เวลาทำการตลาด Forex: คู่มือครบวงจรสำหรับเทรดเดอร์ไทย
สวัสดีครับ เทรดเดอร์ทุกท่าน! ยินดีต้อนรับเข้าสู่โลกแห่งการซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยน หรือที่เรารู้จักกันในนาม ตลาด Forex ตลาดการเงินที่ใหญ่และมีสภาพคล่องสูงที่สุดในโลกแห่งนี้มีความพิเศษอย่างหนึ่ง นั่นคือการเปิดทำการเกือบตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้คุณมีโอกาสในการเข้าถึงและทำการซื้อขายได้เกือบตลอดเวลา แต่คุณทราบหรือไม่ว่า การเข้าใจถึงช่วงเวลาทำการของตลาดในแต่ละภูมิภาคทั่วโลกนั้นสำคัญแค่ไหนต่อความสำเร็จในการเทรดของคุณ? บทความนี้ เราจะพาคุณไปเจาะลึกเรื่องเวลาตลาด Forex เพื่อให้คุณวางแผนการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นครับ
หนึ่งในสิ่งที่ต้องเข้าใจเกี่ยวกับตลาด Forex คือ ตลาดนี้เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมงในช่วงต้นเดือนที่มีการเทรดทั่วโลก โดยในแต่ละวันมีตลาดหลักหลายแห่งที่ทำการซื้อขาย ซึ่งจะมีการเคลื่อนไหวของราคาที่หลากหลาย มือใหม่หลายคนอาจพบว่าเป็นการยากที่จะติดตามเวลาทำการเหล่านี้ ในการทำความเข้าใจเวลาตลาด Forex อย่างถูกต้อง คุณจะต้องมีความชัดเจนเกี่ยวกับเวลาเปิด-ปิดของแต่ละเซสชั่นตลาดหลัก
- การเปิดทำการของแต่ละตลาดในโซนเวลาที่แตกต่างกัน ทำให้สามารถซื้อขายได้เกือบตลอด 24 ชั่วโมง
- เพื่อประสิทธิภาพในการเทรด ควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับช่วงเวลาทำการของแต่ละเซสชั่นหลัก
- จะต้องตรวจสอบเวลาเปิด-ปิด และความเคลื่อนไหวของตลาดในช่วงเวลาที่ต่างกัน
โลก Forex 24 ชั่วโมง: ทำงานอย่างไร?
หลายคนอาจสงสัยว่า ตลาด Forex สามารถเปิดทำการได้ตลอด 24 ชั่วโมงได้อย่างไร ในเมื่อตลาดหุ้นทั่วโลกต่างก็มีเวลาเปิด-ปิดที่แน่นอน? คำตอบง่ายๆ คือ ตลาด Forex ไม่ได้ตั้งอยู่ที่ใดที่หนึ่งเพียงแห่งเดียว แต่เป็นการซื้อขายแบบ Over-the-Counter (OTC) ที่เชื่อมโยงธนาคาร สถาบันการเงิน และนักลงทุนรายย่อยทั่วโลกเข้าไว้ด้วยกันผ่านเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์ การที่ตลาดเปิดต่อเนื่องได้ ก็เพราะเมื่อตลาดหลักแห่งหนึ่งในซีกโลกหนึ่งปิดทำการ ตลาดหลักอีกแห่งในซีกโลกถัดไปก็จะเริ่มเปิดทำการ ทำให้เกิดการซื้อขายหมุนเวียนกันไปตลอดเวลา ตั้งแต่เช้าวันจันทร์ถึงเช้าวันเสาร์ตามเวลาประเทศไทย
| เซสชั่น | เวลาเปิด | เวลาแข่งขัน |
|---|---|---|
| ซิดนีย์ (Sydney) | 04:00 น. | 13:00 น. |
| โตเกียว (Tokyo) | 07:00 น. | 16:00 น. |
| ลอนดอน (London) | 15:00 น. | 23:00 น. |
| นิวยอร์ก (New York) | 20:00 น. | 04:00 น. |
ทำความรู้จัก “เซสชั่นตลาดหลัก” ทั่วโลก
เพื่อให้เข้าใจการทำงานแบบ 24 ชั่วโมงของตลาด Forex เราต้องรู้จักกับ เซสชั่นตลาดหลัก (Major Market Sessions) ที่ขับเคลื่อนตลาดนี้ เซสชั่นเหล่านี้อ้างอิงจากเวลาทำการของศูนย์กลางทางการเงินใหญ่ๆ ทั่วโลก ซึ่งเมื่อตลาดเหล่านี้เปิด ก็จะมีปริมาณการซื้อขายและความเคลื่อนไหวของราคาเพิ่มสูงขึ้น โดยเซสชั่นหลักที่เราควรรู้จักมี 4 แห่ง ได้แก่
- เซสชั่นซิดนีย์ (Sydney Session): เป็นตลาดแรกที่เปิดในแต่ละสัปดาห์ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของวันเทรดใหม่
- เซสชั่นโตเกียว (Tokyo Session): เซสชั่นเอเชียหลัก มีอิทธิพลต่อคู่สกุลเงินเอเชีย เช่น JPY
- เซสชั่นลอนดอน (London Session): ถือเป็นเซสชั่นยุโรปที่ใหญ่ที่สุด เป็นศูนย์กลางการเงินสำคัญของโลก มักมีการเคลื่อนไหวของราคาที่เพิ่มขึ้น
- เซสชั่นนิวยอร์ก (New York Session): เซสชั่นอเมริกา เป็นตลาดที่ใหญ่และมีสภาพคล่องสูงเช่นกัน
เซสชั่นเหล่านี้จะเปิดและปิดต่อเนื่องกันไป ทำให้เกิดวงจรการซื้อขายตลอดทั้งวัน
เจาะลึกเวลาทำการแต่ละเซสชั่น (ตามเวลาประเทศไทย GMT+7)
การรู้เวลาเปิด-ปิดที่ชัดเจนของแต่ละเซสชั่นจะช่วยให้คุณวางแผนการเทรดได้ดีขึ้น โดยเวลาทำการโดยประมาณของเซสชั่นหลัก (ตามเวลาประเทศไทย GMT+7) มีดังนี้ครับ
- เซสชั่นซิดนีย์ (Sydney, Australia – AUD): เปิดประมาณ 04:00 น. ถึง 13:00 น.
- เซสชั่นโตเกียว (Tokyo, Japan – JPY): เปิดประมาณ 07:00 น. ถึง 16:00 น.
- เซสชั่นลอนดอน (London, Europe – EUR, GBP): เปิดประมาณ 15:00 น. ถึง 23:00 น.
- เซสชั่นนิวยอร์ก (New York, USA – USD): เปิดประมาณ 20:00 น. ถึง 04:00 น. (ของวันถัดไป)
| เซสชั่น | เวลาเปิด | เวลาปิด |
|---|---|---|
| ซิดนีย์ | ประมาณ 04:00 น. | ประมาณ 13:00 น. |
| โตเกียว | ประมาณ 07:00 น. | ประมาณ 16:00 น. |
| ลอนดอน | ประมาณ 15:00 น. | ประมาณ 23:00 น. |
| นิวยอร์ก | ประมาณ 20:00 น. | ประมาณ 04:00 น. (วันถัดไป) |
โปรดทราบว่าเวลาเหล่านี้เป็นเพียงค่าประมาณ อาจมีความแตกต่างกันเล็กน้อยขึ้นอยู่กับการปรับเวลาตามฤดูกาล (Daylight Saving Time) ในแต่ละประเทศ และเวลาอ้างอิงของโบรกเกอร์ที่คุณใช้ แต่โครงสร้างหลักของเซสชั่นยังคงเป็นไปตามนี้ครับ
“ช่วงเวลาคาบเกี่ยว”: หัวใจสำคัญของการเทรด
หนึ่งในแนวคิดที่สำคัญที่สุดเกี่ยวกับการเทรด Forex คือเรื่องของ ช่วงเวลาคาบเกี่ยว (Overlap Sessions) หรือช่วงเวลาที่ตลาดหลักตั้งแต่สองแห่งขึ้นไปเปิดทำการพร้อมกัน ลองนึกภาพถนนที่ปกติมีการจราจรตามปกติ แต่เมื่อถึงช่วงเวลาเร่งด่วน (Rush Hour) รถก็จะเยอะเป็นพิเศษและมีการเคลื่อนไหวคึกคัก ตลาด Forex ก็เช่นกันครับ เมื่อตลาดใหญ่สองแห่งเปิดพร้อมกัน จะมีผู้เล่นในตลาดมากขึ้น ปริมาณการซื้อขาย (Volume) และ สภาพคล่อง (Liquidity) ก็จะสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และที่สำคัญกว่านั้นคือ มักจะส่งผลให้ราคาเคลื่อนไหวได้แรงและมีความ ผันผวน (Volatility) สูงกว่าช่วงเวลาอื่น นี่คือช่วงเวลาที่เทรดเดอร์จำนวนมากให้ความสนใจ เพราะมีโอกาสในการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาที่ชัดเจน
ช่วงเวลาทองคำ: London & New York Overlap
ในบรรดาช่วงเวลาคาบเกี่ยวทั้งหมด มีช่วงหนึ่งที่โดดเด่นที่สุด นั่นคือช่วงที่ เซสชั่นลอนดอน และ เซสชั่นนิวยอร์ก เปิดทำการพร้อมกัน ช่วงเวลานี้เปรียบเสมือน “ศูนย์กลางพายุ” ในตลาด Forex ที่มีการเคลื่อนไหวรุนแรงและรวดเร็วที่สุด ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น? เพราะเป็นการรวมตัวของผู้เล่นรายใหญ่จากสองศูนย์กลางทางการเงินที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก ทั้งในยุโรปและอเมริกา กิจกรรมทางเศรษฐกิจ ข่าวสารสำคัญ และการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นในช่วงเวลานี้
สำหรับเทรดเดอร์ในประเทศไทย ช่วงเวลาคาบเกี่ยวระหว่างลอนดอนและนิวยอร์กจะอยู่ประมาณ 19:00 น. ถึง 23:00 น. ตามเวลาประเทศไทย ในช่วง 4 ชั่วโมงนี้ คุณมักจะเห็นการเคลื่อนไหวของราคาในคู่สกุลเงินหลัก (Major Pairs) เช่น EUR/USD, GBP/USD, USD/JPY รวมถึงสินค้าโภคภัณฑ์อย่าง ทองคำ (XAU/USD) มีความผันผวนและปริมาณการซื้อขายที่สูงมาก หากคุณเป็นเทรดเดอร์ที่ชอบเทรดตามแนวโน้มหรือใช้กลยุทธ์ที่อิงกับการ Breakout หรือการเคลื่อนไหวของราคาที่รวดเร็ว ช่วงเวลานี้ถือเป็นช่วงเวลาที่คุณควรให้ความสำคัญและเฝ้าติดตาม
Overlaps อื่นๆ ที่น่าสนใจ
นอกจากช่วงเวลาคาบเกี่ยวระหว่างลอนดอนและนิวยอร์กแล้ว ยังมีช่วงเวลาคาบเกี่ยวอื่นๆ ที่มีความสำคัญรองลงมา แต่ก็ยังน่าสนใจครับ
- เซสชั่นซิดนีย์และเซสชั่นโตเกียว (ประมาณ 07:00 น. ถึง 09:00 น. เวลาไทย): เป็นช่วงเริ่มต้นของวันเทรดใหม่ในเอเชีย แม้ความผันผวนจะไม่เท่าช่วงยุโรป-อเมริกา แต่ก็เป็นช่วงที่มีสภาพคล่องเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในคู่สกุลเงินที่มี AUD และ JPY
- เซสชั่นโตเกียวและเซสชั่นลอนดอน (ประมาณ 15:00 น. ถึง 16:00 น. เวลาไทย): เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านจากตลาดเอเชียสู่ตลาดยุโรป ช่วงนี้อาจมีการเคลื่อนไหวของราคาบ้าง แต่ก็ไม่รุนแรงเท่าช่วงลอนดอน-นิวยอร์ก
การเข้าใจและใช้ประโยชน์จากช่วงเวลาคาบเกี่ยวเหล่านี้ จะช่วยให้คุณสามารถปรับกลยุทธ์การเทรดให้เหมาะสมกับสภาพตลาดในช่วงเวลานั้นๆ ได้
รอบการเทรดประจำสัปดาห์: จันทร์เช้าถึงเสาร์เช้า
โดยทั่วไปแล้ว ตลาด Forex จะเปิดทำการตลอด 5 วันครึ่งต่อสัปดาห์ เริ่มต้นเมื่อตลาดซิดนีย์เปิดในเช้าวันจันทร์ (ประมาณ 04:00 น. ตามเวลาประเทศไทย) และปิดทำการเมื่อตลาดนิวยอร์กปิดในเย็นวันศุกร์ (ซึ่งตรงกับเช้าวันเสาร์ประมาณ 04:00 น. ตามเวลาประเทศไทย) ช่วงสุดสัปดาห์ (วันเสาร์และวันอาทิตย์) ตลาด Forex จะปิดทำการ
| วัน | เวลาทำการ |
|---|---|
| วันจันทร์ | 04:00 น. – 13:00 น. |
| วันอังคาร | 04:00 น. – 13:00 น. |
| วันพุธ | 04:00 น. – 13:00 น. |
| วันพฤหัสบดี | 04:00 น. – 13:00 น. |
| วันศุกร์ | 04:00 น. – 04:00 น. (วันเสาร์) |
สิ่งที่ต้องระวังคือ ความเสี่ยงเรื่อง Gap หรือช่องว่างของราคาที่เกิดขึ้นเมื่อตลาดปิดช่วงสุดสัปดาห์ แล้วเปิดขึ้นมาใหม่ในเช้าวันจันทร์ ราคาอาจกระโดดขึ้นหรือลงอย่างรวดเร็วเนื่องจากมีข่าวสารหรือเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดปิด ซึ่งอาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อสถานะที่คุณเปิดทิ้งไว้ การบริหารความเสี่ยงในช่วงสุดสัปดาห์จึงเป็นสิ่งสำคัญ
ปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อเวลาตลาด: วันหยุดและข่าวสาร
นอกเหนือจากเวลาเปิด-ปิดตามปกติและช่วงเวลาคาบเกี่ยวแล้ว ยังมีปัจจัยภายนอกที่สามารถส่งผลกระทบต่อเวลาทำการและความผันผวนของตลาด Forex ได้
- วันหยุดนักขัตฤกษ์สำคัญ: ประเทศต่างๆ มีวันหยุดประจำชาติ ซึ่งหากตรงกับศูนย์กลางทางการเงินหลัก เช่น วันหยุดในสหรัฐฯ, ยุโรป, ญี่ปุ่น หรือออสเตรเลีย ตลาดในภูมิภาคเหล่านั้นอาจปิดทำการ หรือมีการเปลี่ยนแปลงเวลาเปิด-ปิด ส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายในคู่สกุลเงินที่เกี่ยวข้องลดลงอย่างมาก การตรวจสอบ ปฏิทินวันหยุดตลาด (Market Holiday Calendar) ล่วงหน้าจึงเป็นสิ่งจำเป็น
- การประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ: ดังที่กล่าวไป ข้อมูลเศรษฐกิจที่มีผลกระทบสูง (High-Impact News) เช่น การประกาศ อัตราดอกเบี้ย ของธนาคารกลาง, ข้อมูล อัตราเงินเฟ้อ (CPI), อัตราการว่างงาน มักจะถูกประกาศในช่วงเวลาทำการของเซสชั่นที่เกี่ยวข้อง และจะสร้างความผันผวนอย่างรุนแรงในตลาด การติดตาม ปฏิทินเศรษฐกิจ (Economic Calendar) เพื่อทราบกำหนดการของข่าวสารสำคัญ จะช่วยให้คุณเตรียมพร้อมรับมือกับการเคลื่อนไหวของราคา หรือเลือกที่จะหลีกเลี่ยงการเทรดในช่วงเวลานั้นๆ
การตระหนักถึงปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้คุณไม่พลาดโอกาสและหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่ไม่จำเป็นได้ครับ
ความแตกต่างของเวลาในแต่ละโบรกเกอร์?
แม้ว่าโครงสร้างเวลาของเซสชั่นตลาดโลกจะเป็นมาตรฐาน แต่เวลาเปิด-ปิดที่แสดงในแพลตฟอร์มการเทรดของคุณอาจมีความแตกต่างกันเล็กน้อยกับเวลามาตรฐานที่เรากล่าวถึง สาเหตุหลักมาจาก เวลา Server ของโบรกเกอร์ ที่คุณใช้ ซึ่งอาจอ้างอิงเขตเวลาที่แตกต่างกันไป โบรกเกอร์ส่วนใหญ่มักจะแสดงเวลาตาม GMT หรือ GMT+2 (หากมีการปรับเวลา Daylight Saving Time) และเริ่มเปิดตลาดในเช้าวันจันทร์ประมาณ 00:00 น. GMT (ซึ่งก็คือประมาณ 07:00 น. หรือ 09:00 น. ตามเวลาไทย ขึ้นอยู่กับการปรับเวลา) และปิดในเวลาเดียวกันของวันเสาร์ GMT
| โบรกเกอร์ | เวลาเปิด | เวลาแข่งขัน |
|---|---|---|
| โบรกเกอร์ A | 00:00 น. GMT | 23:59 น. GMT |
| โบรกเกอร์ B | 00:00 น. GMT+2 | 23:59 น. GMT+2 |
สิ่งสำคัญคือ ให้คุณทำความเข้าใจว่าแพลตฟอร์มของโบรกเกอร์ที่คุณใช้แสดงเวลาอ้างอิงจากเขตเวลาใด และคำนวณเทียบกับเวลาประเทศไทย เพื่อที่คุณจะได้ทราบเวลาเปิด-ปิดและช่วงเวลาคาบเกี่ยวที่ถูกต้องตามแพลตฟอร์มของคุณเอง การตรวจสอบเวลาที่แสดงบนแพลตฟอร์มเทรดโดยตรงจะเป็นข้อมูลที่แม่นยำที่สุด
หากคุณกำลังมองหาโบรกเกอร์ที่มีความยืดหยุ่นและเทคโนโลยีรองรับการเทรดตลอด 24 ชั่วโมง ลองพิจารณา Moneta Markets ที่รองรับแพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง MT4, MT5, และ Pro Trader มาพร้อมกับการประมวลผลคำสั่งที่รวดเร็วและสเปรดที่แข่งขันได้ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเทรดในช่วงเวลาที่ตลาดเคลื่อนไหวเร็ว
วางแผนการเทรดตามเวลาตลาดอย่างไร?
เมื่อเราเข้าใจเรื่องเวลาทำการตลาด Forex แล้ว เราจะนำความรู้นี้ไปใช้ในการวางแผนการเทรดได้อย่างไร?
ประการแรก คุณสามารถเลือกเวลาเทรดที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคุณ หากคุณเป็นคนตื่นเช้าและสะดวกเทรดในช่วงกลางวัน อาจเน้นที่ เซสชั่นเอเชีย (โตเกียว) หรือช่วงคาบเกี่ยวเอเชีย-ยุโรป แต่ถ้าคุณว่างในช่วงเย็นหรือกลางคืน ช่วง เซสชั่นลอนดอนและนิวยอร์ก คือช่วงเวลาที่คุณควรให้ความสำคัญเป็นพิเศษ
ประการที่สอง ปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับสภาพตลาดในแต่ละช่วงเวลา ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง (เช่น ช่วง London/New York Overlap) กลยุทธ์ที่เน้นการจับโมเมนตัมหรือการ Breakout อาจทำงานได้ดี ในขณะที่ช่วงที่ตลาดซบเซาหรือเคลื่อนไหวในกรอบ อาจใช้กลยุทธ์แบบ Sideways หรือ Range Trading
ประการสุดท้าย วางแผนรับมือกับข่าวสารและวันหยุด ตรวจสอบปฏิทินเศรษฐกิจและปฏิทินวันหยุดล่วงหน้า หากมีข่าวสำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อคู่สกุลเงินที่คุณเทรด คุณอาจเลือกที่จะหลีกเลี่ยงการเปิดสถานะในช่วงเวลานั้น หรือลดขนาดการลงทุนลงเพื่อบริหารความเสี่ยง หรืออาจเตรียมตัวสำหรับความผันผวนที่เพิ่มขึ้นหากคุณมีกลยุทธ์รองรับ
การเข้าใจว่าช่วงเวลาใดที่คู่สกุลเงินที่คุณสนใจมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวมากที่สุด จะช่วยให้คุณใช้เวลาในการเฝ้าหน้าจอได้อย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สำหรับนักลงทุนที่เพิ่งเริ่มต้น หรือกำลังมองหาเครื่องมือและข้อมูลสนับสนุนที่ครอบคลุม การเลือกโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือและให้บริการครบวงจรเป็นสิ่งสำคัญครับ Moneta Markets เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ ด้วยการกำกับดูแลจากหลายหน่วยงานชั้นนำ เช่น FSCA, ASIC, และ FSA พร้อมด้วยการแยกเก็บเงินทุนลูกค้า และบริการสนับสนุนอื่นๆ ที่ช่วยให้การเทรดของคุณราบรื่นยิ่งขึ้น
บทสรุป: กุญแจสู่การเทรด Forex อย่างเข้าใจ
ในฐานะเทรดเดอร์ ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเข้าสู่ตลาด หรือมีประสบการณ์อยู่แล้ว การทำความเข้าใจเรื่อง เวลาทำการตลาด Forex คือหนึ่งในองค์ประกอบพื้นฐานที่สำคัญอย่างยิ่ง มันไม่ใช่แค่เรื่องของเวลาเปิด-ปิด แต่รวมถึงการเข้าใจวงจรการทำงานของตลาดทั่วโลก ช่วงเวลาที่มีผู้เล่นจำนวนมาก มีสภาพคล่องสูง และมีความผันผวนที่สามารถสร้างโอกาส (และความเสี่ยง) ได้
การรู้ว่าช่วงเวลาใดที่เซสชั่นหลักเปิดพร้อมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วง London & New York Overlap นั้น จะช่วยให้คุณสามารถเลือกเวลาเทรดที่เหมาะสมกับกลยุทธ์ของคุณ วางแผนการเข้าและออกจากการซื้อขายได้อย่างชาญฉลาด และเตรียมพร้อมรับมือกับความเคลื่อนไหวของราคาที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้ การหมั่นตรวจสอบปฏิทินเศรษฐกิจและวันหยุดตลาด ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อให้คุณสามารถนำความรู้เหล่านี้ไปประยุกต์ใช้กับการวิเคราะห์ทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐาน เพื่อสร้างกลยุทธ์การเทรด Forex ที่แข็งแกร่งและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้อย่างยั่งยืนในระยะยาวครับ ขอให้ทุกท่านโชคดีกับการเทรด!
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเวลาตลาด forex
Q：ตลาด Forex เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมงจริงหรือ?
A：ใช่ ตลาด Forex เปิดทำการเกือบตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีตลาดหลักที่เปิดต่อเนื่องตามเวลาในแต่ละภูมิภาค
Q：ช่วงเวลาไหนที่มีการเทรดมากที่สุด?
A：ช่วงเวลาคาบเกี่ยวระหว่างเซสชั่นลอนดอนและนิวยอร์ก มีการเทรดและความเคลื่อนไหวสูงสุดในตลาด
Q：จะติดตามข่าวสำคัญสำหรับ Forex ได้ที่ไหน?
A：คุณสามารถติดตามข่าวสารที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจผ่านเว็บปฏิทินเศรษฐกิจต่างๆ ที่มีข้อมูลอัปเดตอยู่เสมอ
