื่อนไหวของตลาดอาจซับซ้อนกว่านั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ ในขณะนั้นด้วย เช่น การคาดการณ์ของตลาดก่อนการประกาศ หรือการตีความรายละเอียดปลีกย่อยของรายงาน (เช่น อัตราค่าจ้างเฉลี่ยต่อชั่วโมง)

ถ้าคุณกำลังมองหาโอกาสในการซื้อขายสินทรัพย์เหล่านี้ เช่น ทองคำ หรือดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ในรูปแบบของ สัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFDs) การทำความเข้าใจว่า Nonfarm Payrolls ส่งผลกระทบอย่างไรเป็นสิ่งสำคัญมาก

ภาพแสดงให้เห็นถึงพลศาสตร์ของตลาดการเงิน

Nonfarm Payrolls กับนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed)

นอกเหนือจากผลกระทบโดยตรงต่อตลาดแล้ว Nonfarm Payrolls ยังเป็นข้อมูลสำคัญที่ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve หรือ Fed) ใช้ในการพิจารณากำหนดทิศทางของ นโยบายการเงิน ของประเทศ

หนึ่งในเป้าหมายหลักของ Fed คือการรักษาเสถียรภาพราคา (ควบคุมเงินเฟ้อ) และส่งเสริมการจ้างงานสูงสุด (Maximum Employment) ตัวเลข Nonfarm Payrolls เป็นเครื่องมือสำคัญในการประเมินเป้าหมายด้านการจ้างงาน Fed จะดูว่าตลาดแรงงานแข็งแกร่งพอที่จะสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยไม่ก่อให้เกิดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อมากเกินไปหรือไม่

  • ถ้า ตัวเลข Nonfarm Payrolls แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจเติบโตดี ตลาดแรงงานตึงตัว นี่อาจทำให้เกิดแรงกดดันด้านค่าจ้างและนำไปสู่เงินเฟ้อ Fed อาจพิจารณา ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อชะลอเศรษฐกิจและควบคุมเงินเฟ้อ
  • ถ้า ตัวเลข Nonfarm Payrolls อ่อนแอลง บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจชะลอตัว ตลาดแรงงานอ่อนแอลง ความเสี่ยงเงินเฟ้อลดลง Fed อาจพิจารณา คงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำ หรืออาจ ลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการจ้างงาน

ดังนั้น การประกาศ Nonfarm Payrolls ไม่ได้เป็นเพียงตัวเลขในอดีต แต่ยังเป็นตัวชี้นำถึงความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินของ Fed ซึ่งมีผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อต้นทุนการกู้ยืม อัตราแลกเปลี่ยน และความน่าสนใจของการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ทั่วโลก

ร่องรอยประวัติศาสตร์: Nonfarm Payrolls บอกอะไรเราเกี่ยวกับเศรษฐกิจที่ผ่านมา?

การย้อนดูข้อมูลประวัติศาสตร์ของ Nonfarm Payrolls สามารถบอกเล่าเรื่องราวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้เป็นอย่างดี ตัวเลขนี้เริ่มเก็บรวบรวมอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี 1939 และมีการปรับปรุงวิธีการนับมาเรื่อยๆ

เราสามารถเห็นผลกระทบของเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจและวิกฤติต่างๆ ผ่านการเปลี่ยนแปลงของตัวเลข Nonfarm Payrolls ได้:

  • ปี 1994: เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีการขยายตัวที่แข็งแกร่ง ตัวเลข Nonfarm Payrolls เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่มีการจ้างงานเติบโตดี
  • ปี 2008-2009 (วิกฤติซับไพรม์): ตัวเลข Nonfarm Payrolls ดิ่งลงอย่างรุนแรง มีการจ้างงานลดลงหลายแสนตำแหน่งต่อเดือน เป็นสัญญาณที่ชัดเจนของภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ
  • ปี 2020 (วิกฤติโควิด-19): ในเดือนเมษายน 2020 ตัวเลข Nonfarm Payrolls ลดลงถึง 20.5 ล้านตำแหน่งภายในเดือนเดียว ซึ่งเป็นสถิติการลดลงครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ บ่งชี้ถึงผลกระทบมหาศาลของการล็อกดาวน์ต่อตลาดแรงงาน แต่หลังจากนั้นตัวเลขก็ฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็วในเดือนต่อๆ มาจากการที่เศรษฐกิจเริ่มกลับมาเปิดทำการ

การศึกษาข้อมูลในอดีตเหล่านี้ช่วยให้เราเข้าใจได้ดีขึ้นว่า Nonfarm Payrolls มีความเชื่อมโยงกับการฟื้นตัวและถดถอยของเศรษฐกิจอย่างไร และเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับนักลงทุนในการประเมินสถานการณ์ปัจจุบันและอนาคต

ข้อควรระวังในการซื้อขายช่วงประกาศ Nonfarm Payrolls

อย่างที่เราได้กล่าวไปแล้ว การประกาศ Nonfarm Payrolls เป็นช่วงเวลาที่ตลาดมีความ ผันผวนสูงมาก การเคลื่อนไหวของราคาอาจเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรงในเวลาเพียงไม่กี่นาทีหรือวินาที ซึ่งอาจเป็นโอกาสในการทำกำไรสำหรับนักเทรดที่เชี่ยวชาญ แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงลิ่วเช่นกัน

นี่คือข้อควรระวังที่คุณควรรู้:

  • ความผันผวนสูง (High Volatility): ราคาอาจพุ่งขึ้นหรือดิ่งลงอย่างรวดเร็วและรุนแรงในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง (หรือทั้งสองทิศทาง!)
  • ค่า Spread ถ่างขึ้น (Spread Widening): ในช่วงที่มีข่าวสำคัญและปริมาณการซื้อขายสูง โบรกเกอร์อาจขยายค่า Spread (ส่วนต่างระหว่างราคาซื้อและราคาขาย) ให้กว้างกว่าปกติ ซึ่งทำให้ต้นทุนการเข้าและออกจากคำสั่งซื้อขายของคุณสูงขึ้น
  • Slippage: คำสั่งซื้อขายของคุณอาจไม่ได้ถูกจับคู่ที่ราคาที่คุณตั้งไว้ แต่ได้ราคาที่แย่กว่า (ทั้งตอนเข้าและออก) เนื่องจากราคาเคลื่อนไหวเร็วมาก
  • ความเสี่ยงที่สูงขึ้น (Increased Risk): ด้วยความผันผวนและปัจจัยอื่นๆ ที่กล่าวมา ทำให้โอกาสในการขาดทุนมีสูงมาก หากไม่มีการบริหารความเสี่ยงที่ดี

สำหรับนักลงทุนมือใหม่ หรือผู้ที่ยังไม่คุ้นเคยกับการซื้อขายในช่วงข่าวแรงๆ การ หลีกเลี่ยงการซื้อขายในช่วงเวลาประกาศ Nonfarm Payrolls อาจเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุดครับ รอให้ตลาดสงบลงและทิศทางราคาเริ่มชัดเจนก่อนค่อยตัดสินใจ

การบริหารความเสี่ยงและการใช้ Nonfarm Payrolls ในการตัดสินใจลงทุน

หากคุณตัดสินใจที่จะซื้อขายในช่วงประกาศ Nonfarm Payrolls หรือใช้ข้อมูลนี้ประกอบการตัดสินใจระยะยาว การมีแผนและกลยุทธ์ที่ชัดเจนเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

ประเด็นสำคัญคือ การบริหารความเสี่ยง (Money Management):

  • กำหนดขนาด Position Size อย่างรอบคอบ: อย่าใช้เงินจำนวนมากเกินไปในการเทรดครั้งเดียว โดยเฉพาะในช่วงที่ผันผวนสูง
  • ตั้ง Stop Loss เสมอ: คำสั่ง Stop Loss ช่วยจำกัดการขาดทุนของคุณ หากราคาเคลื่อนไหวผิดทางอย่างรวดเร็ว
  • พิจารณาการใช้ Pending Order: บางนักเทรดอาจใช้ Pending Order (เช่น Buy Stop/Sell Stop) เพื่อเข้าเทรดตามทิศทางที่ตลาด breakout หลังข่าวประกาศ แต่ก็ต้องระวังเรื่อง Slippage และ Fakeout ด้วย
  • ติดตามตัวเลขคาดการณ์ (Forecast): ตลาดมักจะปรับตัวตามความคาดหวังก่อนการประกาศ การเปรียบเทียบตัวเลขจริงกับตัวเลขคาดการณ์คือหัวใจสำคัญ (Actual vs Forecast)

นอกจากการเทรดระยะสั้นในช่วงประกาศแล้ว ข้อมูล Nonfarm Payrolls ยังมีประโยชน์สำหรับการลงทุนระยะยาวด้วยครับ ตัวเลขที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องอาจเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการลงทุนในตลาดหุ้น หรือบ่งชี้ถึงแนวโน้มการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ในระยะถัดไป ในทางกลับกัน ตัวเลขที่อ่อนแอต่อเนื่องอาจเป็นสัญญาณเตือนให้ระมัดระวังการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง

หากคุณกำลังพิจารณาที่จะเริ่มต้นการเดินทางในการซื้อขาย ฟอเร็กซ์ หรือสำรวจโอกาสในการลงทุนในสินค้าหลากหลายผ่าน สัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFDs) การเลือกแพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้และเหมาะสมกับสไตล์การเทรดของคุณเป็นสิ่งสำคัญมาก

ในตลาดที่มีความผันผวนสูง เช่น ช่วงที่ข่าว Nonfarm Payrolls ออกมา การมีแพลตฟอร์มที่ตอบสนองรวดเร็วและมีสภาพคล่องที่ดีจะช่วยให้การส่งคำสั่งซื้อขายของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น

หากคุณกำลังมองหาแพลตฟอร์มการซื้อขายที่น่าเชื่อถือและมีเครื่องมือที่หลากหลาย Moneta Markets เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนในประเทศไทย แพลตฟอร์มนี้มาจากออสเตรเลีย มีประวัติที่ดีและได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลหลายแห่งทั่วโลก

สรุป: Nonfarm Payrolls กุญแจสำคัญในการถอดรหัสเศรษฐกิจและการลงทุน

จากที่เราได้เรียนรู้กันมาทั้งหมด เราเห็นแล้วว่า Nonfarm Payrolls หรือ NFP ไม่ได้เป็นเพียงตัวเลขทางสถิติทั่วไป แต่เป็นดัชนีที่มีพลังในการขับเคลื่อนตลาดการเงินโลกอย่างมหาศาล มันสะท้อนสุขภาพของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นข้อมูลสำคัญที่กำหนดทิศทางของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ราคาทองคำ ตลาดหุ้น และนโยบายการเงินของ Fed

การทำความเข้าใจ non farm payroll คืออะไร ติดตามกำหนดการประกาศ และวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของตัวเลขนี้กับสินทรัพย์ต่างๆ เป็นสิ่งที่นักลงทุนทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่เทรดในตลาด Forex, ทองคำ, หรือดัชนีหุ้น ควรให้ความสำคัญอย่างยิ่ง แม้คุณจะไม่ได้เทรดในช่วงประกาศข่าวโดยตรง แต่ข้อมูลจาก Nonfarm Payrolls ก็ยังคงมีประโยชน์มหาศาลในการประเมินสภาวะเศรษฐกิจมหภาคและวางแผนการลงทุนในระยะยาว

จำไว้ว่าความรู้คือพลัง การเตรียมตัวและทำความเข้าใจข้อมูลสำคัญเหล่านี้ จะช่วยให้คุณตัดสินใจลงทุนได้อย่างมีข้อมูล ลดความเสี่ยง และเพิ่มโอกาสในการบรรลุเป้าหมายทางการเงินของคุณได้ครับ ขอให้ทุกท่านโชคดีกับการลงทุน!

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับnon farm payroll คือ

Q: Nonfarm Payrolls คืออะไร?

A: Nonfarm Payrolls คือข้อมูลการจ้างงานในสหรัฐฯ ที่ไม่รวมการจ้างงานในภาคการเกษตร ซึ่งแสดงถึงสุขภาพของเศรษฐกิจสหรัฐฯ

Q: ทำไม Nonfarm Payrolls ถึงสำคัญต่อการลงทุน?

A: Nonfarm Payrolls เป็นดัชนีที่สามารถบ่งบอกถึงแนวโน้มเศรษฐกิจและมีผลต่อค่าเงิน ราคาทองคำ และตลาดหุ้น

Q: ประกาศ Nonfarm Payrolls บ่อยแค่ไหน?

A: Nonfarm Payrolls จะประกาศเดือนละครั้งในวันศุกร์แรกของเดือน

發佈留言

發佈留言必須填寫的電子郵件地址不會公開。 必填欄位標示為 *