Lot คืออะไร: 5 สิ่งที่มือใหม่ Forex ต้องรู้เพื่อบริหารความเสี่ยงและทำกำไร

Table of Contents

บทนำ: ทำไม Lot Size จึงสำคัญต่อการเทรดของคุณ?

ในตลาดซื้อขาย Forex และ CFD ที่ราคาเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทุกการตัดสินใจล้วนมีน้ำหนัก แต่สิ่งหนึ่งที่มือใหม่มักมองข้ามคือขนาดล็อต หรือ Lot Size ซึ่งเป็นตัวกำหนดปริมาณการเทรดของคุณโดยตรง การรู้จัก Lot Size ไม่ใช่แค่จดจำตัวเลข แต่คือการมองเห็นผลกระทบต่อความเสี่ยงและผลตอบแทนจากทุกการเคลื่อนไหวของราคา ไม่ว่าจะเทรดคู่สกุลเงิน หุ้น ทองคำ หรือสินทรัพย์อื่นๆ การเลือกขนาดล็อตที่เหมาะสมช่วยให้คุณจัดการความเสี่ยงและทุนได้อย่างมีระบบ สร้างฐานที่มั่นคงสำหรับการเทรดระยะยาว

ภาพประกอบนักเทรดมือใหม่ชาวไทยกำลังศึกษากราฟ Forex กับแนวคิด Lot ขนาดใหญ่ลอยเหนือศีรษะ สื่อถึงการเข้าใจและจัดการความเสี่ยง

Lot คืออะไร? ความหมายและหน้าที่ในตลาด Forex

Lot: หน่วยมาตรฐานของการซื้อขายในตลาดการเงิน

ในวงการการเงิน โดยเฉพาะตลาด Forex คำว่า Lot หมายถึงหน่วยซื้อขายพื้นฐานที่ใช้วัดปริมาณการเทรดของสินทรัพย์ต่างๆ ลองนึกถึงการซื้อขายสินค้าทั่วไปที่ใช้วัดเป็นกิโลกรัมหรือชิ้น แต่ในตลาดการเงินอย่าง Forex หรือ CFD เราจะใช้ Lot เพื่อระบุว่าคุณต้องการซื้อหรือขายมากน้อยแค่ไหน การกำหนดแบบนี้ทำให้ทุกอย่างเป็นระบบและเข้าใจง่าย ไม่ว่านักเทรดจะมาจากไหน โบรกเกอร์และผู้เล่นในตลาดก็สามารถจัดการคำสั่งได้อย่างราบรื่น โดยเฉพาะเมื่อต้องรวมคำสั่งจำนวนมากเข้าด้วยกัน

ภาพประกอบตาชั่งที่แสดง Lot Size ด้านหนึ่งและความเสี่ยง กำไร ขาดทุน อีกด้านหนึ่ง สื่อถึงผลกระทบโดยตรงต่อผลลัพธ์การเทรด

ทำไมต้องมี Lot Size?

Lot Size มีบทบาทสำคัญในตลาด Forex และ CFD ด้วยเหตุผลหลายประการ ประการแรกคือช่วยให้การเทรดเป็นมาตรฐาน หากไม่มีมัน นักเทรดอาจต้องระบุปริมาณแบบยุ่งยาก เช่น ซื้อ 34,567 หน่วยของ EUR ซึ่งจะทำให้การจัดการและประมวลผลยากลำบาก ประการที่สองคือช่วยโบรกเกอร์รวบรวมคำสั่งจากนักเทรดรายย่อยเพื่อส่งต่อไปยังผู้ให้บริการสภาพคล่อง ซึ่งรักษาเสถียรภาพของตลาดให้คงที่ นอกจากนี้ Lot Size ยังเชื่อมโยงกับการคำนวณมาร์จิ้นและเลเวอเรจ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการเข้าถึงตลาดและควบคุมระดับความเสี่ยง โดยรวมแล้ว มันทำให้การเทรดมีประสิทธิภาพและปลอดภัยยิ่งขึ้น

ประเภทของ Lot Size: รู้จัก Standard, Mini และ Micro Lot

ตลาด Forex มีประเภท Lot Size หลักสามแบบที่นักเทรดทุกคนควรคุ้นเคย แต่ละแบบเหมาะกับระดับทุนและรูปแบบการเทรดที่ต่างกันไป ช่วยให้คุณเลือกได้ตรงกับสถานการณ์ของตัวเอง

ภาพประกอบอินเทอร์เฟซตลาดการเงินสไตล์กราฟิก พร้อมคู่สกุลเงินและตัวนับ Lot ชัดเจน สื่อถึงหน่วยการเทรดและการประมวลผลคำสั่งอย่างมีประสิทธิภาพ

Standard Lot (ล็อตมาตรฐาน): ปริมาณการซื้อขายหลัก

ล็อตมาตรฐาน หรือ Standard Lot คือขนาดใหญ่สุดใน Forex โดย 1 Standard Lot เท่ากับ 100,000 หน่วยของสกุลเงินหลัก เช่น ถ้าคุณเทรด 1 Standard Lot ในคู่ EUR/USD คุณกำลังจัดการกับยูโร 100,000 ยูโร นักเทรดที่มีทุนหนาและประสบการณ์มักเลือกแบบนี้ เพราะแม้ราคาจะขยับนิดเดียว กำไรหรือขาดทุนก็อาจมากมายได้ง่าย การใช้ขนาดนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มั่นใจในกลยุทธ์และต้องการผลตอบแทนสูง

Mini Lot (มินิ Lot): สำหรับนักเทรดทุนปานกลาง

มินิ Lot คือขนาดที่เล็กลงจากมาตรฐาน โดย 1 Mini Lot เท่ากับ 10,000 หน่วยของสกุลเงินหลัก หรือ 1 ใน 10 ของ Standard Lot มันเป็นทางเลือกดีสำหรับคนที่มีทุนไม่มากนัก หรืออยากลดความเสี่ยงลงจากขนาดใหญ่ การเทรดแบบนี้ช่วยให้คุณฝึกฝนทักษะและสังเกตตลาดโดยไม่ต้องทุ่มทุนเยอะ เปิดโอกาสให้เรียนรู้จากความผิดพลาดได้โดยไม่กระทบหนัก

Micro Lot (ไมโคร Lot): ทางเลือกยอดนิยมสำหรับมือใหม่

ไมโคร Lot เป็นขนาดเล็กสุดที่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะกับมือใหม่หรือคนทุนจำกัด 1 Micro Lot เท่ากับ 1,000 หน่วยของสกุลเงินหลัก ซึ่งเล็กลง 1 ใน 10 จาก Mini Lot และ 1 ใน 100 จาก Standard Lot มันช่วยให้นักเทรดเข้าตลาดด้วยความเสี่ยงต่ำสุด เหมาะสำหรับทดลองกลยุทธ์ใหม่ๆ และปรับตัวเข้ากับการแกว่งไกวของราคา โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเสียทุนหมดในพริบตา

Nano Lot: หน่วยย่อยที่สุด (หากมีให้บริการ)

ถึงแม้จะไม่แพร่หลายเท่าไมโคร แต่บางโบรกเกอร์ก็มี Nano Lot ซึ่งเล็กที่สุด โดย 1 Nano Lot เท่ากับ 100 หน่วยของสกุลเงินหลัก หรือ 1 ใน 10 ของ Micro Lot มันเหมาะกับคนที่อยากเทรดด้วยทุนน้อยจริงๆ หรือต้องการควบคุมความเสี่ยงแบบละเอียดสุดๆ อย่างไรก็ตาม การมีบริการนี้ขึ้นกับโบรกเกอร์แต่ละแห่ง ดังนั้นควรตรวจสอบก่อนเริ่ม

ตารางสรุปประเภทของ Lot Size:

ประเภท Lot ปริมาณหน่วยของสกุลเงินหลัก เหมาะสำหรับ
Standard Lot 100,000 หน่วย นักเทรดมีประสบการณ์, เงินทุนสูง
Mini Lot 10,000 หน่วย นักเทรดทุนปานกลาง, ลดความเสี่ยง
Micro Lot 1,000 หน่วย มือใหม่, เงินทุนจำกัด
Nano Lot 100 หน่วย ทดลองเทรดด้วยทุนน้อยมาก (บางโบรกเกอร์)

Lot Size กับการคำนวณจุด (Pip) และมูลค่า Pip (Pip Value)

ทำความเข้าใจ Pip: การเคลื่อนไหวของราคาที่เล็กที่สุด

ก่อนจะเจาะลึกเรื่องมูลค่าของ Pip เรามาทำความรู้จัก Pip กันก่อน Pip ย่อมาจาก Percentage in Point หรือ Price Interest Point ซึ่งคือหน่วยการเปลี่ยนแปลงราคาเล็กสุดในตลาด Forex สำหรับคู่สกุลเงินส่วนใหญ่ Pip อยู่ที่ตำแหน่งทศนิยมที่สี่ เช่น จาก 1.2345 เป็น 1.2346 แต่ถ้าคู่เงินมี JPY เป็นสกุลเงินอ้างอิง Pip จะอยู่ที่ทศนิยมที่สอง เช่น จาก 109.12 เป็น 109.13 การเข้าใจ Pip สำคัญมากเพราะกำไรหรือขาดทุนของคุณคำนวณจากจำนวน Pip ที่ราคาเคลื่อนไหวจริงๆ มันเป็นพื้นฐานที่ช่วยให้คุณวางแผนการเทรดได้แม่นยำ

สูตรการคำนวณมูลค่า Pip (Pip Value)

มูลค่า Pip คือจำนวนเงินที่คุณได้หรือเสียต่อการขยับ 1 Pip ซึ่งช่วยประเมินความเสี่ยงและผลตอบแทนได้ชัดเจน สูตรคำนวณมีดังนี้ สำหรับคู่สกุลเงินที่สกุลเงินอ้างอิงตรงกับสกุลเงินบัญชีของคุณ เช่น บัญชี USD เทรด EUR/USD: Pip Value = (0.0001 / อัตราแลกเปลี่ยน) x Lot Size (สำหรับคู่ JPY ใช้ 0.01 แทน 0.0001) ถ้าสกุลเงินอ้างอิงไม่ตรง เช่น บัญชี THB เทรด EUR/USD: Pip Value = (0.0001 / อัตราแลกเปลี่ยน) x Lot Size x อัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงินอ้างอิงกับบัญชี

หรือคิดง่ายๆ สำหรับ USD เป็นสกุลเงินอ้างอิง: 1 Standard Lot ≈ 10 ดอลลาร์ต่อ Pip, 1 Mini Lot ≈ 1 ดอลลาร์ต่อ Pip, 1 Micro Lot ≈ 0.10 ดอลลาร์ต่อ Pip ค่าเหล่านี้เป็นประมาณการที่ช่วยให้คุณเห็นภาพรวมได้เร็ว

ตัวอย่างการคำนวณมูลค่า Pip สำหรับเทรดเดอร์ไทย

เพื่อให้เทรดเดอร์ไทยเห็นภาพชัด เรามาดูตัวอย่างจริงๆ โดยสมมติบัญชีเป็นบาทไทย

ตัวอย่างที่ 1: การคำนวณ EUR/USD (บัญชี THB)
* คู่เงิน: EUR/USD
* อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน: สมมติ 1 EUR = 1.0800 USD
* อัตราแลกเปลี่ยน USD/THB: สมมติ 1 USD = 36.50 THB
* Lot Size: 1 Standard Lot (100,000 EUR)

1. มูลค่า 1 Pip ใน USD: (0.0001 / 1.0800) x 100,000 = 9.259 USD
2. เป็นบาท: 9.259 x 36.50 = 337.95 THB
ดังนั้น ทุก 1 Pip ใน EUR/USD 1 Standard Lot คุณจะได้หรือเสียราว 337.95 บาท

ตัวอย่างที่ 2: การคำนวณ USD/JPY (บัญชี THB)
* คู่เงิน: USD/JPY
* อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน: สมมติ 1 USD = 155.00 JPY
* อัตราแลกเปลี่ยน USD/THB: สมมติ 1 USD = 36.50 THB
* Lot Size: 1 Mini Lot (10,000 USD)

1. มูลค่า 1 Pip ใน JPY: (0.01 / 155.00) x 10,000 = 0.645 USD
2. เป็นบาท: 0.645 x 36.50 = 23.54 THB
ทุก 1 Pip ใน USD/JPY 1 Mini Lot คุณจะได้หรือเสียราว 23.54 บาท

ตัวอย่างที่ 3: การคำนวณ XAU/USD (ทองคำเทียบ USD) (บัญชี THB)
* สินทรัพย์: XAU/USD (ทองคำ)
* อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน: สมมติ 1 XAU = 2350.00 USD (ราคาต่อออนซ์)
* อัตราแลกเปลี่ยน USD/THB: สมมติ 1 USD = 36.50 THB
* Lot Size: 0.1 Lot (หรือ 1 Mini Lot สำหรับทองคำ ซึ่งส่วนใหญ่ 1 Lot ทองคำ = 100 ออนซ์ ดังนั้น 0.1 Lot = 10 ออนซ์)
* Pip สำหรับทองคำ: ทองคำมักเคลื่อนไหวเป็น 0.01 USD ต่อออนซ์ (สมมติ 1 Pip = 0.01 USD)

1. มูลค่า 1 Pip ต่อออนซ์: 0.01 USD
2. สำหรับ 0.1 Lot (10 ออนซ์): 0.01 x 10 = 0.10 USD/Pip
3. เป็นบาท: 0.10 x 36.50 = 3.65 THB
ทุก 1 Pip ในทองคำ 0.1 Lot คุณจะได้หรือเสียราว 3.65 บาท

การคำนวณเหล่านี้ช่วยให้คุณวางแผนบริหารความเสี่ยงและตั้งเป้ากำไรขาดทุนได้อย่างมีเหตุผล โดยเฉพาะในตลาดที่ผันผวนสูง

Lot Size กับการบริหารความเสี่ยง (Risk Management) และเงินทุน

การเลือก Lot Size ที่เหมาะสม: หัวใจของการจัดการความเสี่ยง

การเลือกขนาดล็อตที่ลงตัวคือหัวใจหลักในการจัดการความเสี่ยงสำหรับการเทรด Forex และ CFD มันกำหนดว่าคุณจะรับความเสี่ยงได้แค่ไหน และส่งผลต่อขนาดกำไรหรือขาดทุนจากทุก Pip ถ้าขนาดล็อตใหญ่เกินทุนของคุณ แม้ราคาจะแกว่งไกวนิดเดียวก็อาจขาดทุนหนักจนพอร์ตแตกได้ แต่ถ้าเล็กเกิน กำไรที่ได้อาจไม่คุ้มทุนและเวลา การหาสมดุลที่เหมาะสมจึงเป็นกุญแจสู่ความยั่งยืน โดยพิจารณาจากทุน กลยุทธ์ และระดับความอดทนต่อความเสี่ยงของคุณ

Lot Size กับ Margin (มาร์จิ้น) และ Leverage (เลเวอเรจ)

ขนาดล็อตเชื่อมโยงตรงกับมาร์จิ้นและเลเวอเรจที่โบรกเกอร์ให้บริการ มาร์จิ้นคือเงินประกันที่ต้องวางเพื่อเปิดออเดอร์ ยิ่งล็อตใหญ่ มาร์จิ้นที่ต้องใช้ก็ยิ่งสูงตามไปด้วย เลเวอเรจคือเครื่องมือที่ช่วยให้ควบคุมทุนใหญ่ด้วยเงินจริงน้อย เช่น 1:500 หมายถึงควบคุมมูลค่าเทรดได้ 500 เท่าของมาร์จิ้น แต่ถ้าใช้เลเวอเรจสูงคู่กับล็อตใหญ่ ความเสี่ยงจะพุ่งสูง เพราะราคาแกว่งนิดเดียวก็อาจโดน Margin Call หรือ Stop Out ได้ การเข้าใจความสัมพันธ์นี้ช่วยให้คุณใช้เครื่องมือเหล่านี้อย่างชาญฉลาด

กฎ 1-2% ในการบริหารความเสี่ยงด้วย Lot Size

กฎยอดนิยมที่นักเทรดหลายคนยึดถือคือไม่เสี่ยงเกิน 1-2% ของทุนทั้งหมดต่อเทรดหนึ่งครั้ง กฎนี้ช่วยรักษาทุนให้อยู่รอดยาวนาน วิธีใช้กับขนาดล็อต: กำหนดเงินเสี่ยง 1-2% ของทุนทั้งหมด กำหนด Stop Loss เป็นจำนวน Pip ที่ยอมเสีย คำนวณ Pip Value จากสูตรที่รู้จัก แล้วหาขนาดล็อตที่เหมาะ โดยเงินเสี่ยงหารด้วย (Pip Stop Loss x Pip Value) เช่น ทุน 100,000 บาท เสี่ยง 1% (1,000 บาท) Stop Loss 50 Pip Pip Value 5 บาท/Lot = 1,000 / (50 x 5) = 4 หน่วย (ปรับให้ตรงกับโบรกเกอร์) วิธีนี้จำกัดขาดทุนและปกป้องทุนจากความผิดพลาด

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการบริหารความเสี่ยงในการเทรด คุณสามารถศึกษาได้จากบทความเกี่ยวกับ การจัดการความเสี่ยงใน Forex.

Lot Size ที่เหมาะสมสำหรับเทรดเดอร์ไทยควรเป็นเท่าไร?

ปัจจัยที่ต้องพิจารณา: เงินทุน, กลยุทธ์ และความเสี่ยงที่ยอมรับได้

ไม่มีสูตรตายตัวสำหรับขนาดล็อตที่เหมาะกับเทรดเดอร์ไทย แต่ต้องพิจารณาหลายอย่าง เช่น ทุนที่มี ยิ่งทุนมากยิ่งเลือกได้ยืดหยุ่น กลยุทธ์การเทรด เช่น Scalping ที่ถือสั้นๆ อาจใช้ Stop Loss แคบกว่า Swing Trading ที่ถือยาว และระดับความเสี่ยงที่คุณรับไหว เช่น บางคนยอมเสี่ยงแค่ 1% ต่อเทรด บางคนถึง 2-3% การชั่งน้ำหนักปัจจัยเหล่านี้ช่วยให้ขนาดล็อตตรงกับสไตล์ส่วนตัว โดยเฉพาะในตลาดที่ผันผวนจากข่าวเศรษฐกิจโลก

ตัวอย่างการเลือก Lot Size จากเงินทุนเริ่มต้น (ภาษาไทย)

มาดูตัวอย่างการเลือกขนาดล็อตจากทุนเริ่มต้นในหน่วยบาท เพื่อให้เห็นภาพชัด

สมมติฐาน:
* คุณต้องการเสี่ยงไม่เกิน 1% ของเงินทุนต่อการเทรดหนึ่งครั้ง
* ค่าเฉลี่ย Pip Value ของคู่เงินที่คุณสนใจ (เช่น EUR/USD) คือ 0.1 USD ต่อ Micro Lot (ประมาณ 3.65 บาท/Micro Lot ที่ USD/THB 36.50)
* คุณตั้ง Stop Loss ที่ 30 Pip

สถานการณ์ที่ 1: เงินทุนเริ่มต้น 10,000 บาท
* เงินที่ยอมเสี่ยง (1%): 10,000 x 1% = 100 บาท
* มูลค่า Pip ที่ยอมเสี่ยง: 100 / 30 = 3.33 บาท/Pip
* Lot Size ที่เหมาะสม (โดยประมาณ): 3.33 / 3.65 ≈ 0.91 Micro Lot
ควรเลือกราว 1 Micro Lot (0.01 Standard Lot) เพื่อควบคุมความเสี่ยงให้พอดี โดยพิจารณาจากขั้นต่ำของโบรกเกอร์

สถานการณ์ที่ 2: เงินทุนเริ่มต้น 50,000 บาท
* เงินที่ยอมเสี่ยง (1%): 50,000 x 1% = 500 บาท
* มูลค่า Pip ที่ยอมเสี่ยง: 500 / 30 = 16.67 บาท/Pip
* Lot Size ที่เหมาะสม (โดยประมาณ): 16.67 / 3.65 ≈ 4.56 Micro Lot
อาจเลือก 0.04 Standard Lot หรือ 4-5 Micro Lot เพื่อให้สอดคล้องกับทุนและความเสี่ยง

ตัวอย่างเหล่านี้แสดงว่าการคำนวณอย่างละเอียดช่วยจัดการความเสี่ยงและรักษาทุนในระยะยาวได้ดี โดยเริ่ม从小ทุนและค่อยปรับตามประสบการณ์

ข้อควรพิจารณาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Lot Size ในการเทรด

ความแตกต่างของ Lot Size ที่โบรกเกอร์แต่ละรายเสนอ

ถึงแม้จะมีมาตรฐาน Standard Mini Micro แต่โบรกเกอร์แต่ละแห่งอาจแตกต่างในเรื่องขั้นต่ำของขนาดล็อตและหน่วยย่อยที่เทรดได้ เช่น บางแห่งเริ่มที่ 0.01 Standard Lot (1 Micro Lot) เหมาะกับมือใหม่ทุนน้อย แต่บางแห่งกำหนดสูงกว่า เช่น 0.1 Standard Lot ความแตกต่างนี้กระทบต่อการจัดการทุนโดยตรง โดยเฉพาะผู้เริ่มต้น การเลือกโบรกเกอร์ที่ยืดหยุ่นเรื่องขนาดล็อตจึงสำคัญ เพื่อปรับเทรดให้เข้ากับสถานการณ์ การทำความเข้าใจความแตกต่างของโบรกเกอร์ จะช่วยตัดสินใจได้ดีขึ้น แพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง MetaTrader 4 หรือ 5 ในไทยก็รองรับการตั้งค่าหลากหลายตามนโยบายโบรกเกอร์

Lot ในบริบทอื่นๆ: การแยกแยะความหมาย

คำว่า Lot ไม่ได้จำกัดแค่การเทรดการเงิน แต่ใช้ในหลายบริบทซึ่งอาจทำให้มือใหม่สับสน การรู้ความแตกต่างช่วยหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิด เช่น ในอุตสาหกรรมผลิต Lot หมายถึงกลุ่มสินค้าที่ผลิตในรอบเดียวกันหรือมีลักษณะคล้ายๆ กัน เช่น สินค้า Lot นี้มีปัญหาคุณภาพ ในอสังหาฯ Lot คือที่ดินแปลงหนึ่งที่พร้อมซื้อขาย หรือในคอมพิวเตอร์ Lot อาจหมายถึง Batch ของงานที่ประมวลผลพร้อมกัน แต่ในบทความนี้ เรามุ่งเน้น Lot ใน Forex และ CFD เท่านั้น เพื่อให้คุณโฟกัสกับการเทรดได้เต็มที่

สรุป: ควบคุม Lot Size คือควบคุมการเทรดของคุณ

สรุปแล้ว Lot Size ไม่ใช่แค่ตัวเลขในการเปิดออเดอร์ แต่เป็นเครื่องมือหลักที่กำหนดความเสี่ยงและขนาดผลตอบแทนในตลาด Forex และ CFD การเข้าใจความหมาย ประเภท การคำนวณ Pip Value และความเชื่อมโยงกับมาร์จิ้น เลเวอเรจ สร้างฐานแข็งแกร่งสำหรับการจัดการความเสี่ยงและทุน สำหรับเทรดเดอร์ไทยมือใหม่ การเริ่มด้วย Micro Lot แล้วค่อยขยายตามทุนและประสบการณ์เป็นทางที่ปลอดภัย อย่าลืมว่าการเลือกขนาดล็อตที่เหมาะสมคือการควบคุมชะตากรรมการเทรดของคุณ และก้าวสู่ความสำเร็จยั่งยืน

คำถามที่พบบ่อย (FAQs) เกี่ยวกับ Lot Size ใน Forex

Lot ใน Forex คืออะไร และทำไมต้องใช้?

Lot ใน Forex คือ หน่วยมาตรฐานของการซื้อขาย ที่ใช้กำหนดปริมาณการเทรดของคุณในตลาด โดย 1 Lot จะเท่ากับจำนวนหน่วยของสกุลเงินหลักที่แน่นอน (เช่น 100,000 หน่วยสำหรับ Standard Lot) การใช้ Lot ทำให้การซื้อขายเป็นมาตรฐาน ง่ายต่อการจัดการ และช่วยให้โบรกเกอร์สามารถประมวลผลคำสั่งซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Standard Lot, Mini Lot, Micro Lot แตกต่างกันอย่างไร?

Lot แต่ละประเภทแตกต่างกันที่ปริมาณหน่วยของสกุลเงินหลักที่ควบคุม:

  • Standard Lot: 100,000 หน่วยของสกุลเงินหลัก
  • Mini Lot: 10,000 หน่วยของสกุลเงินหลัก (1 ใน 10 ของ Standard Lot)
  • Micro Lot: 1,000 หน่วยของสกุลเงินหลัก (1 ใน 10 ของ Mini Lot)

โดย Micro Lot เป็นที่นิยมสำหรับมือใหม่เพราะมีความเสี่ยงต่ำที่สุด

ถ้าผมมีเงินทุน 10,000 บาท ควรเลือก Lot Size เท่าไหร่ดี?

การเลือก Lot Size ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับ ความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้ และกลยุทธ์การเทรดของคุณ โดยทั่วไปแล้ว หากคุณมีเงินทุน 10,000 บาทและต้องการเสี่ยงไม่เกิน 1% ของเงินทุนต่อการเทรด คุณควรเริ่มต้นด้วย Micro Lot (0.01 Standard Lot) หรือน้อยกว่านั้น เพื่อจำกัดการขาดทุนให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ หาก Pip Value ของคู่เงินที่คุณเทรดอยู่ที่ประมาณ 3.65 บาทต่อ Micro Lot และคุณตั้ง Stop Loss ที่ 30 Pip การเทรดด้วย 1 Micro Lot จะเสี่ยงประมาณ 109.5 บาท ซึ่งใกล้เคียงกับ 1% ของเงินทุน

0.1 Lot เท่ากับกี่บาท ในคู่เงิน EUR/USD และทองคำ?

การคำนวณเป็นบาทจะขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยน USD/THB และ Lot Size ของแต่ละสินทรัพย์

  • สำหรับ EUR/USD (0.1 Standard Lot หรือ 1 Mini Lot): สมมติ 1 Mini Lot (10,000 EUR) มี Pip Value ประมาณ $1 USD (เมื่อ USD เป็น Quote Currency) หาก USD/THB = 36.50 บาท ดังนั้น 0.1 Lot ของ EUR/USD จะมีมูลค่าประมาณ 36.50 บาทต่อ Pip
  • สำหรับทองคำ (XAU/USD) (0.1 Lot): โดยทั่วไป 1 Lot ทองคำเท่ากับ 100 ออนซ์ ดังนั้น 0.1 Lot = 10 ออนซ์ แต่ละ Pip (0.01 USD/ออนซ์) จะมีมูลค่า 0.10 USD (0.01 USD x 10 ออนซ์) หาก USD/THB = 36.50 บาท ดังนั้น 0.1 Lot ของทองคำ จะมีมูลค่าประมาณ 3.65 บาทต่อ Pip

Lot Size มีผลต่อ Margin และ Leverage อย่างไร?

Lot Size ส่งผลโดยตรงต่อ Margin และ Leverage:

  • Margin: ยิ่ง Lot Size ใหญ่ขึ้นเท่าใด เงินประกัน (Margin) ที่คุณต้องวางเพื่อเปิดสถานะก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย
  • Leverage: Leverage ช่วยให้คุณสามารถควบคุม Lot Size ที่ใหญ่ขึ้นได้ด้วย Margin ที่น้อยลง แต่การใช้ Lot Size ใหญ่ร่วมกับ Leverage สูง ก็จะเพิ่มความเสี่ยงในการถูก Margin Call หรือ Stop Out อย่างมาก

การเลือก Lot Size ผิดพลาด จะส่งผลเสียอย่างไร?

การเลือก Lot Size ผิดพลาดอาจนำไปสู่ผลเสียร้ายแรง:

  • เลือก Lot Size ใหญ่เกินไป: เสี่ยงต่อการขาดทุนจำนวนมากอย่างรวดเร็ว แม้ราคาจะเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย อาจทำให้ถูก Margin Call หรือล้างพอร์ตได้
  • เลือก Lot Size เล็กเกินไป: กำไรที่ได้อาจไม่คุ้มค่ากับเวลาและความพยายใจ ทำให้รู้สึกท้อแท้และอาจพลาดโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสม

นอกจาก Forex แล้ว Lot มีความหมายในบริบทอื่นอีกหรือไม่?

มีครับ คำว่า “Lot” ถูกใช้ในหลายบริบทนอกเหนือจาก Forex:

  • Lot สินค้า/การผลิต: กลุ่มของสินค้าที่ผลิตพร้อมกันหรือมีคุณสมบัติเฉพาะคล้ายกัน
  • Lot ในอสังหาริมทรัพย์: หมายถึง ที่ดินเปล่าแปลงหนึ่ง
  • Lot ในทางคอมพิวเตอร์ (Batch): หมายถึง กลุ่มของงานที่ถูกประมวลผลพร้อมกัน

อย่างไรก็ตาม ในบทความนี้ เรามุ่งเน้นความหมายในตลาดการเงินเท่านั้น

โบรกเกอร์แต่ละรายมี Lot Size ขั้นต่ำต่างกันไหม?

ใช่ครับ โบรกเกอร์แต่ละรายอาจมีนโยบายเกี่ยวกับ Lot Size ขั้นต่ำที่แตกต่างกัน บางโบรกเกอร์อาจอนุญาตให้เทรดได้ตั้งแต่ 0.01 Standard Lot (1 Micro Lot) ในขณะที่บางรายอาจกำหนดขั้นต่ำไว้สูงกว่า เช่น 0.1 Standard Lot (1 Mini Lot) การเลือกโบรกเกอร์ที่มี Lot Size ขั้นต่ำที่ยืดหยุ่นจะช่วยให้นักเทรด โดยเฉพาะมือใหม่ สามารถบริหารเงินทุนและความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

เราจะคำนวณกำไรขาดทุนจาก Lot Size ที่เลือกได้อย่างไร?

คุณสามารถคำนวณกำไรขาดทุนได้จากสูตร:

กำไร/ขาดทุน = จำนวน Pip ที่ราคาเคลื่อนไหว x มูลค่า Pip ต่อ Lot x จำนวน Lot ที่เทรด

ตัวอย่าง: หากคุณเทรด 0.1 Standard Lot ใน EUR/USD (มูลค่า Pip ประมาณ $1 USD/Pip) และราคาเคลื่อนไหวไป 50 Pip ในทิศทางที่เป็นบวก คุณจะได้กำไร 50 Pip x $1 USD/Pip = $50 USD

Lot Size ที่เหมาะสมจะช่วยบริหารความเสี่ยงได้อย่างไร?

Lot Size ที่เหมาะสมช่วยบริหารความเสี่ยงโดยการ จำกัดขนาดของการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้น หากคุณเลือก Lot Size ที่สอดคล้องกับกฎ 1-2% ของเงินทุนของคุณ คุณจะสามารถควบคุมได้ว่าคุณพร้อมจะเสียเงินเท่าไหร่ในการเทรดแต่ละครั้ง ทำให้คุณสามารถอยู่รอดในตลาดได้นานขึ้นและมีโอกาสฟื้นตัวจากการขาดทุนได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณสามารถตั้งจุด Stop Loss ได้อย่างมีเหตุผลและไม่เสี่ยงมากเกินไป

發佈留言

發佈留言必須填寫的電子郵件地址不會公開。 必填欄位標示為 *