หน่วยลงทุนคืออะไร? ทำความรู้จักการลงทุนผ่านกองทุนรวมและกองทรัสต์ในปี 2025

Table of Contents

หน่วยลงทุนคืออะไร? ทำความรู้จักการลงทุนแบบรวมกลุ่มผ่านกองทุนและกองทรัสต์

ในโลกของการลงทุนที่มีหลากหลายทางเลือก คุณอาจเคยได้ยินคำว่า “หน่วยลงทุน” มาบ้างใช่ไหมครับ? คำนี้เป็นกุญแจสำคัญในการทำความเข้าใจการลงทุนรูปแบบหนึ่งที่เรียกว่าการลงทุนแบบรวมกลุ่ม ซึ่งช่วยให้เราเข้าถึงสินทรัพย์ขนาดใหญ่ หรือสินทรัพย์ที่ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญในการบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ

หน่วยลงทุน ก็เปรียบเสมือนกับ “หุ้นส่วน” เล็กๆ ของกองทุนรวม หรือกองทรัสต์ต่างๆ ที่ได้รวบรวมเงินจากนักลงทุนจำนวนมากมารวมกันเป็นเงินก้อนใหญ่ เพื่อนำไปลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ ตามนโยบายที่กำหนดไว้ครับ

กลุ่มนักลงทุนกำลังพูดคุยเกี่ยวกับกองทุนรวม

  • หน่วยลงทุนช่วยในการกระจายความเสี่ยงในการลงทุน
  • ช่วยให้นักลงทุนเข้าถึงสินทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น
  • นักลงทุนสามารถได้รับการบริหารจัดการจากทีมงานมืออาชีพ

ทำความเข้าใจ “หน่วยลงทุน” ในฐานะส่วนแบ่งการลงทุนของคุณ

ลองนึกภาพตามเรานะครับ หากมีอาคารขนาดใหญ่ที่สร้างรายได้จากการให้เช่า การที่คนทั่วไปจะซื้ออาคารทั้งหลังเลยคงเป็นเรื่องยากมาก แต่ถ้าเราแบ่งอาคารนั้นออกเป็นส่วนเล็กๆ แล้วขายให้กับคนจำนวนมาก คนเหล่านั้นก็จะกลายเป็น “เจ้าของร่วม” ในสัดส่วนที่เท่ากับส่วนเล็กๆ ที่เขาซื้อมา ซึ่งแต่ละส่วนเล็กๆ นี้ก็คือ “หน่วยลงทุน” นั่นเองครับ

เมื่อคุณตัดสินใจลงทุนในกองทุนรวม หรือกองทรัสต์ เงินลงทุนของคุณก็จะถูกนำไปรวมกับเงินของนักลงทุนคนอื่นๆ และนำไปซื้อสินทรัพย์ เช่น หุ้น พันธบัตร อสังหาริมทรัพย์ หรือสินทรัพย์อื่นๆ โดยที่คุณได้รับ “หน่วยลงทุน” เป็นหลักฐานแสดงสิทธิ์ความเป็นเจ้าของในสัดส่วนตามเงินที่คุณลงทุนไปครับ

มูลค่าของหน่วยลงทุนของคุณจะปรับเปลี่ยนไปตามมูลค่าของสินทรัพย์ทั้งหมดที่กองทุน หรือกองทรัสต์นั้นลงทุนไว้ เราเรียกสิ่งนี้ว่า มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ต่อหน่วยลงทุน ซึ่งคำนวณได้จากมูลค่าสินทรัพย์ทั้งหมด หักด้วยหนี้สินของกองทุน/กองทรัสต์ แล้วหารด้วยจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมดที่ออกจำหน่ายครับ

ภาพแสดงกราฟมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV)

ประเภทหน่วยลงทุน คำอธิบาย
กองทุนรวม กองทุนที่รวบรวมเงินลงทุนจากนักลงทุนเพื่อไปลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภท
กองทรัสต์ โครงสร้างการลงทุนที่มีการบริหารจัดการโดยผู้จัดการทรัสต์
REITs ทรัสต์ที่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อสร้างรายได้ระยะยาว

กองทุนรวมและกองทรัสต์: สองรูปแบบหลักของการลงทุนแบบรวมกลุ่ม

การลงทุนแบบรวมกลุ่มที่ใช้ “หน่วยลงทุน” เป็นเครื่องมือหลัก มีอยู่หลายรูปแบบ แต่ที่คุ้นเคยกันดีในประเทศไทยคือ กองทุนรวม (Mutual Fund) และ กองทรัสต์ (Trust Fund) ซึ่งมีโครงสร้างและวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันไปบ้างครับ

กองทุนรวม เป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมทั่วโลก มีการลงทุนที่หลากหลาย เช่น กองทุนรวมหุ้น กองทุนรวมตราสารหนี้ กองทุนรวมตลาดเงิน และอื่นๆ โดยมีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เป็นผู้บริหารจัดการครับ

ภาพแสดงโครงสร้างของกองทุนรวม

ส่วน กองทรัสต์ เป็นรูปแบบที่กำลังเติบโตและได้รับความสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะในประเภทที่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งมีโครงสร้างการจัดการที่เฉพาะตัว และอยู่ภายใต้กฎหมายและกฎเกณฑ์ที่แตกต่างออกไปครับ

กองทุนประเภท วัตถุประสงค์การลงทุน
กองทุนรวมหุ้น ลงทุนในหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
กองทุนรวมตราสารหนี้ ลงทุนในตราสารหนี้เพื่อรับดอกเบี้ย
กองทุนรวมตลาดเงิน ลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ

เจาะลึกโครงสร้างกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในประเทศไทย (Trust Fund)

กองทรัสต์ในประเทศไทยถูกจัดตั้งขึ้นภายใต้ สัญญาจัดตั้งทรัสต์ ซึ่งเป็นข้อตกลงที่กำหนดสิทธิ์และหน้าที่ของผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยมีบทบาทสำคัญดังนี้ครับ

  • ผู้ลงทุน (Settlor/Unit Holder): คือตัวคุณ หรือนักลงทุนที่นำเงินมาลงทุนในกองทรัสต์ ซึ่งจะได้รับ ใบทรัสต์ หรือ หน่วยทรัสต์ แสดงสิทธิ์การเป็นผู้รับประโยชน์ (Beneficiary) ในทรัพย์สินของกองทรัสต์นั้น
  • ผู้จัดการกองทรัสต์ (REIT Manager/Trust Manager): คือบริษัทผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับอนุญาต ทำหน้าที่คัดเลือก จัดหา และบริหารจัดการทรัพย์สินของกองทรัสต์ รวมถึงจัดหาผลประโยชน์จากทรัพย์สินเหล่านั้น
  • ทรัสตี (Trustee): คือสถาบันการเงินที่ได้รับอนุญาต ทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์ทรัพย์สินของกองทรัสต์ ถือกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินแทนผู้ถือหน่วย และตรวจสอบดูแลให้ผู้จัดการกองทรัสต์ปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาจัดตั้งทรัสต์ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดครับ บทบาทของทรัสตีนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความน่าเชื่อถือของกองทรัสต์ครับ

ทีมงานมืออาชีพกำลังจัดการการลงทุนอสังหาริมทรัพย์

โครงสร้างแบบนี้ทำให้การบริหารจัดการทรัพย์สินแยกออกจากความเป็นเจ้าของโดยตรง และมีการตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจระหว่างผู้จัดการกองทรัสต์และทรัสตี เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหน่วยครับ

REITs คืออะไร? ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ทางเลือกน่าสนใจ

ในบรรดากองทรัสต์ประเภทต่างๆ ในประเทศไทย ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate Investment Trust – REIT) เป็นประเภทที่ได้รับความนิยมอย่างสูงครับ REITs ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์หลักคือการระดมเงินทุนจากนักลงทุนรายย่อยและสถาบัน เพื่อนำไปลงทุนใน อสังหาริมทรัพย์ที่พร้อมสร้างรายได้ (Income-generating properties) หรือเข้าซื้อสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ระยะยาวครับ

ทรัพย์สินที่ REITs ลงทุนมีหลากหลายประเภท เช่น

  • อาคารสำนักงาน
  • ศูนย์การค้า/พื้นที่ค้าปลีก
  • โรงแรม
  • โรงงานและคลังสินค้า
  • อาคารที่พักอาศัยให้เช่า (เช่น Service Apartments)
  • สถานพยาบาล

เป้าหมายหลักของการลงทุนใน REITs คือการได้รับผลตอบแทนที่สม่ำเสมอจากรายได้ของทรัพย์สินที่ลงทุน เช่น ค่าเช่าจากอาคารสำนักงาน หรือรายได้จากค่าบริการโรงแรมครับ

ภาพของตลาดที่วุ่นวายซึ่งแสดงถึงโอกาสในการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ

REITs ในไทย: ข้อกำหนด กฎเกณฑ์ และการจัดประเภทเป็น “ตราสารทุน”

สำหรับประเทศไทย REITs อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น พระราชบัญญัติทรัสต์เพื่อธุรกรรมในตลาดทุน พ.ศ. 2550 และ พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ซึ่งมีข้อกำหนดและหลักเกณฑ์เฉพาะที่สำคัญครับ

หนึ่งในข้อกำหนดหลักคือ REITs ต้องลงทุนในอสังหาริมทรัพย์หรือสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์พร้อมจัดหาผลประโยชน์ไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 ของมูลค่าทรัพย์สินรวม เพื่อให้มั่นใจว่าเงินของผู้ลงทุนส่วนใหญ่ถูกนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์หลักครับ นอกจากนี้ยังมีข้อกำหนดเกี่ยวกับการกู้ยืมเงิน เพื่อไม่ให้เกิดภาระหนี้สินที่สูงเกินไป ซึ่งโดยทั่วไปจะจำกัดการกู้ยืมไว้ไม่เกินร้อยละ 35 ของมูลค่าทรัพย์สินรวม หรือไม่เกินร้อยละ 60 หากกองทรัสต์นั้นมีอันดับความน่าเชื่อถือ (Investment Grade) ครับ

ประเด็นที่น่าสนใจและแตกต่างจากมุมมองสากลบางส่วน คือ ตามมาตรฐานการบัญชีของประเทศไทย โดยสภาวิชาชีพบัญชี ได้กำหนดให้ หน่วยลงทุนในกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Trust) รวมถึงกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (Property Fund) และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) ที่มีอยู่ก่อนหน้า ถูกจัดประเภทเป็น “ตราสารทุน” ครับ เรื่องนี้มีความสำคัญต่อการจัดทำงบการเงินและทำความเข้าใจลักษณะทางบัญชีของหน่วยลงทุนประเภทนี้ครับ

ที่สำคัญ REITs มีนโยบายการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนที่ค่อนข้างชัดเจน โดยต้องจ่ายให้ผู้ถือหน่วยไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้วในแต่ละรอบปีบัญชี ซึ่งนี่คือหนึ่งในเหตุผลที่นักลงทุนหลายคนสนใจ REITs เพื่อเป็นแหล่ง Passive Income ครับ

ประเภท REITs ประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่ลงทุน
REITs ประเภทสำนักงาน อาคารสำนักงาน
REITs ประเภทค้าปลีก ศูนย์การค้า
REITs ประเภทโรงแรม โรงแรม

กองทรัสต์โครงสร้างพื้นฐาน: อีกหนึ่งโอกาสลงทุนในสินทรัพย์ขนาดใหญ่

นอกจาก REITs ที่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์แล้ว ยังมี กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Trust) ซึ่งมีโครงสร้างคล้ายคลึงกัน แต่เปลี่ยนประเภทสินทรัพย์ที่ลงทุนไปเป็น โครงสร้างพื้นฐาน ที่จำเป็นต่อการพัฒนาประเทศครับ

ตัวอย่างของสินทรัพย์โครงสร้างพื้นฐานที่กองทรัสต์ประเภทนี้ลงทุนได้ ได้แก่:

  • ระบบสาธารณูปโภค (เช่น ไฟฟ้า ประปา)
  • ระบบคมนาคม (เช่น ถนน ทางด่วน รถไฟฟ้า ท่าอากาศยาน ท่าเรือ)
  • ระบบโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศ
  • พลังงานทางเลือก

การลงทุนในกองทรัสต์โครงสร้างพื้นฐานเปิดโอกาสให้คุณได้เป็นเจ้าของส่วนหนึ่งของโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ที่ปกติเข้าถึงได้ยาก และได้รับผลตอบแทนจากรายได้ที่เกิดจากการดำเนินงานของโครงสร้างพื้นฐานเหล่านั้นครับ กองทรัสต์ประเภทนี้ก็อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. เช่นเดียวกับ REITs ครับ

REITs และกองทรัสต์สร้างผลตอบแทนให้ผู้ถือหน่วยอย่างไร?

ผู้ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทรัสต์ (ทั้ง REIT และ Infrastructure Trust) และกองทุนรวม สามารถได้รับผลตอบแทนหลักๆ สองทางครับ

  • ผลตอบแทนจากการดำเนินงานของสินทรัพย์: สำหรับ REITs นี่คือรายได้ค่าเช่า หรือรายได้จากการให้บริการของอสังหาริมทรัพย์ หลังจากหักค่าใช้จ่ายต่างๆ แล้ว ส่วนใหญ่จะถูกนำมาจ่ายคืนให้ผู้ถือหน่วยในรูปของ เงินปันผล หรือ เงินลดทุน ซึ่งเป็นนโยบายที่กำหนดไว้ชัดเจน (เช่น ไม่น้อยกว่า 90% ของกำไรสุทธิปรับปรุง สำหรับ REITs)
  • ผลตอบแทนจากส่วนต่างของมูลค่า (Capital Gain): เกิดขึ้นเมื่อมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ของกองทรัสต์ หรือกองทุนรวมปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งอาจมาจากมูลค่าตลาดของสินทรัพย์ที่ลงทุนเพิ่มขึ้น หรือการขายสินทรัพย์บางส่วนได้กำไร หากคุณขายหน่วยลงทุนในราคาที่สูงกว่าราคาที่ซื้อมา คุณก็จะได้รับกำไรจากส่วนต่างนี้ครับ

ผลตอบแทนเหล่านี้จะสะท้อนอยู่ใน มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ต่อหน่วยลงทุนที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละวันทำการ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ลงทุนควรติดตามครับ

บทบาทของผู้จัดการกองทรัสต์/กองทุนและทรัสตี: หัวใจสำคัญของการบริหาร

ความสำเร็จของการลงทุนในหน่วยลงทุน โดยเฉพาะกองทรัสต์และกองทุนรวม ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพโดยผู้เชี่ยวชาญครับ

ผู้จัดการกองทรัสต์/กองทุน คือผู้ที่เปรียบเสมือน “กัปตัน” ของการลงทุน เขาหรือทีมงานมีหน้าที่สำคัญในการ

  • วิเคราะห์และคัดเลือกสินทรัพย์ที่จะลงทุน (เช่น เลือกอสังหาริมทรัพย์ทำเลดี มีศักยภาพสร้างรายได้ หรือเลือกหุ้น/พันธบัตรที่ดี)
  • บริหารจัดการสินทรัพย์ในพอร์ตโฟลิโอให้เกิดประโยชน์สูงสุด (เช่น หาผู้เช่ารายใหม่ ต่ออายุสัญญาเช่า ปรับปรุงอาคาร)
  • ตัดสินใจซื้อ ขาย หรือปรับเปลี่ยนสัดส่วนการลงทุนตามภาวะตลาด
  • บริหารความเสี่ยงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน
  • ดำเนินการเพิ่มทุน (ถ้ามีแผนขยายการลงทุน) หรือธุรกรรมสำคัญอื่นๆ

ส่วน ทรัสตี มีหน้าที่เป็น “ผู้ตรวจสอบและผู้พิทักษ์” ที่สำคัญไม่แพ้กัน ทรัสตีไม่ได้บริหารการลงทุนโดยตรง แต่จะดูแลให้แน่ใจว่าผู้จัดการกองทรัสต์ทำหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายภายใต้สัญญาจัดตั้งทรัสต์ และปฏิบัติตามกฎหมาย กฎเกณฑ์ต่างๆ อย่างเคร่งครัด รวมถึงดูแลผลประโยชน์ของผู้ถือหน่วยโดยรวม ทรัสตีจะถือครองกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินของกองทรัสต์แยกต่างหากจากผู้จัดการกองทรัสต์ เพื่อความปลอดภัยครับ

บทบาท รายละเอียด
ผู้จัดการกองทรัสต์ ดูแลการลงทุนและบริหารสินทรัพย์
ทรัสตี ทำหน้าที่ตรวจสอบและคุ้มครองผลประโยชน์ของผู้ถือหน่วย

ปัจจัยที่ส่งผลต่อมูลค่าหน่วยลงทุนและความเสี่ยงที่คุณต้องรู้

เช่นเดียวกับการลงทุนประเภทอื่นๆ การลงทุนในหน่วยลงทุนก็มีความเสี่ยงที่คุณต้องทำความเข้าใจครับ มูลค่าของหน่วยลงทุนไม่ได้การันตีว่าจะคงที่หรือเพิ่มขึ้นเสมอไป อาจมีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้มูลค่าปรับตัวลดลงได้

ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อมูลค่าหน่วยลงทุนได้แก่:

  • ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม: เศรษฐกิจที่ดีมักส่งผลดีต่อการดำเนินงานของสินทรัพย์ที่ลงทุน (เช่น อัตราการเช่าพื้นที่สูงขึ้น, กำไรของบริษัทจดทะเบียนดีขึ้น) ในทางกลับกัน เศรษฐกิจชะลอตัวอาจส่งผลกระทบทางลบครับ
  • อัตราดอกเบี้ย: อัตราดอกเบี้ยมีผลต่อต้นทุนการกู้ยืมของกองทรัสต์/กองทุน และยังเป็นปัจจัยในการประเมินมูลค่าสินทรัพย์ รวมถึงส่งผลต่อความน่าสนใจของการลงทุนในสินทรัพย์อื่นที่เป็นคู่แข่ง เช่น พันธบัตรรัฐบาล
  • ภาวะตลาดสินทรัพย์ที่ลงทุนโดยเฉพาะ: เช่น ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ตลาดหุ้น หรือตลาดตราสารหนี้ หากตลาดเหล่านี้ปรับตัวลง ก็จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อมูลค่าสินทรัพย์ของกองทุน/กองทรัสต์ครับ
  • คุณภาพและการบริหารจัดการสินทรัพย์: หากอสังหาริมทรัพย์มีผู้เช่าเต็มตลอด หรือบริษัทที่กองทุนรวมไปลงทุนมีผลประกอบการที่ดีเยี่ยม ย่อมส่งผลดีต่อมูลค่าหน่วยลงทุนครับ ในทางกลับกัน หากสินทรัพย์มีปัญหา (เช่น ตึกว่าง ค่าเช่าลด) ก็จะส่งผลทางลบ
  • ความสามารถของผู้จัดการกองทรัสต์/กองทุน: กลยุทธ์การลงทุนและการบริหารจัดการที่ชาญฉลาด สามารถช่วยสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าค่าเฉลี่ยได้ แต่หากการบริหารจัดการไม่ดี ก็อาจทำให้ผลตอบแทนไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง
ประเภทความเสี่ยง คำอธิบาย
ความเสี่ยงด้านราคา มูลค่าหน่วยลงทุนสามารถปรับตัวขึ้นหรือลงได้ตามภาวะตลาด
ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง อาจมีช่วงเวลาที่การซื้อขายไม่คล่องตัวเท่าที่ควร
ความเสี่ยงด้านกฎเกณฑ์ การเปลี่ยนแปลงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน

กรณีศึกษาและตัวอย่างกองทุนที่ประสบความสำเร็จ

การศึกษาตัวอย่างจากกองทุนจริงช่วยให้เราเห็นภาพการบริหารจัดการและการสร้างผลตอบแทนได้ชัดเจนขึ้นครับ

ในประเทศไทย มีกองทรัสต์ที่น่าสนใจหลายแห่ง เช่น HREIT (บริษัท ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น) ซึ่งลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ประเภทโรงงานและคลังสินค้าคุณภาพสูงในพื้นที่ยุทธศาสตร์ เช่น เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และจังหวัดสระบุรี การดำเนินงานของ HREIT สะท้อนให้เห็นถึงการบริหารจัดการสินทรัพย์ให้มีอัตราการเช่าสูง และการสร้างรายได้ค่าเช่าที่สม่ำเสมอ นอกจากนี้ HREIT ยังมีการพิจารณา การเพิ่มทุน เป็นระยะ เพื่อนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ใหม่ๆ จากกลุ่ม WHA ซึ่งแสดงถึงโอกาสในการเติบโตและขยายขนาดของกองทรัสต์ในอนาคตครับ

ภาพของนักลงทุนที่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ผ่านกองทรัสต์

อีกตัวอย่างหนึ่งที่แม้จะเป็นกองทุนต่างประเทศ แต่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของกลยุทธ์การลงทุนและความสามารถของผู้จัดการกองทุนได้อย่างดี คือ กองทุน Pimco Income Fund ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ประเภท Multisector bond Fund กองทุนนี้ประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นภายใต้การบริหารจัดการของทีมงานผู้เชี่ยวชาญ นำโดย Daniel Ivascyn (ซึ่งรับช่วงต่อจาก Bill Gross ผู้ก่อตั้ง) โดยมีกลยุทธ์สำคัญคือการลงทุนในตราสารหนี้ที่มีความซับซ้อน เช่น Non-agency mortgage-backed securities ซึ่งต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจตลาดอย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะในช่วงหลังวิกฤตการเงิน การที่ Pimco Income สามารถระบุโอกาสและจัดการความเสี่ยงในสินทรัพย์เหล่านี้ได้ ทำให้สามารถสร้างผลตอบแทนที่เหนือกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มได้อย่างต่อเนื่อง เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ลงทุนได้จริงครับ

การลงทุนผ่านหน่วยลงทุน: ข้อดีที่คุณจะได้รับ

การลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมและกองทรัสต์มีข้อดีหลายประการที่ทำให้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน ทั้งผู้เริ่มต้นและผู้ที่มีประสบการณ์ครับ

  • การกระจายความเสี่ยง: เงินลงทุนของคุณจะถูกนำไปลงทุนในสินทรัพย์หลายประเภท หรือหลายรายการ ทำให้ความเสี่ยงไม่กระจุกตัวอยู่ในสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่ง ช่วยลดผลกระทบหากสินทรัพย์บางรายการมีปัญหาครับ
  • การเข้าถึงสินทรัพย์เฉพาะทาง: คุณสามารถลงทุนในสินทรัพย์ขนาดใหญ่หรือเข้าถึงยาก เช่น อาคารสำนักงาน โรงแรม หรือโครงสร้างพื้นฐาน โดยใช้เงินลงทุนไม่มากเท่าการซื้อสินทรัพย์นั้นโดยตรง
  • การบริหารจัดการโดยมืออาชีพ: กองทุนและกองทรัสต์บริหารจัดการโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ ประสบการณ์ และเครื่องมือในการวิเคราะห์และตัดสินใจลงทุน ซึ่งอาจมีประสิทธิภาพมากกว่าการที่คุณลงทุนด้วยตัวเองครับ
  • ศักยภาพในการสร้าง Passive Income: โดยเฉพาะในกรณีของ REITs หรือกองทุนที่เน้นการจ่ายผลตอบแทน การได้รับเงินปันผล หรือเงินลดทุนอย่างสม่ำเสมอสามารถช่วยสร้างกระแสรายได้แบบ Passive ให้กับพอร์ตการลงทุนของคุณได้
  • ความสะดวกในการลงทุน: การซื้อขายหน่วยลงทุนมักทำได้สะดวกผ่านช่องทางต่างๆ ของผู้ให้บริการ และคุณไม่ต้องเสียเวลาไปกับการบริหารจัดการสินทรัพย์โดยตรงครับ

สรุปและคำแนะนำสุดท้ายสำหรับการลงทุนในหน่วยลงทุน

หน่วยลงทุนในกองทุนรวมและกองทรัสต์ เป็นเครื่องมือการลงทุนแบบรวมกลุ่มที่เปิดโอกาสให้คุณเข้าถึงการลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นหุ้น ตราสารหนี้ หรือสินทรัพย์ทางเลือกอย่างอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐาน ผ่านการบริหารจัดการโดยผู้เชี่ยวชาญครับ

สำหรับกองทรัสต์ในประเทศไทย โดยเฉพาะ REITs มีกฎเกณฑ์ โครงสร้าง และลักษณะเฉพาะตัวที่น่าสนใจ โดยหน่วยลงทุนเหล่านี้ถูกจัดประเภทเป็นตราสารทุนตามมาตรฐานบัญชีไทย และมีข้อกำหนดเรื่องการลงทุน การกู้ยืม และการจ่ายผลตอบแทนที่ค่อนข้างชัดเจนครับ

อย่างไรก็ตาม การลงทุนทุกประเภทย่อมมีความเสี่ยง ราคาหน่วยลงทุนหรือผลตอบแทนที่ได้รับอาจลดลงได้ และเงินต้นที่คุณลงทุนไปอาจไม่ได้รับคืนเต็มจำนวนเสมอไปครับ

ดังนั้น ก่อนที่คุณจะตัดสินใจลงทุนในหน่วยลงทุนใดๆ เราขอแนะนำให้คุณศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด ทำความเข้าใจลักษณะเฉพาะของกองทุน หรือกองทรัสต์นั้นๆ ศึกษา หนังสือชี้ชวน เพื่อดูนโยบายการลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีต ค่าธรรมเนียม และที่สำคัญคือประเมินระดับความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้ครับ การลงทุนที่รอบคอบเริ่มต้นจากการมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องครับ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับunit trust คือ

Q:หน่วยลงทุนสามารถสร้างรายได้แบบ Passive Income ได้จริงหรือไม่?

A:ใช้ค่ะ โดยเฉพาะกองทุนที่เน้นการจ่ายเงินปันผลอย่าง REITs

Q:นักลงทุนต้องมีเงินลงทุนขั้นต่ำเท่าไรจึงจะสามารถเข้าลงทุนได้?

A:ขึ้นอยู่กับแต่ละกองทุน อาจมีขั้นต่ำตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักพันบาท

Q:การลงทุนในหน่วยลงทุนมีความเสี่ยงอย่างไร?

A:มูลค่าหน่วยลงทุนอาจปรับตัวขึ้นหรือลงได้ตามสถานการณ์ของตลาด

發佈留言

發佈留言必須填寫的電子郵件地址不會公開。 必填欄位標示為 *