Fibonacci Retracement คือ เครื่องมือวิเคราะห์การเทรดที่ควรรู้ในปี 2025

เจาะลึก Fibonacci Retracement: เครื่องมือระดับตำนานที่นักเทรดมืออาชีพใช้

สวัสดีครับนักลงทุนทุกท่าน วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคชิ้นหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในตลาดการเงิน ไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้น ฟอเร็กซ์ หรือคริปโทเคอร์เรนซี เครื่องมือที่เรากำลังพูดถึงคือ Fibonacci Retracement ซึ่งเปรียบเสมือนเข็มทิศที่ช่วยให้นักเทรดอย่างเรามองเห็นจุดสำคัญบนแผนที่ราคา และตัดสินใจได้อย่างมั่นใจมากขึ้น บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจเครื่องมือทรงพลังนี้ ตั้งแต่ต้นกำเนิด ไปจนถึงวิธีการนำไปใช้จริงในการเทรดของคุณครับ

• Fibonacci Retracement เป็นเครื่องมือที่สำคัญสำหรับนักเทรดมืออาชีพ.
• ช่วยในการวิเคราะห์ทิศทางของราคาหุ้นหรือสินทรัพย์.
• เพิ่มความมั่นใจในการตัดสินใจซื้อขายในตลาดการเงิน.

ต้นกำเนิดจากลำดับตัวเลขสู่สัดส่วนทองคำ

เรื่องราวของ Fibonacci Retracement เริ่มต้นจากนักคณิตศาสตร์ชาวอิตาลีผู้โด่งดังในยุคกลางชื่อว่า Leonardo Fibonacci เขาได้ค้นพบ ลำดับตัวเลข Fibonacci ซึ่งเป็นลำดับที่แต่ละตัวคือผลบวกของสองตัวเลขก่อนหน้า เริ่มจาก 0, 1, 1, 2, 3, 5, 8, 13, 21, 34, 55, 89, 144, … ลำดับนี้ดูเหมือนจะเรียบง่าย แต่สิ่งที่ทำให้มันน่าทึ่งคือ เมื่อเรานำตัวเลขในลำดับมาหารกัน จะได้ สัดส่วน ที่มีนัยสำคัญ

• เมื่อนำตัวเลขหนึ่งหารด้วยตัวเลขที่อยู่ถัดไปในลำดับ (เช่น 89 / 144) จะได้ค่าที่เข้าใกล้ 0.618 หรือ 61.8%
• เมื่อนำตัวเลขหนึ่งหารด้วยตัวเลขที่อยู่ห่างไปสองตำแหน่ง (เช่น 55 / 144) จะได้ค่าที่เข้าใกล้ 0.382 หรือ 38.2%
• เมื่อนำตัวเลขหนึ่งหารด้วยตัวเลขที่อยู่ห่างไปสามตำแหน่ง (เช่น 34 / 144) จะได้ค่าที่เข้าใกล้ 0.236 หรือ 23.6%

สัดส่วนเหล่านี้ โดยเฉพาะ 0.618 หรือที่เรียกว่า สัดส่วนทองคำ (Golden Ratio) ปรากฏอยู่ทั่วไปในธรรมชาติ ตั้งแต่กลีบดอกไม้ เปลือกหอย กาแล็กซี ไปจนถึงสัดส่วนในร่างกายมนุษย์ และยังถูกนำไปใช้ในงานศิลปะและสถาปัตยกรรมมากมาย ทำให้นักวิเคราะห์เชื่อว่าสัดส่วนเหล่านี้อาจมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมราคาในตลาดการเงินด้วย

ทำไมสัดส่วน Fibonacci จึงถูกใช้ในการเทรด?

คำถามที่น่าสนใจคือ หากสัดส่วนเหล่านี้มาจากธรรมชาติ แล้วเกี่ยวอะไรกับตลาดหุ้นหรือตลาด ฟอเร็กซ์ ล่ะ? นักวิเคราะห์ทางเทคนิคเชื่อว่า ราคาในตลาดการเงินก็มีการเคลื่อนไหวที่เป็นไปตามรูปแบบและสัดส่วนที่คล้ายคลึงกับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติและจิตวิทยาฝูงชน เมื่อราคาเคลื่อนที่เป็น แนวโน้ม ไม่ว่าจะเป็น แนวโน้มขาขึ้น หรือ แนวโน้มขาลง มักจะมีการ ย่อตัว (Retracement) หรือ เด้งตัว พักฐาน ก่อนที่จะไปต่อตามแนวโน้มเดิม

ระดับการย่อตัวหรือเด้งตัวเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นที่ระดับเปอร์เซ็นต์ที่สัมพันธ์กับสัดส่วน Fibonacci เช่น 38.2%, 50%, 61.8% ทำให้นักเทรดเชื่อว่าระดับเหล่านี้คือ แนวรับ และ แนวต้าน ที่มีนัยสำคัญ ซึ่งราคามีโอกาสสูงที่จะ กลับตัว หรือมีการพักฐานอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ ยังมีแนวคิดที่ว่า นักลงทุนรายใหญ่ และสถาบันการเงินก็ใช้ระดับ Fibonacci ในการตัดสินใจซื้อขาย ซึ่งยิ่งตอกย้ำความสำคัญของระดับเหล่านี้ในตลาด

Fibonacci Retracement คืออะไร และแตกต่างจากเครื่องมือ Fibonacci อื่นอย่างไร?

ในบรรดาเครื่องมือ Fibonacci ที่มีอยู่ในโปรแกรมวิเคราะห์กราฟ เช่น Fibonacci Retracement, Fibonacci Extension, Fibonacci Projection หรือ Fibonacci Arcs และ Fans เครื่องมือที่ได้รับความนิยมและใช้งานแพร่หลายที่สุดคือ Fibonacci Retracement

Fibonacci Retracement คือ เครื่องมือที่ใช้ในการวัดระยะทางที่ราคาย่อตัวลงมา (ในแนวโน้มขาขึ้น) หรือเด้งตัวขึ้นไป (ในแนวโน้มขาลง) จากการเคลื่อนที่ครั้งใหญ่ เพื่อหา ระดับราคา หรือ โซน ที่คาดว่าจะเป็น แนวรับ หรือ แนวต้าน สำคัญ และมีโอกาสที่ราคาจะ กลับตัว เพื่อไปต่อตามแนวโน้มเดิม

ในทางกลับกัน Fibonacci Extension และ Fibonacci Projection ใช้เพื่อคาดการณ์ เป้าหมายราคา ที่ราคามีโอกาสจะเคลื่อนที่ไปถึง หลังจากที่ได้ย่อตัวหรือเด้งตัวแล้ว โดยระดับที่ใช้จะเป็นระดับที่เกิน 100% ขึ้นไป เช่น 127.2%, 161.8%, 200%, 261.8% เป็นต้น เครื่องมือเหล่านี้จึงมีประโยชน์ในการกำหนด จุดทำกำไร (Take Profit) ในขณะที่ Fibonacci Retracement จะมีประโยชน์มากกว่าในการหา จุดเข้าเทรด (Entry Point) และ จุดตัดขาดทุน (Stop Loss)

ระดับเปอร์เซ็นต์สำคัญของ Fibonacci Retracement ที่คุณควรรู้

เครื่องมือ Fibonacci Retracement บน กราฟราคา จะแสดงระดับเปอร์เซ็นต์ต่างๆ ที่เป็นสัดส่วนจากระยะการเคลื่อนที่ของราคาครั้งล่าสุด ระดับที่สำคัญและมีการใช้งานบ่อยครั้งได้แก่:

• 23.6%: เป็นการย่อตัวเพียงเล็กน้อย มักเกิดขึ้นในแนวโน้มที่แข็งแกร่งมาก
• 38.2%: เป็นระดับการย่อตัวหรือเด้งตัวที่ค่อนข้างทั่วไป ราคามักจะมีการตอบสนองที่ระดับนี้
• 50%: แม้จะไม่ใช่ตัวเลขจากลำดับ Fibonacci โดยตรง แต่ระดับ 50% มักถูกรวมอยู่ในเครื่องมือ Retracement เนื่องจากหลักจิตวิทยาที่ว่า ตลาดมักจะย่อตัวมาครึ่งทางของการเคลื่อนที่ครั้งก่อนหน้า ระดับนี้มีความสำคัญสูงเช่นกัน
• 61.8%: นี่คือระดับ สัดส่วนทองคำ เป็นระดับ Retracement ที่สำคัญที่สุด และมักเป็นจุดที่ราคาแสดงปฏิกิริยาที่รุนแรงที่สุด มีโอกาสสูงที่จะเกิด จุดกลับตัว ที่ระดับนี้
• 78.6%: เป็นรากที่สองของ 61.8% ก็เป็นอีกระดับที่สำคัญ โดยเฉพาะเมื่อราคา ย่อตัว ลึกก่อนจะกลับตัว
• 100%: หมายถึง ราคาย่อตัวหรือเด้งตัวกลับมาที่จุดเริ่มต้นของการเคลื่อนที่ครั้งล่าสุด

วิธีการกางเครื่องมือ Fibonacci Retracement บนกราฟอย่างถูกต้อง

การกาง Fibonacci Retracement อย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อให้ได้ระดับ แนวรับ แนวต้าน ที่มีนัยสำคัญ วิธีการกางขึ้นอยู่กับ แนวโน้มราคา ที่คุณกำลังพิจารณา:

• ในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend): เราต้องการหาจุดที่ราคาย่อตัวลงมา (หา แนวรับ) ก่อนที่จะขึ้นไปต่อ วิธีการคือ ลากเครื่องมือ Fibonacci Retracement จาก จุดสวิงโลว์ (Swing Low) ล่าสุด (จุดที่ต่ำที่สุดของรอบก่อนหน้านี้) ไปยัง จุดสวิงไฮ (Swing High) ล่าสุด (จุดที่สูงสุดของรอบปัจจุบัน) ระดับเปอร์เซ็นต์จะปรากฏขึ้นด้านขวาของกราฟ โดยระดับ 100% อยู่ที่ Swing Low และระดับ 0% อยู่ที่ Swing High ระดับ 38.2%, 50%, 61.8% ที่ปรากฏจะเป็นแนวรับที่คาดการณ์
• ในแนวโน้มขาลง (Downtrend): เราต้องการหาจุดที่ราคาเด้งตัวขึ้นไป (หา แนวต้าน) ก่อนที่จะลงไปต่อ วิธีการคือ ลากเครื่องมือ Fibonacci Retracement จาก จุดสวิงไฮ (Swing High) ล่าสุด ไปยัง จุดสวิงโลว์ (Swing Low) ล่าสุด ระดับเปอร์เซ็นต์จะปรากฏขึ้นด้านขวา โดยระดับ 100% อยู่ที่ Swing High และระดับ 0% อยู่ที่ Swing Low ระดับ 38.2%, 50%, 61.8% ที่ปรากฏจะเป็นแนวต้านที่คาดการณ์

สิ่งสำคัญคือ การเลือก Swing High และ Swing Low ที่ถูกต้อง ซึ่งควรเป็นจุดสูงสุดและต่ำสุดที่มีนัยสำคัญของรอบ แนวโน้ม ที่ชัดเจน การฝึกฝนและสังเกตจะช่วยให้คุณชำนาญในการเลือกจุดลากได้ดียิ่งขึ้น

ประยุกต์ใช้ Fibonacci Retracement ในกลยุทธ์การเทรด: หาจุดเข้าและจุดออก

เมื่อคุณกาง Fibonacci Retracement บนกราฟแล้ว คุณจะมีระดับสำคัญที่เป็น แนวรับ หรือ แนวต้าน ระดับเหล่านี้เป็นพื้นที่ที่คุณควรจับตาดูปฏิกิริยาของราคา:

• การหาจุดเข้าเทรด (Entry Point): ในแนวโน้มขาขึ้น เมื่อราคาย่อตัวลงมาแตะหรือเข้าใกล้ระดับ Fibonacci ที่สำคัญ (เช่น 38.2%, 50%, 61.8%) โดยเฉพาะระดับ 61.8% หากมีสัญญาณการกลับตัวของแท่งเทียน หรือรูปแบบกราฟอื่น ๆ ที่ยืนยัน นั่นอาจเป็น จุดเข้าเทรด ซื้อที่ดี ในแนวโน้มขาลง ก็ทำกลับกัน คือเมื่อราคาเด้งตัวขึ้นไปแตะระดับ Fibonacci ที่สำคัญ หากมีสัญญาณการกลับตัวลง นั่นอาจเป็น จุดเข้าเทรด ขายที่ดี
• การหาจุดตัดขาดทุน (Stop Loss): Fibonacci Retracement ช่วยในการกำหนด จุดตัดขาดทุน ได้อย่างมีเหตุผล ตัวอย่างเช่น หากคุณเข้าซื้อที่แนวรับ Fibonacci 61.8% คุณอาจวาง Stop Loss ไว้ต่ำกว่า Swing Low ที่คุณใช้ลาก Fibonacci เล็กน้อย หรือต่ำกว่าระดับ Fibonacci ถัดลงไป เพื่อจำกัดความเสี่ยงหากราคาไม่เป็นไปตามที่คาด
• การหาจุดทำกำไร (Take Profit): คุณสามารถใช้ Fibonacci Retracement ร่วมกับ Fibonacci Extension เพื่อกำหนด จุดทำกำไร หลังจากที่ราคาเคลื่อนที่ไปตามแนวโน้มเดิม ตัวอย่างเช่น หากเข้าซื้อในแนวโน้มขาขึ้นหลังจากย่อตัวมาที่ 61.8% เป้าหมายทำกำไรแรกๆ อาจอยู่ที่ระดับ 0% ของ Retracement หรือใช้ Extension ไปที่ระดับ 127.2% หรือ 161.8% ของระยะการเคลื่อนที่ทั้งหมด

ผสานพลัง Fibonacci Retracement กับโซนสำคัญ: เข้าเทรดแบบ “ปลายไส้”

เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการหา จุดเข้าเทรด นักเทรดมืออาชีพมักไม่ใช้ Fibonacci เพียงอย่างเดียว แต่จะใช้ร่วมกับแนวคิด โซน ที่มีนัยสำคัญอื่น ๆ:

• ร่วมกับ Demand Zone และ Supply Zone: Demand Zone คือบริเวณราคาที่มีแรงซื้อสะสมสูง และ Supply Zone คือบริเวณราคาที่มีแรงขายสะสมสูง โซนเหล่านี้มักถูกระบุจากรูปแบบการเคลื่อนที่ของราคาในอดีต หาก แนวรับ Fibonacci ที่สำคัญ เช่น 61.8% หรือ 50% อยู่ในบริเวณเดียวกันกับ Demand Zone ในแนวโน้มขาขึ้น นั่นจะเป็น จุดเข้าเทรด ซื้อที่มีโอกาสประสบความสำเร็จสูงมาก ในแนวโน้มขาลง หาก แนวต้าน Fibonacci อยู่ใน Supply Zone ก็เป็น จุดเข้าเทรด ขายที่น่าสนใจ
• ร่วมกับ QM Zone (Quasimodo Zone): QM Zone เป็นรูปแบบการกลับตัวรูปแบบหนึ่งที่มีโครงสร้างเฉพาะ การที่ แนวรับ หรือ แนวต้าน Fibonacci ทับซ้อนกับบริเวณของ QM Zone ที่คาดว่าราคาจะกลับตัว ยิ่งเพิ่มความน่าเชื่อถือของสัญญาณ ทำให้เราสามารถหา จุดเข้าเทรด ที่มีความเสี่ยงต่ำและมีโอกาสได้เข้าในบริเวณที่เรียกว่า “ปลายไส้” ของแท่งเทียน ซึ่งให้ความได้เปรียบสูงสุด

เพิ่มความน่าเชื่อถือ: ใช้ Fibonacci Retracement ร่วมกับอินดิเคเตอร์และทฤษฎีอื่น

ในฐานะเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค Fibonacci Retracement ทำงานได้ดีที่สุดเมื่อใช้ร่วมกับเครื่องมือหรือทฤษฎีอื่น ๆ เพื่อ ยืนยันสัญญาณ การกลับตัวหรือไปต่อของราคา

• ร่วมกับ Volume: หากราคาย่อตัวมาถึง แนวรับ Fibonacci ที่สำคัญ เช่น 61.8% และมีปริมาณ Volume การซื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นั่นอาจเป็นสัญญาณยืนยันว่ามีแรงซื้อเข้ามารับในบริเวณนี้
• ร่วมกับ RSI หรือ MACD: ในขณะที่ราคาย่อตัวลงมาที่ระดับ Fibonacci อินดิเคเตอร์อย่าง RSI หรือ MACD อาจแสดงสัญญาณ Divergence (ราคาทำ Low ใหม่ แต่ RSI/MACD ทำ Low ที่สูงขึ้น) ซึ่งบ่งชี้ถึงแรงขายที่อ่อนแรงลง และอาจกำลังจะเกิด จุดกลับตัว
• ร่วมกับ Elliott Wave หรือ Gartley Pattern: ทฤษฎีคลื่น Elliott เชื่อว่าราคาเคลื่อนที่เป็นรอบคลื่นที่สัมพันธ์กับสัดส่วน Fibonacci การใช้ Retracement และ Fibonacci Projection ช่วยยืนยันโครงสร้างคลื่น และการคาดการณ์เป้าหมายราคา รูปแบบ Harmonic Patterns ต่างๆ เช่น Gartley Pattern ก็มีการใช้สัดส่วน Fibonacci ในการระบุจุดกลับตัวที่มีนัยสำคัญเช่นกัน

ข้อจำกัดและข้อควรพิจารณาที่สำคัญในการใช้ Fibonacci Retracement

แม้ว่า Fibonacci Retracement จะเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ แต่ก็ไม่ใช่เครื่องมือวิเศษ และมีข้อจำกัดที่คุณควรทราบ:

• ความเป็นส่วนบุคคล (Subjectivity): การลาก Fibonacci Retracement ขึ้นอยู่กับการตีความ จุดสวิงไฮ และ จุดสวิงโลว์ ของแต่ละบุคคล ซึ่งอาจแตกต่างกันไป ทำให้ระดับ แนวรับ แนวต้าน ที่ได้อาจไม่ตรงกัน การฝึกฝนและใช้หลักเกณฑ์ที่ชัดเจนในการเลือก Swing High/Low จะช่วยลดปัญหานี้ได้
• ไม่ใช่ทุกระดับจะเกิดการกลับตัว: ราคามักจะตอบสนองที่ระดับ Fibonacci ที่สำคัญ แต่ไม่ได้หมายความว่าราคาจะต้องกลับตัวที่ทุกระดับเสมอไป คุณไม่ควรเข้าเทรดเพียงเพราะราคามาถึงระดับ Fibonacci แต่ควรรอ สัญญาณยืนยัน การกลับตัวอื่นๆ ด้วย
• ความเสี่ยงจาก Failed Breakout: บางครั้งราคาอาจทะลุผ่านระดับ Fibonacci ที่สำคัญไปชั่วคราว ก่อนที่จะกลับเข้ามาในกรอบเดิม หรือกลับทิศทางอย่างรวดเร็ว นี่คือ Failed Breakout ที่อาจทำให้คุณเสียหายได้ หากไม่วาง จุดตัดขาดทุน ที่เหมาะสม
• ทำงานได้ดีในตลาดที่เป็นเทรน: Fibonacci Retracement มีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อใช้ในตลาดที่มี แนวโน้ม ชัดเจน การใช้ในตลาดที่เคลื่อนไหว Sideway หรือผันผวนมากๆ อาจให้สัญญาณที่ไม่น่าเชื่อถือ

ดังนั้น คุณควรใช้ Fibonacci Retracement เป็นส่วนหนึ่งของแผนการเทรดโดยรวม และไม่พึ่งพาเครื่องมือนี้เพียงอย่างเดียว

ในการ เทรด โดยเฉพาะใน ตลาด Forex การเลือกโบรกเกอร์ก็มีความสำคัญไม่แพ้การเลือกเครื่องมือวิเคราะห์ แพลตฟอร์มที่ดีควรมีความเสถียร ค่าสเปรดต่ำ และมีเครื่องมือที่ครบครันเพื่อรองรับการวิเคราะห์ของคุณ

หากคุณกำลังมองหา แพลตฟอร์มการเทรด ที่น่าเชื่อถือ Moneta Markets เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่นักเทรดหลายคนพิจารณา แพลตฟอร์มนี้รองรับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่หลากหลาย รวมถึง Fibonacci และมีสินค้าให้เลือกเทรดมากมาย ทั้ง Forex และ CFD อื่นๆ

สรุป: Fibonacci Retracement คือเครื่องมือที่คุณต้องมีติดตัว

Fibonacci Retracement เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ทรงพลัง ซึ่งมีพื้นฐานมาจากลำดับตัวเลขและ สัดส่วนทองคำ ที่ปรากฏในธรรมชาติและตลาดการเงิน ช่วยให้นักเทรดสามารถระบุ ระดับแนวรับ และ แนวต้าน ที่มีนัยสำคัญสูงบน กราฟราคา เพื่อใช้ในการวางแผน จุดเข้าเทรด จุดตัดขาดทุน และ จุดทำกำไร

ด้วยการทำความเข้าใจวิธีการกางเครื่องมืออย่างถูกต้อง การเรียนรู้ความสำคัญของระดับเปอร์เซ็นต์ต่างๆ และการใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์อื่น ๆ เช่น Demand/Supply Zone หรือ อินดิเคเตอร์ คุณจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ Fibonacci Retracement ได้อย่างมาก

แม้จะมีข้อจำกัดเรื่องความเป็นส่วนบุคคลและไม่ได้รับประกันความสำเร็จ 100% แต่ด้วยการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ การบริหารความเสี่ยงที่ดี และการไม่พึ่งพาเครื่องมือนี้เพียงอย่างเดียว Fibonacci Retracement จะเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญในคลังแสงของคุณ ที่ช่วยให้คุณมองเห็นโอกาสและตัดสินใจได้อย่างมีหลักการใน ตลาดการเทรด ที่เต็มไปด้วยความท้าทายนี้ครับ ขอให้คุณประสบความสำเร็จในการเดินทางบนเส้นทางการลงทุนนะครับ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับfibonacci retracement คือ

Q：Fibonacci Retracement คืออะไร?

A：Fibonacci Retracement เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ที่ใช้เพื่อระบุระดับแนวรับและแนวต้านจากระดับราคาประมาณการในการเคลื่อนไหวของราคา.

Q：ระดับ Fibonacci ที่สำคัญมีอะไรบ้าง?

A：ระดับ Fibonacci ที่สำคัญได้แก่ 23.6%, 38.2%, 50%, 61.8%, 78.6% และ 100%.

Q：Fibonacci Retracement ช่วยในการเทรดได้อย่างไร?

A：Fibonacci Retracement ช่วยในการหาจุดเข้าเทรดและจุดตัดขาดทุนโดยอิงจากระดับแนวรับและแนวต้านที่มีนัยสำคัญ.