บทนำ: Swap Long คืออะไร? ทำไมเทรดเดอร์ต้องรู้?
ในวงการเทรด Forex ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยโอกาสและอุปสรรคเล็กน้อยที่อาจพลิกผันผลลัพธ์กำไรหรือขาดทุนได้อย่างน่าประหลาดใจ หนึ่งในนั้นคือค่า Swap หรือที่หลายคนเรียกติดปากว่าดอกเบี้ยข้ามคืน โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่เปิดสถานะซื้อหรือ Long Position และถือไว้เกินคืน การรู้จัก Swap Long ไม่ใช่แค่การทบทวนความหมายพื้นฐาน แต่เป็นกุญแจสำคัญในการควบคุมต้นทุนและวางแผนกลยุทธ์ให้ชาญฉลาดยิ่งขึ้น บทความนี้จะพาคุณสำรวจทุกมุมมองของ Swap Long ตั้งแต่หลักการพื้นฐาน วิธีการทำงาน ผลกระทบต่อการลงทุน จวบจนเคล็ดลับเฉพาะสำหรับนักเทรดชาวไทย ไม่ว่าจะเป็นการคัดเลือกโบรกเกอร์ การป้องกันความเสี่ยง หรือประเด็นภาษีที่มักถูกมองข้าม เพื่อให้คุณพร้อมรับมือและหาผลประโยชน์จากมันได้อย่างเต็มที่

เจาะลึกความหมายของ Swap และ Swap Long
Swap คืออะไร? พื้นฐานที่ต้องเข้าใจ
ค่า Swap หรือค่าธรรมเนียมข้ามคืนคือสิ่งที่นักเทรดต้องจ่ายหรือรับคืนเมื่อเปิดสถานะซื้อขายในตลาด Forex หรือ CFD แล้วถือไว้ยาวนานกว่าหนึ่งวัน มันถูกคำนวณและบันทึกเข้าในบัญชีตอนตลาดปิดประจำวันทำการ โดยต้นตอมาจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยระหว่างสกุลเงินคู่ที่คุณเลือกเทรด ซึ่งยึดหลักการสมดุลอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารกลางแต่ละแห่งกำหนดไว้ ธนาคารแห่งประเทศไทย มีอิทธิพลโดยตรงต่ออัตราดอกเบี้ยของเงินบาท ทำให้การเข้าใจพื้นฐานเหล่านี้กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ขาดไม่ได้ก่อนดำดิ่งสู่รายละเอียดของ Swap Long

Swap Long คืออะไร? เมื่อคุณถือสถานะซื้อ (Long Position)
สำหรับ Swap Long มันเกิดขึ้นเฉพาะเมื่อคุณเปิดสถานะซื้อหรือ Long Position แล้วปล่อยให้รันข้ามคืน ซึ่งหมายถึงการเข้าซื้อสกุลเงินหลักและขายสกุลเงินรองในคู่เทรดนั้น ถ้าดอกเบี้ยของสกุลเงินที่ซื้อสูงกว่าที่ขาย คุณอาจได้เงินคืนเป็นบวกหรือ Positive Swap ที่ช่วยเสริมกำไร แต่ถ้าต่ำกว่า คุณต้องจ่ายออกไปเป็น Negative Swap ซึ่งกลายเป็นภาระเพิ่มเติม นักเทรดที่ชอบถือยาวอย่าง Swing หรือ Position Trader จึงต้องใส่ใจเรื่องนี้ให้มาก เพราะมันอาจกำหนดชะตากรรมของพอร์ตลงทุน
กลไกการทำงานของ Swap Long: เกิดขึ้นได้อย่างไร?
บทบาทของอัตราดอกเบี้ยใน Swap Long
แกนกลางของ Swap Long คือช่องว่างอัตราดอกเบี้ยระหว่างสกุลเงินสองตัวในคู่ที่เทรด เช่น ถ้าคุณ Long ใน EUR/USD คือซื้อยูโรและขายดอลลาร์ ถ้าธนาคารกลางยุโรปกำหนดดอกเบี้ยสูงกว่าธนาคารกลางสหรัฐ คุณอาจได้ Swap บวก แต่ถ้าต่ำกว่า ก็ต้องจ่ายลบ โบรกเกอร์จะอ้างอิงข้อมูลจากตลาดระหว่างธนาคาร แล้วปรับแต่งด้วยค่าบริการของตัวเองเพื่อกำหนดอัตราสุดท้าย ลองนึกถึงคู่ AUD/JPY ที่ดอกเบี้ยออสเตรเลียสูงกว่าญี่ปุ่น ทำให้ Long Position มักได้ผลตอบแทนบวกที่น่าสนใจ

วันและเวลาในการคำนวณ Swap
การบันทึก Swap เข้าบัญชีเกิดขึ้นตอนสิ้นวันทำการของตลาด Forex โดยปกติคือ 17:00 น. ตามเวลานิวยอร์ก หรือราว 04:00-05:00 น. ในไทย โดยปรับตามเวลากลางวันฤดูร้อน แต่มีวันพิเศษที่ต้องระวังคือวันพุธ หรือ Triple Swap Day ที่ค่าธรรมเนียมจะถูกคูณสามเพื่อครอบคลุมวันหยุดสุดสัปดาห์เมื่อตลาดพักแต่สถานะยังค้าง นักเทรดที่วางแผนถือข้ามคืนช่วงกลางสัปดาห์จึงควรคำนึงถึงจุดนี้ให้ดี เพื่อไม่ให้ต้นทุนพุ่งสูงเกินคาด
ปัจจัยที่มีผลต่อค่า Swap Long และวิธีการคำนวณ
ปัจจัยหลักที่กำหนดค่า Swap Long
Swap Long ไม่ได้ขึ้นอยู่กับช่องว่างดอกเบี้ยอย่างเดียว แต่ยังมีองค์ประกอบอื่นที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้มันซับซ้อนแต่จัดการได้หากเข้าใจดี เช่น:
- ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย: นี่คือตัวกำหนดหลักว่าจะบวกหรือลบ และขนาดมากน้อยแค่ไหน
- นโยบายโบรกเกอร์: แต่ละแห่งมีกติกาแตกต่าง บางรายบวกค่าดำเนินการ หรือมีทางเลือกอย่าง บัญชี Swap Free สำหรับผู้ที่ต้องการข้ามค่าธรรมเนียม
- คู่สกุลเงิน: คู่ที่มีช่องว่างดอกเบี้ยกว้างอย่าง AUD/JPY หรือ NZD/USD มักให้ Swap ที่เด่นชัดกว่าคู่แคบๆ
- ขนาด Lot: สถานะใหญ่เท่าไหร่ Swap ก็เพิ่มตามสัดส่วนนั้น
- วันในสัปดาห์: พุธคือวันที่ต้องจ่ายสามเท่า
การพิจารณาปัจจัยเหล่านี้ช่วยให้นักเทรดปรับตัวได้ทันสถานการณ์
ตัวอย่างการคำนวณค่า Swap Long แบบง่ายๆ
การหาค่า Swap Long มักใช้จุดหรือมูลค่าต่อ Lot ตามที่โบรกเกอร์กำหนด สูตรพื้นฐานคือ:
ค่า Swap = (ขนาดสัญญา x จุด Swap x มูลค่า Pip) / อัตราแลกเปลี่ยน (ถ้าจำเป็น)
สมมติคุณ Long EUR/USD 1 Standard Lot ในฐานะเทรดเดอร์ไทย:
- ขนาดสัญญา: 100,000 หน่วย
- จุด Swap Long สำหรับ EUR/USD: -0.8 จุด (ลบ ต้องจ่าย)
- มูลค่า Pip: $10
- อัตราแลกเปลี่ยน EUR/USD: 1.0850
คำนวณ: (100,000 x -0.8 x 10) / 100,000 = -8 ดอลลาร์ต่อคืน
ดังนั้น ถือ 1 Lot ข้ามคืน คุณจ่ายราว 8 ดอลลาร์ แต่ถ้าพุธจะพุ่งเป็น 24 ดอลลาร์ ตัวอย่างนี้แสดงให้เห็นว่าการคำนวณง่ายแต่ต้องติดตามอัตราจริงเสมอ
Swap Long กับกลยุทธ์การเทรด: โอกาสและความเสี่ยง
Swap Long เป็นบวก vs. เป็นลบ: ผลกระทบต่อกำไรขาดทุน
- Positive Swap Long: คุณได้ดอกเบี้ยจากการถือซื้อข้ามคืน ซึ่งช่วยเพิ่มกำไรหรือลดขาดทุน โดยเฉพาะเมื่อสกุลเงินที่ซื้อมีดอกเบี้ยสูงกว่า นักเทรดมักใช้ใน Carry Trade เพื่อสะสมผลตอบแทนจากช่องว่างดอกเบี้ยระยะยาว
- Negative Swap Long: ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมที่หักจากกำไรหรือเพิ่มขาดทุน เมื่อสกุลเงินที่ซื้อมีดอกเบี้ยต่ำกว่า ถือยาวนานอาจทำให้ต้นทุนสะสมจนกลืนกินผลตอบแทนทั้งหมด
การแยกแยะผลกระทบเหล่านี้ช่วยปรับกลยุทธ์ได้ หากเทรดยาว เลือกคู่บวกเพื่อรายได้เสริม แต่ถ้าลบ อาจปิดก่อน rollover หรือหันไปเทรดสั้นเพื่อหลีกเลี่ยง
การบริหารความเสี่ยงและกลยุทธ์สำหรับ Swap Long
สำหรับนักเทรดไทย การจัดการ Swap Long คือส่วนขยายของการป้องกันความเสี่ยงทั้งระบบ:
- เลือกคู่เงิน: มุ่งคู่ที่ให้ Swap บวกถ้าถือยาว หรือเลี่ยงคู่ลบถ้าไม่อยากแบกต้นทุน
- กำหนดระยะถือ: Day Trader หรือ Scalper ไม่กระทบ Swap แต่ Swing หรือ Position Trader ต้องบวกมันเข้าเป้าหมายกำไร
- หลีก Triple Swap Day: อย่าถือคู่ลบข้ามพุธเว้นแต่กลยุทธ์ชัดเจน
- Carry Trade: ใช้ประโยชน์จาก Swap บวกโดยซื้อสกุลเงินดอกเบี้ยสูง ขายต่ำ แล้วรอทั้งดอกเบี้ยและราคาขึ้น
หลายคนในไทยชอบเทรดสั้นเพื่อข้าม Swap แต่ถ้าถือยาว การวางแผนเรื่องนี้คือสิ่งจำเป็นที่ช่วยรักษากำไร
เลือกโบรกเกอร์อย่างไรให้เหมาะกับ Swap Long? (สำหรับเทรดเดอร์ไทย)
การหาโบรกเกอร์ที่ใช่คือก้าวสำคัญสำหรับนักเทรดไทย โดยเฉพาะเรื่อง Swap ที่แต่ละแห่งมีโครงสร้างต่างกัน:
- ดูตาราง Swap: โบรกเกอร์ดีต้องเปิดเผยตารางชัดเจนบนเว็บ เปรียบเทียบ Long Swap สำหรับคู่ที่คุณชอบจากหลายเจ้า
- บัญชี Swap Free / Islamic Account: หลายแห่งมีตัวเลือกนี้สำหรับผู้ที่อยากข้าม Swap ด้วยเหตุผลศาสนาหรือต้นทุน แต่เช็คเงื่อนไขเพิ่มอย่างสเปรดกว้างหรือคอมสูง
- ความโปร่งใสและบริการ: เลือกที่มีข้อมูลชัดและทีมสนับสนุนตอบเร็วเมื่อสงสัยเรื่อง Swap
- ค่าอื่นๆ: อย่าลืมสเปรด คอม และค่าฝากถอน เพื่อให้ต้นทุนรวมสมดุลกับสไตล์เทรด
โบรกเกอร์ฮิตอย่าง XM หรือ Exness มักมีข้อมูล Swap ชัดบนเว็บ ช่วยให้นักเทรดตัดสินใจง่ายขึ้น
ค่า Swap Long และภาษีในประเทศไทย: สิ่งที่เทรดเดอร์ต้องรู้
ประเด็นภาษีคือสิ่งที่นักเทรดไทยมักกังวลและต้องวางแผนให้ดี แม้ Forex ในไทยยังไร้กฎเฉพาะสำหรับรายย่อย แต่หลักภาษีทั่วไปยังใช้ได้ กรมสรรพากร จัดรายได้จาก Forex เป็นเงินได้ตามมาตรา 40(4) หรือ 40(8) ตามรูปแบบเทรด
- Positive Swap: ถ้าได้บวก มันคือรายได้จากการถือสินทรัพย์ อาจรวมในกำไรเพื่อเสียภาษี ต้องบันทึกให้ครบ
- Negative Swap: ถ้าลบคือค่าใช้จ่ายที่หักจากกำไรได้ ถ้ากรมสรรพากรเห็นว่าเทรดคือกิจการ
คำแนะนำสำหรับเทรดเดอร์ไทย:
- บันทึกการเทรด: เก็บข้อมูลละเอียดรวม Swap บวก-ลบ สำหรับยื่นภาษี
- ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: กฎภาษียังคลุมเครือ คุยกับที่ปรึกษาภาษีเฉพาะทางเพื่อความมั่นใจ
- ติดตามการเปลี่ยน: กฎอาจปรับ ควรอัปเดตจากกรมสรรพากรเสมอ
การรู้ผลภาษีจาก Swap ช่วยวางแผนการเงินให้ถูกต้องและมั่นคง
สรุป: ควบคุม Swap Long เพื่อการเทรดที่มีประสิทธิภาพ
Swap Long คือส่วนสำคัญที่นักเทรด Forex โดยเฉพาะผู้ถือซื้อข้ามคืน ไม่ควรละเลย การเข้าใจลึกซึ้งถึงความหมาย กระบวนการ ปัจจัย และการคำนวณ จะช่วยให้คุณจัดการต้นทุนและกลยุทธ์ได้ดีเยี่ยม ไม่ว่าจะดึงประโยชน์จาก Positive Swap ใน Carry Trade หรือหลีก Negative Swap ที่กัดกำไร สำหรับนักเทรดไทย การดูนโยบายโบรกเกอร์และภาษียังช่วยเสริมความสำเร็จระยะยาว จำไว้ว่าความรู้คือเครื่องมือที่ทรงพลัง และการเชี่ยวชาญ Swap Long คือก้าวสู่การเป็นเทรดเดอร์ชั้นนำ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Swap Long (FAQ)
Q1: Swap Long กับ Swap Short ต่างกันอย่างไร? และควรใช้แบบไหนในสถานการณ์ใด?
Swap Long เกิดขึ้นเมื่อคุณถือสถานะซื้อ (Long Position) ข้ามคืน ในขณะที่ Swap Short เกิดขึ้นเมื่อคุณถือสถานะขาย (Short Position) ข้ามคืน โดยทั้งสองจะคำนวณจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของคู่เงิน แต่ทิศทางของ Swap อาจตรงข้ามกัน (เช่น ถ้า Long เป็นบวก Short อาจเป็นลบ หรือในทางกลับกัน) การเลือกใช้ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์และทิศทางตลาดที่คุณคาดการณ์ หากคุณเชื่อว่าราคาจะขึ้นและต้องการถือ Long คุณต้องพิจารณา Swap Long หากเชื่อว่าราคาจะลงและต้องการถือ Short คุณต้องพิจารณา Swap Short
Q2: ค่า Swap Long ที่โบรกเกอร์ (ชื่อโบรกเกอร์ยอดนิยมในไทย เช่น XM, Exness) แตกต่างกันอย่างไร และมีผลต่อการเลือกไหม?
ค่า Swap Long อาจแตกต่างกันในแต่ละโบรกเกอร์ยอดนิยมในไทย เช่น XM หรือ Exness เนื่องจากนโยบายการคิดค่าธรรมเนียมของโบรกเกอร์, แหล่งสภาพคล่อง, และค่า Markup ที่โบรกเกอร์บวกเพิ่ม การที่ค่า Swap แตกต่างกันแน่นอนว่ามีผลต่อการเลือกโบรกเกอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเทรดเดอร์ที่ถือสถานะข้ามคืนเป็นประจำ ควรเปรียบเทียบตาราง Swap ของโบรกเกอร์ต่างๆ เพื่อหาตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดกับกลยุทธ์และคู่เงินที่เทรดบ่อย
Q3: ฉันสามารถหลีกเลี่ยงค่า Swap Long ได้หรือไม่? มีบัญชีประเภท “Swap Free” สำหรับเทรดเดอร์ไทยไหม?
ได้ คุณสามารถหลีกเลี่ยงค่า Swap Long ได้โดยการไม่ถือสถานะข้ามคืน (เป็น Day Trader หรือ Scalper) หรือการเลือกใช้ “บัญชี Swap Free” (หรือ Islamic Account) ซึ่งโบรกเกอร์หลายรายมีให้บริการสำหรับเทรดเดอร์ไทย บัญชีประเภทนี้จะไม่มีการคิดค่า Swap แต่ก็อาจมีเงื่อนไขอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น สเปรดที่กว้างขึ้น หรือค่าคอมมิชชั่นที่สูงขึ้นเล็กน้อย ควรศึกษาข้อกำหนดและเงื่อนไขของแต่ละโบรกเกอร์อย่างละเอียดก่อนเลือกใช้
Q4: ถ้าถือออเดอร์ Long ข้ามคืนแล้วได้ค่า Swap เป็นบวกเสมอไปไหม? มีปัจจัยอะไรที่ทำให้เป็นลบได้บ้าง?
ไม่เสมอไป การที่คุณได้ค่า Swap เป็นบวกหรือลบนั้นขึ้นอยู่กับส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยระหว่างสกุลเงินที่คุณซื้อและสกุลเงินที่คุณขาย หากสกุลเงินที่คุณซื้อมีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าสกุลเงินที่คุณขาย คุณจะต้องจ่ายค่า Swap ซึ่งจะกลายเป็นลบ ปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้เป็นลบได้คือ นโยบายของโบรกเกอร์ที่อาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม หรือการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง
Q5: ค่า Swap Long มีผลต่อภาษีที่ฉันต้องจ่ายในประเทศไทยอย่างไร? และฉันควรบันทึกอย่างไรเพื่อการยื่นภาษี?
ในประเทศไทย หากกรมสรรพากรพิจารณาว่ารายได้จากการเทรด Forex เป็นเงินได้พึงประเมิน (เช่น 40(4) หรือ 40(8)) ค่า Swap Long ที่เป็นบวกจะถือเป็นส่วนหนึ่งของกำไรที่ต้องนำไปคำนวณภาษี ส่วนค่า Swap Long ที่เป็นลบอาจถือเป็นค่าใช้จ่ายที่นำไปหักลดหย่อนได้ คุณควรบันทึกรายการค่า Swap ทั้งหมดอย่างละเอียดในสมุดบัญชีการเทรดหรือไฟล์ Excel โดยระบุวันที่ คู่เงิน ปริมาณ และจำนวนเงิน Swap ที่ได้รับหรือจ่าย เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการยื่นภาษี
Q6: มีกลยุทธ์การเทรดแบบใดบ้างที่สามารถใช้ประโยชน์จากค่า Swap Long ที่เป็นบวกได้?
กลยุทธ์ที่นิยมใช้ประโยชน์จากค่า Swap Long ที่เป็นบวกคือ “Carry Trade” ซึ่งเทรดเดอร์จะเปิดสถานะ Long ในคู่เงินที่สกุลเงินฐานมีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าสกุลเงินอ้างอิง และถือสถานะดังกล่าวเป็นเวลานาน โดยมีเป้าหมายที่จะได้รับผลตอบแทนจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (ค่า Swap) ควบคู่ไปกับการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคา อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์นี้มีความเสี่ยงจากการผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน
Q7: ค่า Swap Long สามารถเปลี่ยนแปลงได้บ่อยแค่ไหน? และฉันจะตรวจสอบอัตราล่าสุดได้อย่างไร?
ค่า Swap Long สามารถเปลี่ยนแปลงได้เป็นครั้งคราว โดยส่วนใหญ่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง หรือการปรับนโยบายของโบรกเกอร์ คุณสามารถตรวจสอบอัตรา Swap ล่าสุดได้โดยตรงจากเว็บไซต์ของโบรกเกอร์ที่คุณใช้บริการ ซึ่งมักจะมีตาราง Swap อัปเดต หรือดูจากแพลตฟอร์มการเทรด (เช่น MetaTrader 4/5) ในส่วนของรายละเอียดคู่เงิน (Specification) ซึ่งจะแสดงค่า Swap Long และ Swap Short ไว้
Q8: นอกเหนือจาก Forex แล้ว Swap Long สามารถพบได้ในการเทรดสินทรัพย์ประเภทอื่นอีกหรือไม่?
ใช่ ค่า Swap (หรือค่าธรรมเนียมข้ามคืน) สามารถพบได้ในการเทรดสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ ที่มีการซื้อขายแบบ CFD (สัญญาซื้อขายส่วนต่าง) เช่น ดัชนีหุ้น (Indices), สินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities) หรือแม้แต่คริปโตเคอร์เรนซีบางประเภท ขึ้นอยู่กับนโยบายของโบรกเกอร์และลักษณะของสินทรัพย์นั้นๆ สำหรับสถานะ Long ในสินทรัพย์เหล่านี้ ก็จะมีการคิดค่าธรรมเนียมข้ามคืนในลักษณะเดียวกับ Swap Long ใน Forex
Q9: การตัดสินใจเข้า Long Position โดยคำนึงถึง Swap Long ควรพิจารณาอะไรเป็นพิเศษ?
เมื่อตัดสินใจเข้า Long Position โดยคำนึงถึง Swap Long ควรพิจารณา:
- ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย: คู่เงินที่คุณ Long มีแนวโน้มให้ Swap เป็นบวกหรือลบ?
- ระยะเวลาการถือ: คุณวางแผนจะถือนานแค่ไหน? ยิ่งนาน Swap ยิ่งมีผลมาก
- วัน Triple Swap: การถือข้ามคืนวันพุธจะทำให้ค่า Swap ถูกคิดเป็นสามเท่า
- นโยบายโบรกเกอร์: ตรวจสอบค่า Swap ของโบรกเกอร์สำหรับคู่เงินนั้นๆ
- ความผันผวน: แม้จะได้ Swap เป็นบวก แต่หากราคาเคลื่อนไหวสวนทางอย่างรุนแรง กำไรจาก Swap ก็ไม่คุ้มค่ากับการขาดทุนจากราคา
Q10: โบรกเกอร์ที่ไม่มีค่า Swap Long เลย มีจริงหรือไม่? และน่าเชื่อถือแค่ไหน?
มีจริง โบรกเกอร์หลายรายเสนอ “บัญชี Swap Free” หรือ “Islamic Account” ซึ่งไม่มีการคิดค่า Swap Long หรือ Short เลย โดยส่วนใหญ่จะมีการชดเชยค่าธรรมเนียมนี้ด้วยวิธีอื่น เช่น สเปรดที่กว้างขึ้น หรือค่าคอมมิชชั่นที่สูงขึ้นเล็กน้อย โบรกเกอร์เหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นโบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงและน่าเชื่อถือ แต่สิ่งสำคัญคือคุณต้องศึกษาเงื่อนไขและข้อกำหนดของบัญชีประเภทนี้อย่างละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่าเหมาะสมกับสไตล์การเทรดและไม่เป็นภาระค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ซ่อนอยู่