DRx คืออะไร? ทำความเข้าใจใบแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ
DRx หรือที่รู้จักในชื่อ Depositary Receipt for Foreign Securities คือเครื่องมือทางการเงินรูปแบบหนึ่งที่เป็นใบรับฝากหลักทรัพย์จากต่างประเทศ โดยออกโดยบริษัทหลักทรัพย์ในไทย เพื่อให้นักลงทุนชาวไทยมีโอกาสเข้าถึงหุ้นหรือกองทุนรวมแลกเปลี่ยน (ETF) จากบริษัทชั้นนำทั่วโลกได้อย่างง่ายดาย ผ่านการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยใช้สกุลเงินบาทเป็นหลัก การถือครอง DRx นี้เท่ากับว่าคุณมีสิทธิ์ในหลักทรัพย์ต่างประเทศโดยตรง แต่ไม่ต้องเผชิญกับความยุ่งยาก เช่น การสมัครบัญชีซื้อขายในต่างแดน การแปลงสกุลเงิน หรือการจัดการภาษีที่ซับซ้อนเหล่านั้น

本质แล้ว ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ได้พัฒนากลไกนี้ขึ้นมาเพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนรายบุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงสินทรัพย์ระดับโลกได้โดยไม่ต้องเผชิญอุปสรรคมากนัก โดยมีผู้รับฝากหลักทรัพย์ทำหน้าที่ถือครองสินทรัพย์จริงจากต่างประเทศ และออกใบรับฝาก DRx ให้กับนักลงทุนในไทย ซึ่งช่วยเชื่อมโยงตลาดทุนของเรากับเศรษฐกิจโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดูได้ที่ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)
DRx กับ DR ต่างกันอย่างไร?
ถึงแม้ว่าชื่อจะคล้ายคลึงกัน แต่ DRx และ DR (Depositary Receipt) ก็มีความแตกต่างที่ควรรู้เพื่อการตัดสินใจลงทุนที่ถูกต้อง
- DR (Depositary Receipt): มักเป็นใบรับฝากหลักทรัพย์ต่างประเทศที่ออกโดยบริษัทในไทย เพื่อให้นักลงทุนเข้าถึงหุ้นจากบริษัทเดี่ยวๆ โดยยึดตามกฎเกณฑ์การซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์
- DRx (Depositary Receipt for Foreign Securities): ถือเป็นเวอร์ชันที่พัฒนาขึ้นจาก DR โดยเน้นความยืดหยุ่นและความสะดวกในการเข้าถึงมากกว่า สามารถครอบคลุมสินทรัพย์หลากหลายประเภท เช่น หุ้นเดี่ยว ETF หรือหน่วยลงทุนอื่นๆ และจุดเด่นคือการซื้อขายแบบแบ่งส่วน (Fractional Share) ซึ่งช่วยให้เริ่มต้นด้วยเงินทุนน้อย และทำธุรกรรมแบบเรียลไทม์ได้ดีขึ้น เพื่อให้นักลงทุนไทยเข้าถึงหุ้นหรือ ETF ทั่วโลกผ่านโบรกเกอร์ในประเทศอย่างราบรื่น
โดยรวมแล้ว DRx คือรูปแบบหนึ่งของ DR ที่ออกแบบมาเพื่อการลงทุนหุ้นต่างประเทศโดยเฉพาะ ด้วยคุณสมบัติที่เพิ่มความคล่องตัวในการเข้าถึงและซื้อขายมากยิ่งขึ้น

ทำไมต้องลงทุนใน DRx? ข้อดีและประโยชน์ที่ควรรู้
การเลือกลงทุนใน DRx กำลังกลายเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับนักลงทุนไทย ด้วยเหตุผลหลักๆ ที่ช่วยลดอุปสรรคและเพิ่มโอกาส ไม่ว่าจะเป็นความสะดวกในการทำธุรกรรม ค่าใช้จ่ายที่ประหยัดกว่า หรือการกระจายพอร์ตที่ทำได้ง่ายดาย นี่คือประโยชน์สำคัญที่ทำให้ DRx น่าเหลือบมอง
- ใช้เงินบาทลงทุนโดยตรง ไม่ต้องกังวลเรื่องแปลงสกุล: คุณสามารถซื้อขาย DRx ด้วยเงินบาทได้ทันที โดยไม่ต้องจัดการกับการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศหรือความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างวัน
- เข้าถึงบริษัทชั้นนำระดับโลกได้สะดวก: DRx เปิดประตูสู่หุ้นจากยักษ์ใหญ่ เช่น Apple, Tesla, Alibaba หรือแม้แต่ ETF ที่โฟกัสอุตสาหกรรมหรือภูมิภาคต่างๆ โดยทำได้จากตลาดหุ้นไทยโดยไม่ต้องออกนอกประเทศ
- ลดต้นทุนลงทุนให้ต่ำลง: เมื่อเทียบกับการสมัครบัญชีตรงกับโบรกเกอร์ต่างประเทศที่มักมีค่าธรรมเนียมสูงและขั้นตอนยุ่งยาก การใช้ DRx ผ่านโบรกเกอร์ไทยช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและจัดการได้ง่ายกว่า
- ช่วยกระจายความเสี่ยงในพอร์ตได้ดี: ถ้าลงทุนแต่ในหุ้นไทยอย่างเดียว อาจเสี่ยงจากเศรษฐกิจในประเทศมากเกินไป DRx ช่วยให้คุณกระจายไปยังตลาดต่างประเทศที่มีศักยภาพเติบโตสูง เพิ่มความมั่นคงให้พอร์ตโดยรวม
- ซื้อขายแบบแบ่งส่วนได้ (Fractional Share): บาง DRx อนุญาตให้ซื้อหุ้นย่อยๆ ทำให้ไม่ต้องลงทุนเต็มจำนวน เหมาะสำหรับหุ้นราคาแพง และเริ่มต้นด้วยเงินน้อยๆ ได้
- ทำธุรกรรมผ่านโบรกเกอร์ไทยที่รู้จักดี: ใช้บัญชีเดิมที่เปิดกับโบรกเกอร์ในไทย ทำให้กระบวนการทั้งหมดคุ้นเคยและไหลลื่น ไม่ต้องปรับตัวมาก

เปิดลิสต์ DRx มีตัวไหนบ้างในตลาดหุ้นไทย (อัปเดตล่าสุด 2567)
ในปัจจุบัน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ต่างๆ ได้นำเสนอ DRx หลากหลายตัว เพื่อขยายโอกาสให้ผู้ลงทุนไทยเข้าถึงสินทรัพย์ต่างแดนมากขึ้น ณ ปี 2567 มี DRx ตัวเด่นที่น่าจับตามองหลายตัว ซึ่งได้รับความนิยมในตลาดหุ้นไทย เรารวบรวมรายชื่อจากแหล่งข้อมูลหลักของตลาดและผู้ให้บริการ เพื่อให้คุณได้รับภาพรวมที่ชัดเจนและอัปเดต อย่างไรก็ตาม สถานการณ์อาจเปลี่ยนแปลงได้ แนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เช่น SETTRADE หรือเว็บไซต์โบรกเกอร์ที่คุณใช้งาน
รหัส DRx | ชื่อ DRx (หลักทรัพย์อ้างอิง) | ตลาดหลักทรัพย์อ้างอิง | ผู้ออก DRx (โบรกเกอร์) | ประเภท/อุตสาหกรรม |
---|---|---|---|---|
AAPL01 | Apple Inc. | NASDAQ (สหรัฐฯ) | หลักทรัพย์บัวหลวง | เทคโนโลยี |
TSLA01 | Tesla Inc. | NASDAQ (สหรัฐฯ) | หลักทรัพย์บัวหลวง | ยานยนต์ไฟฟ้า |
BABA01 | Alibaba Group Holding Ltd. | NYSE (สหรัฐฯ) | หลักทรัพย์บัวหลวง | อีคอมเมิร์ซ |
NVDA01 | NVIDIA Corp. | NASDAQ (สหรัฐฯ) | หลักทรัพย์บัวหลวง | เซมิคอนดักเตอร์ |
GOOGL01 | Alphabet Inc. (Google) | NASDAQ (สหรัฐฯ) | หลักทรัพย์บัวหลวง | เทคโนโลยี |
SAMSUNG01 | Samsung Electronics Co., Ltd. | KSE (เกาหลีใต้) | หลักทรัพย์กรุงไทย | เทคโนโลยี, อิเล็กทรอนิกส์ |
TENCENT01 | Tencent Holdings Ltd. | HKEX (ฮ่องกง) | หลักทรัพย์กรุงไทย | เทคโนโลยี, อินเทอร์เน็ต |
BYDCOM01 | BYD Company Ltd. | HKEX (ฮ่องกง) | หลักทรัพย์กรุงไทย | ยานยนต์ไฟฟ้า, แบตเตอรี่ |
XIAOMI01 | Xiaomi Corporation | HKEX (ฮ่องกง) | หลักทรัพย์ทิสโก้ | เทคโนโลยี, สมาร์ทโฟน |
MEITUAN01 | Meituan | HKEX (ฮ่องกง) | หลักทรัพย์ทิสโก้ | เทคโนโลยี, บริการส่งอาหาร |
JDCOM01 | JD.com Inc. | HKEX (ฮ่องกง) | หลักทรัพย์ทรีนิตี้ | อีคอมเมิร์ซ |
STARBUCKS01 | Starbucks Corp. | NASDAQ (สหรัฐฯ) | หลักทรัพย์ทรีนิตี้ | ร้านอาหารและเครื่องดื่ม |
ข้อมูลอัปเดต ณ ไตรมาส 2 ปี 2567 โปรดตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากผู้ให้บริการหลักทรัพย์
DRx ยอดนิยมและแนวโน้มในอนาคต
จากรายชื่อที่ปรากฏ DRx ที่อ้างอิงกับหุ้นเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกา เช่น Apple (AAPL01), Tesla (TSLA01) และ NVIDIA (NVDA01) มักติดอันดับยอดนิยมในหมู่นักลงทุนไทย เพราะเป็นบริษัทที่มีการขยายตัวรวดเร็วและชื่อเสียงระดับโลก นอกจากนี้ DRx ที่เชื่อมโยงกับหุ้นเทคโนโลยีจากจีนและเกาหลีใต้ เช่น Alibaba (BABA01), Tencent (TENCENT01) และ Samsung (SAMSUNG01) ก็ดึงดูดความสนใจได้ไม่น้อยหน้า
มองไปข้างหน้า ตลาด DRx คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง อาจเห็น DRx ใหม่ๆ ที่อ้างอิงสินทรัพย์จากยุโรป ญี่ปุ่น หรือ ETF ที่เน้นธีมเฉพาะ เช่น พลังงานหมุนเวียนหรือปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งจะช่วยให้นักลงทุนมีตัวเลือกในการกระจายความเสี่ยงและสร้างผลตอบแทนที่หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่เมกะเทรนด์ระดับโลกกำลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
เริ่มต้นลงทุน DRx อย่างไร? ขั้นตอนและสิ่งที่ต้องเตรียม
การก้าวเข้าสู่การลงทุน DRx ไม่ใช่เรื่องยากเกินเอื้อม เพราะขั้นตอนส่วนใหญ่คล้ายกับการซื้อขายหุ้นในตลาดไทยทั่วไป เพียงเตรียมตัวให้พร้อมตามนี้ ก็เริ่มได้แล้ว
- สมัครบัญชีหลักทรัพย์กับโบรกเกอร์ที่รองรับ DRx: ก้าวแรกคือเปิดบัญชีกับบริษัทหลักทรัพย์ในไทยที่ให้บริการ DRx เช่น หลักทรัพย์บัวหลวง, หลักทรัพย์กรุงไทย, หลักทรัพย์ทิสโก้, หลักทรัพย์ทรีนิตี้ หรือผู้ให้บริการอื่นๆ สามารถทำได้ออนไลน์หรือไปที่สาขาโดยตรง
- สำรวจข้อมูล DRx ที่น่าสนใจ: ก่อนลงมือ ควรศึกษาลึกๆ เกี่ยวกับ DRx ที่คุณเล็งไว้ รวมถึงสินทรัพย์อ้างอิง ผลงานย้อนหลัง ความเสี่ยง และรายละเอียดจากผู้ออก เช่น จาก โบรกเกอร์หลักทรัพย์บัวหลวง
- โอนเงินเข้าบัญชี: เมื่อบัญชีพร้อมแล้ว ให้ฝากเงินเข้าเพื่อใช้ซื้อขาย DRx
- ส่งคำสั่งซื้อหรือขาย: ใช้แพลตฟอร์มของโบรกเกอร์ ไม่ว่าจะเป็นแอปมือถือหรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ระบุรหัส DRx จำนวน (รวมถึงหน่วยย่อย) และราคาที่ต้องการ
- ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง: หลังซื้อแล้ว ควรเช็คผลงานของสินทรัพย์อ้างอิงและแนวโน้มตลาดเป็นประจำ เพื่อปรับพอร์ตให้เหมาะสม
ช่วงเวลาซื้อขาย DRx: ทำได้ในเวลาทำการเดียวกับหุ้นไทย คือช่วงเช้า (ราว 10:00 – 12:30 น.) และบ่าย (ราว 14:30 – 16:30 น.) แต่ราคา DRx มักเคลื่อนไหวตามสินทรัพย์อ้างอิงในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะเมื่อตลาดนั้นเปิดทำการ ซึ่งอาจทำให้เกิดความแตกต่างชั่วคราวในบางช่วง
เลือกโบรกเกอร์ DRx เจ้าไหนดี?
การหาโบรกเกอร์ที่ใช่เป็นกุญแจสำคัญในการลงทุน DRx พิจารณาจากปัจจัยเหล่านี้เพื่อให้เหมาะกับสไตล์ของคุณ
- ค่าธรรมเนียม: เปรียบเทียบอัตราค่าซื้อขาย DRx ของแต่ละเจ้า เพราะอาจต่างกัน
- แพลตฟอร์มใช้งาน: เลือกที่ใช้งานสะดวก มั่นคง และมีข้อมูลครบครัน
- ข้อมูลวิเคราะห์: โบรกเกอร์ที่ให้บทวิเคราะห์ เครื่องมือช่วยตัดสินใจเกี่ยวกับ DRx และสินทรัพย์อ้างอิง จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ดีขึ้น
- การบริการลูกค้า: มีทีมสนับสนุนที่ให้คำปรึกษาและแก้ปัญหาได้รวดเร็ว เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้
ผู้ให้บริการชั้นนำในไทยสำหรับ DRx รวมถึงหลักทรัพย์บัวหลวง, หลักทรัพย์กรุงไทย, หลักทรัพย์ทิสโก้, หลักทรัพย์ทรีนิตี้ และอื่นๆ ลองติดต่อโดยตรงเพื่อสอบถามรายละเอียดที่ตรงใจ
ข้อควรระวังและความเสี่ยงในการลงทุน DRx ที่นักลงทุนไทยต้องรู้
ถึง DRx จะมีจุดเด่นมากมาย แต่ก็มีด้านที่ต้องระมัดระวังไม่แพ้กัน เพื่อให้การลงทุนของคุณปลอดภัยและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นี่คือความเสี่ยงหลักที่ควรทำความเข้าใจ
- ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน: แม้ซื้อขายด้วยบาท แต่ราคา DRx ผูกติดกับสกุลเงินต่างประเทศ ถ้าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเทียบกับดอลลาร์หรือเงินอื่นๆ มูลค่า DRx อาจลดลงเมื่อคำนวณเป็นบาท แม้สินทรัพย์อ้างอิงไม่เปลี่ยน
- ความเสี่ยงสภาพคล่อง: บาง DRx อาจมีปริมาณซื้อขายไม่มาก ส่งผลให้หายากที่จะขายในราคาที่ต้องการ หรือส่วนต่างราคาซื้อ-ขาย (Bid-Offer Spread) กว้างเกินไป
- ความเสี่ยงจากสินทรัพย์อ้างอิง: มูลค่า DRx ขึ้นลงตามผลงานของหลักทรัพย์ต่างประเทศ ถ้าหุ้นอ้างอิงตก DRx ก็ตามไปด้วย ดังนั้นต้องวิเคราะห์พื้นฐานและแนวโน้มให้ละเอียด
- ความเสี่ยงจากผู้ออก DRx: แม้มีผู้รับฝากคุ้มครอง แต่ถ้าบริษัทหลักทรัพย์ผู้ออกมีปัญหา (ซึ่งเกิดยาก) ก็อาจกระทบได้
- ความเสี่ยงภาษี: สำหรับคนไทย ต้องเช็คภาษีกำไรจากการขายและเงินปันผลจากต่างประเทศ ซึ่งอาจถูกหักภาษีที่ต้นทาง และนำมารวมคำนวณในไทย แนะนำปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาด
- ความเสี่ยงจากเวลาทำการ: ตลาดต่างประเทศเปิดต่างเวลากับไทย ทำให้ราคา DRx ในไทยอาจไม่ตรงกับราคาจริงแบบเรียลไทม์เมื่อตลาดต่างปิด
DRx เปรียบเทียบกับการลงทุนต่างประเทศรูปแบบอื่น (เจาะลึกภาษีและค่าธรรมเนียม)
นอกจาก DRx แล้ว ยังมีทางเลือกอื่นในการลงทุนต่างประเทศ การเปรียบเทียบจะช่วยให้คุณเห็นภาพชัด โดยเฉพาะเรื่องภาษีและค่าธรรมเนียมที่แตกต่าง
คุณสมบัติ | DRx | ซื้อหุ้นต่างประเทศโดยตรง (ผ่านโบรกเกอร์ต่างประเทศ) | ลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศ (Feeder Fund) |
---|---|---|---|
สกุลเงินที่ใช้ลงทุน | เงินบาท | สกุลเงินต่างประเทศ (ต้องแลกเปลี่ยน) | เงินบาท |
ความสะดวกในการเข้าถึง | สูง (ผ่านโบรกเกอร์ไทย) | ปานกลางถึงต่ำ (ต้องเปิดบัญชีต่างประเทศ) | สูง (ผ่าน บลจ. ไทย) |
ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย | ค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์ไทย (ต่ำ) | ค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์ต่างประเทศ (หลากหลาย) | ค่าธรรมเนียมการจัดการ, ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย (ปานกลางถึงสูง) |
ภาษีกำไรจากการขาย | สำหรับนักลงทุนไทย กำไรจากการขาย DRx อาจต้องนำไปคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเมื่อนำเงินกลับไทยในปีภาษีเดียวกัน | กำไรจากการขาย อาจมีภาษีในต่างประเทศ และต้องนำมาคำนวณภาษีในไทยเมื่อนำเงินกลับ | กำไรจากการขายหน่วยลงทุน (Capital Gain) ส่วนใหญ่ได้รับการยกเว้นภาษีหากเป็นบุคคลธรรมดา |
ภาษีเงินปันผล | เงินปันผลจาก DRx อาจมีการหักภาษี ณ ที่จ่ายในต่างประเทศ และอาจต้องนำมาคำนวณภาษีในไทย | มีการหักภาษี ณ ที่จ่ายในต่างประเทศ และอาจต้องนำมาคำนวณภาษีในไทย | อาจมีการหักภาษี ณ ที่จ่ายในต่างประเทศ แต่โดยรวมแล้วภาษีปันผลจากกองทุนรวมไทยมักจะถูกหัก ณ ที่จ่าย และไม่ต้องนำไปรวมกับรายได้อื่น |
ความซับซ้อนด้านภาษี | ปานกลาง (ต้องทำความเข้าใจการนำรายได้กลับไทย) | สูง (ต้องทำความเข้าใจภาษีของทั้งสองประเทศ) | ต่ำ (บลจ. จัดการให้ส่วนใหญ่) |
เงินลงทุนเริ่มต้น | ต่ำ (ซื้อเป็นหน่วยย่อยได้) | ปานกลางถึงสูง | ต่ำ (ขึ้นอยู่กับกองทุน) |
หมายเหตุ: เรื่องภาษีเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีเพื่อข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน
สรุป: DRx ทางเลือกใหม่ของการลงทุนต่างประเทศที่น่าสนใจ
DRx คือเครื่องมือทางการเงินที่ปฏิวัติวงการ โดยช่วยให้นักลงทุนไทยเปิดประตูสู่หลักทรัพย์ต่างประเทศได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ด้วยการใช้เงินบาทลงทุนโดยตรง ต้นทุนที่เข้าถึงง่าย และโอกาสกระจายความเสี่ยง ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าลองสำหรับทั้งมือใหม่และนักลงทุนเก่าแก่ที่อยากขยายพอร์ตสู่เวทีโลก
แต่จำไว้ว่าการลงทุนใดๆ ก็มีความเสี่ยงเสมอ ควรศึกษาข้อมูล DRx ที่สนใจให้ถี่ถ้วน เข้าใจความเสี่ยงทั้งจากอัตราแลกเปลี่ยนและผลงานสินทรัพย์อ้างอิง รวมถึงเช็คภาษีและค่าธรรมเนียมอย่างละเอียด การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และโบรกเกอร์จัดให้ จะช่วยให้คุณตัดสินใจอย่างชาญฉลาดและเข้าใกล้เป้าหมายทางการเงินมากขึ้น
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ DRx (FAQ)
DRx คืออะไร และต่างจาก DR ปกติอย่างไร?
DRx หรือ Depositary Receipt for Foreign Securities คือใบรับฝากหลักทรัพย์ต่างประเทศที่ออกโดยโบรกเกอร์ไทย ช่วยให้นักลงทุนไทยเข้าถึงหุ้นหรือ ETF จากต่างประเทศด้วยเงินบาทผ่านตลาดหุ้นไทยได้สะดวก เมื่อเทียบกับ DR ทั่วไป DRx เน้นความยืดหยุ่นมากกว่า โดยรองรับการซื้อขายแบบแบ่งส่วน (Fractional Share) และครอบคลุมสินทรัพย์หลากหลายประเภท
DRx มีตัวไหนบ้างที่ได้รับความนิยมในหมู่นักลงทุนไทย?
DRx ยอดฮิตมักอ้างอิงหุ้นเทคโนโลยีใหญ่จากสหรัฐ เช่น Apple (AAPL01), Tesla (TSLA01), NVIDIA (NVDA01) และ Alphabet (GOOGL01) ที่นักลงทุนไทยชื่นชอบเพราะเติบโตสูง นอกจากนี้ หุ้นจากจีนและเกาหลีใต้อย่าง Alibaba (BABA01), Tencent (TENCENT01) และ Samsung (SAMSUNG01) ก็ได้รับความสนใจไม่แพ้กัน
ต้องใช้เงินเท่าไหร่ในการเริ่มต้นลงทุน DRx?
เริ่มต้นลงทุน DRx ได้ด้วยเงินจำนวนไม่มาก เพราะบางตัวรองรับการซื้อแบบแบ่งส่วน (Fractional Share) ไม่ต้องซื้อหุ้นเต็มใบ ทำให้เข้าถึงหุ้นราคาแพงได้ง่าย เพียงเงินหลักร้อยหรือพันบาทก็พอสำหรับมือใหม่
การลงทุน DRx มีภาษีที่ต้องพิจารณาอะไรบ้างสำหรับนักลงทุนไทย?
สำหรับนักลงทุนไทย ต้องดูทั้งภาษีกำไรจากการขาย (Capital Gain) และภาษีเงินปันผล โดยปันผลอาจถูกหักภาษีที่ต่างประเทศ และกำไรหรือปันผลที่ได้อาจต้องนำมารวมในภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของไทย หากนำเงินกลับในปีเดียวกัน แนะนำปรึกษาผู้เชี่ยวชาญภาษีเพื่อความชัดเจน
ควรเลือกโบรกเกอร์ไหนดีสำหรับการซื้อขาย DRx ในประเทศไทย?
เลือกจากค่าธรรมเนียม แพลตฟอร์มที่เสถียร ข้อมูลวิเคราะห์ที่ให้ และบริการลูกค้าที่ดี โบรกเกอร์แนะนำ ได้แก่ หลักทรัพย์บัวหลวง, หลักทรัพย์กรุงไทย, หลักทรัพย์ทิสโก้ และหลักทรัพย์ทรีนิตี้
DRx สามารถซื้อขายได้ในช่วงเวลาใดบ้าง?
ซื้อขาย DRx ได้ในเวลาหุ้นไทย คือเช้า (ราว 10:00 – 12:30 น.) และบ่าย (ราว 14:30 – 16:30 น.) แต่ราคาจะเคลื่อนไหวตามสินทรัพย์อ้างอิงในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะช่วงที่ตลาดนั้นเปิด
หากต้องการลงทุน DRx ของ Krungthai (กรุงไทย) หรือ Bualuang (บัวหลวง) ต้องทำอย่างไร?
เปิดบัญชีกับหลักทรัพย์กรุงไทย (Krungthai Securities) หรือหลักทรัพย์บัวหลวง (Bualuang Securities) โดยตรง จากนั้นโอนเงินและสั่งซื้อขาย DRx ของโบรกเกอร์นั้นผ่านแพลตฟอร์มของพวกเขา
DRx มีความเสี่ยงอะไรบ้างที่นักลงทุนมือใหม่ควรรู้?
เสี่ยงหลัก ได้แก่ อัตราแลกเปลี่ยน (บาท vs สกุลเงินอื่น), สภาพคล่อง (บางตัวซื้อขายน้อย) และ สินทรัพย์อ้างอิง (ราคาขึ้นลงตามหุ้นต่างประเทศ) มือใหม่ควรศึกษาความเสี่ยงเหล่านี้ให้ดีก่อนเริ่ม
จะติดตามข้อมูล DRx ล่าสุดและประกาศจาก SET ได้จากช่องทางใด?
ติดตามได้จากเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ที่ www.set.or.th หรือ SETTRADE ที่ www.settrade.com รวมถึงเว็บโบรกเกอร์ผู้ออก DRx ที่คุณใช้
DRx เหมาะกับนักลงทุนประเภทใด?
DRx เหมาะกับคนที่อยากกระจายลงทุนต่างประเทศโดยไม่ยุ่งยากเปิดบัญชีต่างแดนหรือแปลงเงิน รับมือความผันผวนจากตลาดโลกและอัตราแลกเปลี่ยนได้