Free Float คืออะไร? นิยามและความสำคัญที่คุณต้องรู้
ในตลาดหุ้นไทย นักลงทุนควรให้ความสนใจกับแนวคิด “Free Float” หรือปริมาณหุ้นที่หมุนเวียนได้อย่างอิสระในตลาด เพราะมันช่วยบอกภาพรวมของสภาพคล่องและการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นได้ชัดเจน Free Float หมายถึงส่วนหนึ่งของหุ้นทั้งหมดที่บริษัทจดทะเบียนปล่อยให้ซื้อขายได้โดยไม่มีข้อจำกัด โดยหักส่วนที่ถือโดยผู้ถือหุ้นหลัก ผู้บริหาร หรือหน่วยงานที่มุ่งเน้นกลยุทธ์ ซึ่งมักไม่ค่อยเปลี่ยนมือบ่อยๆ

สิ่งที่ทำให้ Free Float สำคัญคือ มันเป็นตัววัดสภาพคล่องของหุ้นโดยตรง ถ้าหุ้นมี Free Float มาก หุ้นเหล่านั้นจะไหลเวียนในตลาดได้สะดวก การซื้อขายจึงราบรื่น ราคาก็ปรับตัวตามกลไกตลาดจริงๆ และยากที่จะถูก操控 ในทางตรงกันข้าม ถ้า Free Float น้อย สภาพคล่องอาจแย่ ราคาแกว่งตัวง่าย และผู้ถือหุ้นใหญ่สามารถมีอิทธิพลมากขึ้น ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงให้กับนักลงทุนรายย่อย

นอกจากนี้ การแยกแยะระหว่าง Free Float กับจำนวนหุ้นจดทะเบียนทั้งหมดยังช่วยให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น จำนวนหุ้นจดทะเบียนทั้งหมดคือหุ้นที่บริษัทออกทั้งหมดและลงทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) แต่ Free Float เป็นแค่ส่วนที่พร้อมซื้อขายจริงๆ ในแต่ละวัน การรู้จัก Free Float ดีๆ จะช่วยให้นักลงทุนวางแผนลงทุนได้รอบคอบขึ้น โดยพิจารณาความเสี่ยงและโอกาสจากหุ้นแต่ละตัวในตลาด SET

การคำนวณ Free Float: เข้าใจหลักการและผู้ถือหุ้นที่ไม่นับรวม
Free Float คำนวณอย่างไร?
การหาค่า Free Float ไม่ซับซ้อน แต่ต้องรู้ว่าหุ้นส่วนไหนที่รวมหรือไม่รวม สูตรพื้นฐานคือการเอา (จำนวนหุ้นทั้งหมด ลบหุ้นที่ไม่ใช่ Free Float) หารด้วยจำนวนหุ้นทั้งหมด แล้วคูณร้อยเพื่อให้ได้เปอร์เซ็นต์
Free Float (%) = [(จำนวนหุ้นทั้งหมด – จำนวนหุ้นที่ไม่เป็น Free Float) / จำนวนหุ้นทั้งหมด] x 100%
ส่วน “หุ้นที่ไม่เป็น Free Float” มาจากผู้ถือหุ้นเชิงกลยุทธ์ เช่น:
- ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่ถือสัดส่วนมากและมีบทบาทในการตัดสินใจบริหาร
- ผู้บริหารและคณะกรรมการบริษัท
- บริษัทในกลุ่มหรือบริษัทที่เชื่อมโยงกัน
- หุ้นที่จำกัดการโอน เช่น ในช่วงห้ามขาย
- หุ้นที่รัฐบาลหรือหน่วยงานรัฐถือครอง
- หุ้นที่บริษัทถือไว้เอง
ตัวอย่างการคำนวณ Free Float หุ้นไทย:
รายการ | จำนวนหุ้น (หน่วย) |
---|---|
จำนวนหุ้นจดทะเบียนทั้งหมด | 1,000,000,000 |
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ (10 อันดับแรก) | 600,000,000 |
หุ้นที่ถือโดยบริษัทในเครือ | 100,000,000 |
รวมหุ้นที่ไม่เป็น Free Float | 700,000,000 |
Free Float (หุ้นที่หมุนเวียนในตลาด) | 300,000,000 |
จากตัวอย่างนี้ Free Float จะเท่ากับ (300,000,000 / 1,000,000,000) x 100% = 30%
ทำไมบางส่วนของหุ้นถึงไม่นับเป็น Free Float?
หุ้นที่ไม่นับรวมส่วนใหญ่มาจากผู้ถือที่ไม่ได้ตั้งใจซื้อขายบ่อยๆ พวกเขาถือเพื่อควบคุมบริษัท ลงทุนยาว หรือเหตุผลทางธุรกิจอื่น ซึ่งไม่ช่วยสร้างอุปสงค์หรืออุปทานในตลาด SET ทุกวัน
การตัดส่วนนี้ออกทำให้ Free Float แสดงปริมาณหุ้นจริงที่นักลงทุนทั่วไปเข้าถึงได้ ช่วยให้ประเมินสภาพคล่องและการเคลื่อนไหวของราคาได้แม่นยำกว่าเดิม โดยเฉพาะในตลาดที่ต้องการความโปร่งใส
ผลกระทบของ Free Float ต่อตลาดและนักลงทุน
Free Float สูง/ต่ำ มีผลต่อสภาพคล่องและราคาอย่างไร?
Free Float ส่งผลโดยตรงต่อสภาพคล่องและความแกว่งตัวของราคาหุ้นในตลาด
- Free Float สูง:
- สภาพคล่องดี: หุ้นเยอะในตลาด ทำให้เข้า-ออกตำแหน่งได้คล่องตัว
- ราคาแกว่งน้อย: ยากที่จะ操控ราคาด้วยปริมาณซื้อขายน้อย
- สะท้อนตลาดจริง: ราคาตอบสนองมูลค่าพื้นฐานและปัจจัยภายนอกได้ดี
- Free Float ต่ำ:
- สภาพคล่องต่ำ: หุ้นน้อย ทำให้ซื้อขายลำบาก อาจหาคู่ค้าไม่ได้ทันที
- ราคาแกว่งรุนแรง: แค่ซื้อขายเล็กน้อยก็กระทบราคาได้มาก
- เสี่ยงถูก操控: ผู้ถือใหญ่หรือกลุ่มทุนสามารถกำหนดทิศทางราคาได้ง่าย
- เสี่ยงถูกขึ้น C หรือเพิกถอน: ถ้าต่ำกว่าเกณฑ์ SET อาจถูกเตือนด้วยเครื่องหมาย C หรือเสี่ยงถูก delist
ดังนั้น นักลงทุนควรดู Free Float เพื่อหลีกเลี่ยงหุ้นที่เสี่ยงจากสภาพคล่องต่ำและราคาที่ไม่แน่นอน โดยเฉพาะในตลาดไทยที่เน้นความสมดุล
บทบาทของ Free Float ในการประเมินบริษัทจดทะเบียน
Free Float ไม่ใช่แค่เรื่องสภาพคล่อง แต่ยังบอกถึงธรรมาภิบาลและความโปร่งใสของบริษัทด้วย บริษัทที่มี Free Float มากมักมีผู้ถือหุ้นรายย่อยกระจายตัว ซึ่งช่วยให้เกิดการตรวจสอบและถ่วงดุลการบริหารได้ดี
ส่วนบริษัทที่ Free Float น้อย อาจหมายถึงอำนาจรวมศูนย์ในมือไม่กี่คน ซึ่งอาจกระทบผลประโยชน์ของผู้ถือรายเล็ก ดังนั้น การดู Free Float จึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการประเมินคุณภาพบริษัทและการกำกับดูแลกิจการ โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาร่วมกับปัจจัยอื่นๆ
เกณฑ์ Free Float ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)
SET กำหนดเกณฑ์ต่ำสุดสำหรับ Free Float เพื่อรับประกันสภาพคล่องและความโปร่งใส โดยทั่วไป บริษัทต้องมี Free Float อย่างน้อย 15% ของทุนจดทะเบียน และผู้ถือหุ้นรายย่อย (ถือไม่เกิน 0.5% ต่อคน) อย่างน้อย 150 ราย
สำหรับบริษัทใหญ่ที่มีมูลค่าตลาดสูง เกณฑ์อาจเข้มงวดกว่า เพื่อให้สอดคล้องกับขนาดและปริมาณหุ้นที่ไหลเวียน ถ้าบริษัทไม่ผ่านเกณฑ์ อาจถูกขึ้นเครื่องหมาย C เพื่อเตือนนักลงทุนเรื่องสภาพคล่อง หรือในกรณีรุนแรง อาจถูกเพิกถอน การรักษา Free Float จึงช่วยสร้างความเชื่อมั่น สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มได้ที่ เว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
Free Float กับกลยุทธ์การลงทุน: สิ่งที่นักลงทุนไทยควรรู้
ใช้ Free Float เป็นเครื่องมือในการเลือกหุ้นอย่างไร?
Free Float เป็นเครื่องมือที่ช่วยตัดสินใจลงทุนได้ดี โดยนักลงทุนสามารถนำไปใช้ดังนี้
- สำหรับผู้เน้นความมั่นคง: เลือกหุ้น Free Float สูง เพราะซื้อขายง่าย ราคาไม่แกว่งมาก เหมาะกับคนที่ต้องการความคล่องตัวในการปรับพอร์ต
- สำหรับผู้รับความเสี่ยงสูง: หุ้น Free Float ต่ำอาจให้โอกาสกำไรเร็วถ้าคาดการณ์ถูก แต่เสี่ยงมาก ต้องศึกษาลึกและจำกัดสัดส่วนลงทุน
อย่างไรก็ตาม อย่าดู Free Float อย่างเดียว ควรรวมกับตัวชี้วัดอื่น เช่น PE Ratio, Dividend Yield, พื้นฐานบริษัท และแนวโน้มอุตสาหกรรม เพื่อให้การเลือกหุ้นครบถ้วนและมีประสิทธิภาพ
กรณีศึกษา: Free Float กับหุ้นไทยยอดนิยม (เช่น การบินไทย)
ตัวอย่างชัดเจนคือหุ้นการบินไทย (THAI) ในช่วงฟื้นฟูกิจการและปรับโครงสร้างหนี้ รัฐบาลเข้ามาถือหุ้นมากขึ้น ส่งผลให้ Free Float ลดฮวบ
ผลกระทบคือสภาพคล่องหดตัว การซื้อขายลำบาก ราคาแกว่งตัวรุนแรงเพราะหุ้นหมุนเวียนน้อย แม้ซื้อขายไม่มากก็กระทบราคาได้ นักลงทุนรายย่อยที่ไม่ติดตามอาจพลาดโอกาสหรือขาดทุนหนัก
ในฟอรัมอย่าง Pantip มักมีกระทู้ถกเถียงเรื่อง “หุ้น Free Float ต่ำ” สะท้อนว่านักลงทุนไทยตระหนักถึงประเด็นนี้ และมักขอคำแนะนำในการจัดการความเสี่ยงจากหุ้นแบบนี้
แหล่งข้อมูลและวิธีตรวจสอบ Free Float ของหุ้นไทย
การหาข้อมูล Free Float สำหรับหุ้นไทยทำได้ง่ายจากแหล่งน่าเชื่อถือหลายแห่ง
- เว็บไซต์ SET: แหล่งหลักที่อัปเดตสม่ำเสมอ เข้าได้ที่ หน้าข้อมูล Free Float เพื่อดูรายบริษัท
- แอปโบรกเกอร์: เช่น Bualuang iTrading, Finansia Hero หรือ Liberator ที่แสดงข้อมูลหุ้นพร้อม Free Float ในแพลตฟอร์มใช้งาน
- เว็บข่าวการเงิน: หลายแห่งนำเสนอ Free Float ร่วมกับข้อมูลทางการเงินอื่นๆ
การเช็คข้อมูลบ่อยๆ ช่วยให้นักลงทุนอัปเดตการเปลี่ยนแปลงที่อาจกระทบสภาพคล่องและความเสี่ยงของหุ้นที่สนใจ
สรุป: Free Float กุญแจสำคัญสู่การลงทุนอย่างชาญฉลาด
Free Float หรือหุ้นที่หมุนเวียนในตลาด ไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่เป็นปัจจัยหลักที่นักลงทุนไทยต้องเข้าใจให้ลึก มันบอกถึงสภาพคล่อง ความแกว่งของราคา และธรรมาภิบาลบริษัท การรู้จักนิยาม การคำนวณ และผลกระทบ จะช่วยประเมินความเสี่ยงโอกาสได้อย่างมีเหตุผล
นำ Free Float มาใช้ในกลยุทธ์ เช่น เลือกหุ้นสูงสำหรับความมั่นคง หรือเข้าใจเสี่ยงจากหุ้นต่ำ จะช่วยตัดสินใจลงทุนดีขึ้น ลดความเสี่ยงไม่จำเป็น แต่จำไว้ว่า มันเป็นแค่ส่วนหนึ่ง ควรวิเคราะห์รวมพื้นฐาน เทคนิค และตลาด เพื่อความสำเร็จยั่งยืน
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Free Float (FAQ)
1. Free Float คืออะไร และทำไมถึงสำคัญสำหรับนักลงทุนไทย?
Free Float คือส่วนของหุ้นทั้งหมดที่บริษัทจดทะเบียนให้ซื้อขายอิสระในตลาด โดยไม่รวมส่วนที่ผู้ถือใหญ่หรือกลุ่มกลยุทธ์ถือไว้ มันสำคัญเพราะบอกสภาพคล่อง ถ้า Free Float มาก หุ้นซื้อขายง่าย ราคาไม่แกว่งรุนแรง ซึ่งช่วยนักลงทุนไทยวางแผนได้ดี
2. Free Float เยอะดีไหม? สัดส่วนที่เหมาะสมควรเป็นเท่าไหร่?
Free Float สูงมักดีกว่า เพราะเพิ่มสภาพคล่องและความง่ายในการซื้อขาย
- SET กำหนดขั้นต่ำ 15%
- สำหรับนักลงทุน 25-50% ขึ้นไปให้ความมั่นใจเรื่องสภาพคล่อง
- แต่สัดส่วนเหมาะสมขึ้นกับกลยุทธ์และความเสี่ยงที่ยอมรับ
3. เราจะตรวจสอบ Free Float ของหุ้นไทยได้จากที่ไหนบ้าง?
ตรวจสอบได้จาก:
- เว็บไซต์ SET ที่ www.set.or.th
- แอปหรือเว็บโบรกเกอร์ เช่น Bualuang iTrading, Finansia Hero
- เว็บข่าวและข้อมูลการเงินที่น่าเชื่อถือ
4. หุ้นที่มี Free Float ต่ำมีความเสี่ยงอย่างไร และนักลงทุนควรรับมืออย่างไร?
เสี่ยงหลักคือ:
- สภาพคล่องต่ำ: ซื้อขายยาก หาคู่ค้าไม่ได้
- ราคาแกว่งสูง: เปลี่ยนแปลงรุนแรงจากปริมาณน้อย
- เสี่ยงถูก操控: ผู้ถือใหญ่ควบคุมง่าย
รับมือโดยศึกษาข้อมูลละเอียด ดูปัจจัยอื่นๆ และจำกัดสัดส่วนลงทุนตามความเสี่ยงที่รับไหว
5. Free Float มีผลต่อสภาพคล่องของหุ้นอย่างไร?
Free Float เชื่อมโยงตรงกับสภาพคล่อง:
- สูง: หุ้นหมุนเวียนมาก ซื้อขายเร็ว สภาพคล่องดี
- ต่ำ: หุ้นน้อย การซื้อขายช้า สภาพคล่องแย่
6. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) มีเกณฑ์ Free Float สำหรับบริษัทจดทะเบียนอย่างไร?
SET กำหนด Free Float อย่างน้อย 15% ของทุนจดทะเบียน และผู้ถือรายย่อย 150 รายขึ้นไป (ถือไม่เกิน 0.5%) ถ้าไม่ผ่าน อาจขึ้น C หรือเสี่ยง delist ดูเพิ่มที่ SET Education
7. การคำนวณ Free Float แตกต่างจากจำนวนหุ้นทั้งหมดอย่างไร?
จำนวนหุ้นทั้งหมดคือหุ้นที่ออกและจดทะเบียนทั้งหมด แต่ Free Float เป็นส่วนที่ซื้อขายอิสระ โดยหักหุ้นใหญ่ ผู้บริหาร หรือส่วนกลยุทธ์ออก
8. มีหุ้นไทยตัวอย่างใดบ้างที่มี Free Float สูง/ต่ำ และมีผลต่อราคาอย่างไร?
Free Float ต่ำ: เช่น THAI ที่รัฐถือมาก ส่งผลราคาแกว่งสูง สภาพคล่องต่ำ
Free Float สูง: หุ้นใหญ่ใน SET50/SET100 เช่น ธนาคารหรือพลังงาน มีสภาพคล่องดี ราคาเสถียร
9. Free Float สามารถเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่ และปัจจัยใดบ้างที่ทำให้เปลี่ยน?
เปลี่ยนได้ ปัจจัยเช่น:
- เพิ่มหรือลดทุน
- ผู้ถือใหญ่ซื้อขายใหญ่
- หุ้นห้ามขายหมดอายุ
- บริษัทซื้อหุ้นคืน
การเปลี่ยนจะกระทบสภาพคล่องและราคา
10. Free Float ต่ำ กับ “หุ้นขึ้น CF” มีความหมายเดียวกันหรือไม่?
ไม่ตรงกันแต่เกี่ยวข้อง
- Free Float ต่ำ: หุ้นหมุนเวียนน้อย
- หุ้นขึ้น CF: ขึ้นเครื่องหมาย C จากปัญหาการเงินหรือเกณฑ์ไม่ผ่าน ซึ่ง Free Float ต่ำอาจเป็นสาเหตุหนึ่ง แต่ CF ไม่ใช่แค่เรื่องนี้