เลเวอเรจ 1:1000 ใน Forex: โอกาสทำกำไรมหาศาล หรือความเสี่ยงที่ต้องระวัง?

Table of Contents

บทนำ: ทำความเข้าใจโลกของเลเวอเรจ 1:1000 ในตลาด Forex

ในตลาดการซื้อขายฟอเร็กซ์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความไม่แน่นอนและโอกาสมากมาย เลเวอเรจถือเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังมาก ช่วยให้ผู้เทรดสามารถจัดการกับตำแหน่งการลงทุนที่มีมูลค่าสูงกว่าทุนจริงในบัญชีหลายเท่าตัว หนึ่งในอัตราส่วนที่โดดเด่นคือเลเวอเรจ 1:1000 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดที่เปิดโอกาสให้ทำกำไรได้มหาศาล แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่รุนแรงไม่แพ้กัน

Illustration of a trader balancing high leverage 1000 in forex market with huge profit and high risk

สำหรับผู้เทรดชาวไทยทั้งมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นสำรวจหรือผู้มีประสบการณ์ที่อยากเสริมสร้างความรู้ การทำความเข้าใจเลเวอเรจ 1:1000 อย่างละเอียดถี่ถ้วนจึงเป็นเรื่องจำเป็น เราจะมาสำรวจความหมาย หลักการทำงาน ข้อดี ข้อเสีย วิธีจัดการความเสี่ยง และปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกโบรกเกอร์ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างรอบคอบและปลอดภัยยิ่งขึ้นในวงการฟอเร็กซ์

เลเวอเรจคืออะไร? และ 1:1000 หมายถึงอะไรในตลาด Forex?

นิยามของเลเวอเรจ: เครื่องมือขยายอำนาจการลงทุน

เลเวอเรจคือระบบที่โบรกเกอร์นำเสนอให้ผู้เทรด เพื่อเปิดโอกาสให้ควบคุมการซื้อขายที่มีขนาดใหญ่เกินกว่าทุนจริงในบัญชี มันเหมือนกับการยืมกำลังจากโบรกเกอร์มาช่วยขยายผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงราคาเล็กน้อย โดยไม่ต้องทุ่มเงินทุนมหาศาล คิดง่ายๆ ก็คือเลเวอเรจช่วยยกระดับการลงทุนของคุณให้เข้าถึงโอกาสที่กว้างใหญ่กว่า เหมือนกับการใช้คานงัดยกของหนัก การรู้จักพื้นฐานของเลเวอเรจจึงเป็นรากฐานที่ทุกคนในวงการลงทุนควรมี Investopedia ได้อธิบายถึงแนวคิดของเลเวอเรจไว้อย่างละเอียด ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการทำความเข้าใจการเทรด Forex

Illustration of a Thai trader studying forex leverage 1000 with a magnifying glass showing risks and benefits

เจาะลึกความหมายของอัตราส่วน 1:1000

อัตราส่วนเลเวอเรจ 1:1000 หมายถึง ด้วยทุน 1 หน่วย คุณสามารถควบคุมการซื้อขายได้ถึง 1,000 หน่วย ลองนึกภาพว่าคุณมีเงินในบัญชี 100 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3,700 บาท) ด้วยเลเวอเรจนี้ คุณจะเปิดตำแหน่งมูลค่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐได้ ซึ่งเท่ากับ 1 Standard Lot ในฟอเร็กซ์

ส่วนการคำนวณมาร์จิ้นหรือเงินประกันที่ต้องใช้ก็ชัดเจนเช่นกัน สำหรับตำแหน่ง 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ ด้วยเลเวอเรจ 1:1000 คุณจ่ายมาร์จิ้นแค่ 100 ดอลลาร์สหรัฐ แต่ถ้าเป็นเลเวอเรจ 1:100 จะต้องใช้ถึง 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับตำแหน่งเดียวกัน นี่แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการขยายขนาดการเทรดที่เลเวอเรจ 1:1000 มอบให้อย่างน่าประทับใจ

ข้อดีและข้อเสียของการใช้เลเวอเรจ 1:1000

โอกาสในการสร้างผลกำไรมหาศาล

ประโยชน์หลักที่เห็นได้ชัดของเลเวอเรจ 1:1000 คือโอกาสในการทำกำไรขนาดใหญ่จากทุนเริ่มต้นที่น้อยนิด ถ้าตลาดเคลื่อนไหวตามที่คุณคาดหวัง แม้แค่ไม่กี่ pip ผลตอบแทนก็จะถูกขยายขึ้นอย่างมหาศาล สมมติคุณเปิด 1 Standard Lot (100,000 หน่วย) ของคู่ EUR/USD ด้วยมาร์จิ้น 100 ดอลลาร์สหรัฐ ถ้าราคาขึ้น 100 pip ซึ่งปกติให้กำไร 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ คุณจะได้กำไรนั้นทั้งหมด คิดเป็น 10 เท่าของทุนเริ่มต้นในเวลาอันสั้น โอกาสแบบนี้ดึงดูดผู้เทรดจำนวนมากที่อยากเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน

Illustration of a small trader using a giant leverage lever to lift a large stack of money in forex trading

เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น ลองคิดถึงกรณีจริงที่ผู้เทรดชาวไทยหลายคนประสบความสำเร็จด้วยการจับจังหวะตลาดที่ผันผวน เช่น ในช่วงข่าวเศรษฐกิจสำคัญ การใช้เลเวอเรจสูงช่วยให้ทุนน้อยกลายเป็นกำไรก้อนโตได้จริง แต่ต้องอาศัยการวิเคราะห์ที่แม่นยำ

ความเสี่ยงสูงสุด: ดาบสองคมของเลเวอเรจสูง

แต่เลเวอเรจ 1:1000 ก็เหมือนดาบสองคมที่อันตรายยิ่งนัก การเปลี่ยนแปลงราคาเล็กน้อยในทิศทางตรงข้ามก็อาจทำให้ทุนหายวับไปในพริบตา แค่ความผันผวน 0.1% ก็กระทบหนักต่อบัญชี ถ้าขาดทุนจนมาร์จิ้นไม่พอ คุณอาจเจอมาร์จิ้นคอล และถ้าไม่เติมเงิน บัญชีจะถูกสต็อปเอาท์ ปิดตำแหน่งทั้งหมด ส่งผลให้เสียทุนเกือบหมดหรือหมดสิ้น

สำหรับผู้เทรดในไทย ความเสี่ยงนี้ยิ่งรุนแรงเมื่อผสมกับปัจจัยทางใจ เช่น ความฝันรวยทางลัดหรือขาดวินัยในการเทรด มือใหม่หรือผู้เล่นระดับกลางมักมั่นใจเกินตัว โดยไม่รู้จักความผันผวนของตลาดจริงๆ จนนำไปสู่ความสูญเสียครั้งใหญ่ในที่สุด

การบริหารความเสี่ยงอย่างชาญฉลาดเมื่อใช้เลเวอเรจ 1:1000

กำหนด Stop Loss และ Take Profit ที่เหมาะสม

การตั้งจุดหยุดขาดทุนหรือสต็อปลอสและจุดล็อกกำไรหรือเทคพรอฟิตคือหัวใจของการควบคุมความเสี่ยง โดยเฉพาะกับเลเวอเรจสูงขนาด 1:1000 สต็อปลอสช่วยจำกัดความเสียหายสูงสุดที่คุณยอมรับได้ ป้องกันไม่ให้บัญชีล้มละลายในชั่วพริบตา ขณะที่เทคพรอฟิตช่วยรักษากำไรตามแผน ก่อนตลาดพลิกผัน การวางจุดเข้า-ออกที่ชัดเจนก่อนเปิดตำแหน่งทุกครั้งจึงเป็นขั้นตอนที่ขาดไม่ได้

ตัวอย่างเช่น ในตลาดฟอเร็กซ์ที่เคลื่อนไหวรวดเร็ว การตั้งสต็อปลอสที่ 50 pip จากจุดเข้า ช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการขาดทุนใหญ่จากข่าวกะทันหันได้

การจัดการขนาดล็อต (Position Sizing) และการใช้เงินทุน (Capital Utilization)

ถึงแม้เลเวอเรจ 1:1000 จะเปิดทางให้เปิดตำแหน่งใหญ่ แต่ไม่ได้หมายความว่าควรทำตามนั้นเสมอไป การปรับขนาดล็อตให้พอดีกับทุนและระดับความเสี่ยงที่ยอมรับคือกุญแจสำคัญ สำหรับผู้เทรดไทยที่มีทุนเริ่มต้นจำกัด ควรกำหนดความเสี่ยงต่อเทรดไม่เกิน 1-2% ของทุนทั้งหมด เช่น ถ้ามี 10,000 บาท อย่าเสี่ยงเกิน 100-200 บาทต่อครั้ง วิธีนี้ช่วยให้บัญชีทนทานต่อการขาดทุนติดต่อกันหลายรอบ โดยไม่ล้มครืน BabyPips ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการบริหารความเสี่ยงด้วยการจัดการขนาดล็อตและเงินทุนอย่างถูกต้อง

ความสำคัญของการศึกษาตลาดและกลยุทธ์

การเทรดด้วยเลเวอเรจสูงต้องอาศัยความรู้ตลาดอย่างลึกซึ้ง ทั้งการวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อ解读กราฟและแพทเทิร์นราคา และการวิเคราะห์พื้นฐานเพื่อติดตามข่าวเศรษฐกิจที่กระทบราคา นอกจากนี้ แผนเทรดที่ชัดเจนและวินัยทางจิตใจในการยึดแผนคือสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะในชุมชนเทรดไทย การตามสัญญาณจากผู้อื่นโดยไม่เข้าใจพื้นฐานถือเป็นความเสี่ยงสูง เมื่อใช้เลเวอเรจ 1:1000 อาจนำไปสู่การขาดทุนที่ควบคุมไม่ได้

เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง แนะนำให้ฝึกในบัญชีเดโมก่อน เพื่อทดสอบกลยุทธ์ในสภาวะจริงโดยไม่เสี่ยงเงินจริง

โบรกเกอร์ที่ให้บริการเลเวอเรจ 1:1000 ในประเทศไทย: สิ่งที่ต้องพิจารณา

เกณฑ์การเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้

การเลือกโบรกเกอร์ที่ใช่คือปัจจัยชี้ขาดความสำเร็จและความมั่นคงในการเทรด โดยเฉพาะเมื่อมองหาเลเวอเรจ 1:1000 ซึ่งส่วนใหญ่มักมาจากโบรกเกอร์ต่างประเทศนอกชายฝั่ง สิ่งที่ควรตรวจสอบมีดังนี้:

  • การกำกับดูแล (Regulation): โบรกเกอร์มีใบอนุญาตจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือหรือไม่ เช่น FCA (สหราชอาณาจักร), CySEC (ไซปรัส) หรือ ASIC (ออสเตรเลีย) แม้ว่า กลต. (สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของไทย) จะยังไม่มีกฎระเบียบที่รองรับการเทรด Forex โดยตรงจากโบรกเกอร์ที่ได้รับอนุญาตในไทย แต่การเลือกโบรกเกอร์ต่างประเทศที่มีการกำกับดูแลที่เข้มงวดจะเพิ่มความปลอดภัยให้กับเงินทุนของคุณ ก.ล.ต. ไทย มีบทบาทสำคัญในการกำกับดูแลตลาดทุนในประเทศ แต่ยังไม่ครอบคลุมถึงโบรกเกอร์ Forex ที่มีเลเวอเรจสูงที่ให้บริการเทรดเดอร์ไทยโดยตรง
  • ความเร็วในการฝาก-ถอนเงิน: ระบบการฝากและถอนเงินควรมีความรวดเร็ว ปลอดภัย และมีช่องทางที่หลากหลาย เช่น ธนาคารไทยหรือช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ที่นิยมใช้ในประเทศไทย
  • บริการลูกค้า: ควรมีทีมสนับสนุนลูกค้าที่สามารถสื่อสารภาษาไทยได้ และตอบสนองได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดปัญหา
  • แพลตฟอร์มการซื้อขาย (Trading Platform): แพลตฟอร์มควรเสถียร ใช้งานง่าย และมีเครื่องมือครบครัน เช่น MT4 (MetaTrader 4) หรือ MT5 (MetaTrader 5) ที่เป็นที่นิยม
  • ค่าสเปรด (Spread) และค่าคอมมิชชั่น: ควรพิจารณาค่าใช้จ่ายในการเทรดที่เหมาะสมและโปร่งใส

การพิจารณาเหล่านี้ช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และมุ่งเน้นไปที่การเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ข้อควรระวังเกี่ยวกับโบรกเกอร์เลเวอเรจสูง

เนื่องจากโบรกเกอร์ที่ให้เลเวอเรจ 1:1000 มักอยู่นอกเหนือการกำกับดูแลของ กลต. ไทย ผู้เทรดไทยจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ มีโบรกเกอร์น่าไม่น่าเชื่อถือหลายรายที่ใช้เลเวอเรจสูงล่อใจ แต่กลับมีปัญหาถอนเงินหรือปฏิบัติไม่เป็นธรรม ควรสืบประวัติและความน่าเชื่อถือให้ละเอียด อ่านรีวิวจากแหล่งอิสระ และหลีกเลี่ยงการหลอกลวงที่มาพร้อมโปรโมชั่นเกินจริง

ใครที่เหมาะกับการใช้เลเวอเรจ 1:1000?

เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์สูงและเข้าใจความเสี่ยง

เลเวอเรจ 1:1000 ไม่ใช่สำหรับทุกคน โดยเฉพาะมือใหม่ที่ไม่ควรลองเลย ผู้ที่เหมาะสมคือเทรดเดอร์อาชีพที่มีประสบการณ์ยาวนาน เข้าใจตลาดลึกซึ้ง มีระบบจัดการความเสี่ยงที่แข็งแกร่ง และวินัยทางใจที่มั่นคง สามารถควบคุมอารมณ์และยึดแผนได้ พวกเขามักใช้เลเวอเรจสูงเฉพาะเมื่อมั่นใจในกลยุทธ์ และพร้อมรับมือขาดทุนเสมอ

เทรดเดอร์ที่ใช้กลยุทธ์เฉพาะทาง

บางครั้งเลเวอเรจ 1:1000 ก็เหมาะกับเทรดเดอร์ที่ใช้กลยุทธ์พิเศษ เช่น สเกลปิ้งที่เปิด-ปิดตำแหน่งเร็วเพื่อเก็บกำไรน้อยๆ หลายครั้ง หรืออาร์บิทราจที่ทำกำไรจากส่วนต่างราคา กลยุทธ์เหล่านี้เน้นความรวดเร็วและแม่นยำในการจับโอกาสเล็กๆ แต่ยังต้องจัดการความเสี่ยงเข้มงวด และมีทุนสำรองรองรับข้อผิดพลาด

ในไทย หลายคนหลงเชื่อใน “รวยข้ามคืน” หรือปั้นพอร์ตจากทุนน้อยสู่ล้าน ซึ่งอันตรายมากเมื่อใช้เลเวอเรจ 1:1000 มันนำไปสู่การเทรดไร้แผน ไร้วินัย และสูญเสียทั้งหมด เลเวอเรจสูงควรเป็นเครื่องมือสำหรับผู้เชี่ยวชาญ ไม่ใช่ทางลัดสู่ความร่ำรวย

สรุป: เลเวอเรจ 1:1000 โอกาสและความท้าทาย

เลเวอเรจ 1:1000 ในฟอเร็กซ์เปิดประตูสู่กำไรสูงจากทุนน้อย แต่ก็เต็มไปด้วยความเสี่ยงที่อาจทำให้ทุนหายวับ ผู้เทรดไทยที่สนใจต้องเข้าใจกลไก ข้อดี ข้อเสีย และระบบจัดการความเสี่ยงที่แน่นหนาให้ถ่องแท้

การตัดสินใจใช้เลเวอเรจนี้ควรมาจากการศึกษาอย่างละเอียด การฝึกฝนต่อเนื่อง และการประเมินตัวเอง อย่าปล่อยให้ความโลภนำทาง และให้ความสำคัญกับการปกป้องทุนเป็นลำดับแรก ถ้ายังมือใหม่ เริ่มจากเลเวอเรจต่ำแล้วค่อยเพิ่มเมื่อชำนาญ จะเป็นทางที่ปลอดภัยและยั่งยืนในเส้นทางฟอเร็กซ์

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเลเวอเรจ 1:1000

เลเวอเรจ 1:1000 แตกต่างจากเลเวอเรจ 1:500 อย่างไรในแง่ของความเสี่ยงและผลตอบแทน?

เลเวอเรจ 1:1000 ทำให้คุณสามารถควบคุมขนาดล็อตที่ใหญ่กว่าด้วยเงินมาร์จิ้นที่น้อยกว่าเลเวอเรจ 1:500 ถึงสองเท่า ซึ่งหมายถึงศักยภาพในการทำกำไรที่สูงขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็มีความเสี่ยงที่สูงขึ้นอย่างมากเช่นกัน การเคลื่อนไหวของราคาเพียงเล็กน้อยที่ผิดทางก็สามารถทำให้เกิดมาร์จิ้นคอลหรือ Stop Out ได้เร็วกว่าเลเวอเรจ 1:500 มาก

ฉันจะทราบได้อย่างไรว่าโบรกเกอร์ที่ให้เลเวอเรจ 1:1000 มีความน่าเชื่อถือในประเทศไทย?

โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ที่ให้เลเวอเรจ 1:1000 จะเป็นโบรกเกอร์ต่างประเทศที่ไม่ได้รับการกำกับดูแลโดย กลต. ไทย คุณควรตรวจสอบใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลระหว่างประเทศที่น่าเชื่อถือ (เช่น FCA, CySEC) อ่านรีวิวจากแหล่งข้อมูลที่เป็นกลาง ตรวจสอบความโปร่งใสของเงื่อนไขการเทรด และความรวดเร็วในการฝาก-ถอนเงินก่อนตัดสินใจลงทุน

หากใช้เลเวอเรจ 1:1000 ควรเริ่มต้นด้วยเงินทุนขั้นต่ำเท่าไรเพื่อความปลอดภัย?

ไม่มีจำนวนเงินทุนขั้นต่ำที่ตายตัวสำหรับ “ความปลอดภัย” เมื่อใช้เลเวอเรจ 1:1000 เนื่องจากความปลอดภัยขึ้นอยู่กับการบริหารความเสี่ยงของคุณมากกว่า อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้เริ่มต้น ควรใช้เงินทุนที่คุณพร้อมจะสูญเสียได้ทั้งหมด และเริ่มต้นด้วยจำนวนที่น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เช่น 100-200 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อเรียนรู้และทำความเข้าใจความเสี่ยงก่อนที่จะเพิ่มเงินทุน

การซื้อขายสกุลเงินไทยบาท (THB) ด้วยเลเวอเรจ 1:1000 มีข้อควรระวังพิเศษอะไรบ้าง?

การซื้อขายคู่สกุลเงินที่มี THB (เช่น USD/THB) มักจะมีความผันผวนสูงและมีสภาพคล่องต่ำกว่าคู่สกุลเงินหลัก (Major Pairs) อย่าง EUR/USD หรือ GBP/USD การใช้เลเวอเรจ 1:1000 กับคู่สกุลเงินที่มี THB จึงมีความเสี่ยงสูงมาก เพราะสเปรดอาจกว้างขึ้น และการเคลื่อนไหวของราคาอาจรุนแรงกว่าปกติ ทำให้เกิดมาร์จิ้นคอลได้ง่ายขึ้น ควรหลีกเลี่ยงหากคุณไม่มีประสบการณ์สูง

ฉันจะป้องกันตัวเองจาก Margin Call ได้อย่างไรเมื่อใช้เลเวอเรจ 1:1000?

วิธีป้องกัน Margin Call ที่ดีที่สุดคือการบริหารความเสี่ยงอย่างเคร่งครัด ได้แก่:

  • กำหนดจุด Stop Loss สำหรับทุกการเทรด
  • จัดการขนาดล็อต (Position Sizing) ให้เหมาะสม โดยไม่เสี่ยงเกิน 1-2% ของเงินทุนทั้งหมดต่อการเทรดหนึ่งครั้ง
  • มีเงินทุนสำรอง (Free Margin) เพียงพอในบัญชี
  • หลีกเลี่ยงการ Overtrade หรือเปิดสถานะมากเกินไป
  • ติดตามข่าวสารและสภาวะตลาดอย่างใกล้ชิด

เลเวอเรจ 1:1000 มีผลต่อค่าธรรมเนียมการเทรด (Spread/Swap) อย่างไรหรือไม่?

เลเวอเรจเองไม่มีผลโดยตรงต่อค่าสเปรด (Spread) หรือค่า Swap (ค่าธรรมเนียมการถือครองข้ามคืน) อย่างไรก็ตาม โบรกเกอร์บางแห่งที่เสนอเลเวอเรจสูงมากอาจมีเงื่อนไขค่าสเปรดหรือค่า Swap ที่แตกต่างกัน คุณควรตรวจสอบเงื่อนไขเหล่านี้กับโบรกเกอร์แต่ละราย

หากฉันเป็นมือใหม่ ควรลองใช้เลเวอเรจ 1:1000 เลยหรือไม่ หรือควรเริ่มต้นที่อัตราส่วนอื่น?

ไม่ควรอย่างยิ่ง มือใหม่ควรเริ่มต้นด้วยเลเวอเรจที่ต่ำกว่ามาก เช่น 1:50 หรือ 1:100 เพื่อทำความเข้าใจกลไกตลาดและฝึกฝนการบริหารความเสี่ยง เมื่อมีประสบการณ์และความมั่นใจมากขึ้นแล้ว ค่อยๆ พิจารณาเพิ่มเลเวอเรจในอนาคต

มีกลยุทธ์การบริหารเงินทุน (Money Management) ใดที่แนะนำเป็นพิเศษสำหรับเลเวอเรจ 1:1000 บ้าง?

สำหรับเลเวอเรจ 1:1000 กลยุทธ์ Money Management ที่แนะนำคือ:

  • กฎ 1-2% Rule: เสี่ยงไม่เกิน 1-2% ของเงินทุนต่อการเทรด
  • การใช้ Fixed Fractional Sizing: กำหนดขนาดล็อตตามเปอร์เซ็นต์ของเงินทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้
  • การใช้ Trailing Stop: เพื่อป้องกันกำไรเมื่อราคาวิ่งไปในทิศทางที่ถูกต้อง
  • การถอนกำไรออกสม่ำเสมอ: เพื่อลดความเสี่ยงของเงินทุนที่อยู่ในตลาด

โบรกเกอร์ในประเทศไทยที่ถูกกำกับดูแลโดย กลต. เสนอเลเวอเรจสูงสุดเท่าไร?

ปัจจุบันนี้ กลต. ของประเทศไทยยังไม่ได้ออกใบอนุญาตให้กับโบรกเกอร์ Forex ที่เสนอการเทรดคู่สกุลเงินต่างประเทศโดยตรง ดังนั้น โบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับดูแลโดย กลต. มักจะเป็นโบรกเกอร์สำหรับตลาดหุ้น หรืออนุพันธ์ในประเทศ ซึ่งมีข้อกำหนดเลเวอเรจแตกต่างจากการเทรด Forex โดยโบรกเกอร์ต่างประเทศ ส่วนใหญ่เลเวอเรจสูงสุดสำหรับตลาดหุ้นไทยจะอยู่ที่ 1:1 หรือไม่มีเลเวอเรจในความหมายของการเทรด Forex

การใช้เลเวอเรจ 1:1000 กับการเทรดทองคำ (Gold) หรือคริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) มีความแตกต่างกับการเทรด Forex อย่างไร?

แม้ว่าหลักการของเลเวอเรจจะคล้ายกัน แต่ความเสี่ยงในการเทรดทองคำหรือคริปโตเคอร์เรนซีด้วยเลเวอเรจ 1:1000 อาจสูงกว่าการเทรด Forex อย่างมาก

  • ทองคำ: มีความผันผวนสูงกว่าคู่สกุลเงินหลักบางคู่ การใช้เลเวอเรจสูงจะทำให้การเคลื่อนไหวของราคาเล็กน้อยมีผลกระทบต่อบัญชีอย่างรุนแรง
  • คริปโตเคอร์เรนซี: ขึ้นชื่อเรื่องความผันผวนที่รุนแรงและฉับพลันมากที่สุดในบรรดาสินทรัพย์เหล่านี้ การใช้เลเวอเรจ 1:1000 กับคริปโตฯ จึงมีความเสี่ยงสูงอย่างยิ่งและสามารถนำไปสู่การสูญเสียเงินทุนทั้งหมดได้ภายในเวลาอันสั้น

โดยรวมแล้ว การใช้เลเวอเรจสูงกับสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูงยิ่งเพิ่มความเสี่ยงทวีคูณขึ้นไปอีก

發佈留言

發佈留言必須填寫的電子郵件地址不會公開。 必填欄位標示為 *