ในวงการซื้อขายฟอเร็กซ์และสัญญาซื้อขายส่วนต่างที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน การหาโบรกเกอร์ที่ใช่ถือเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับนักลงทุน โดยเฉพาะในไทยที่ตลาดกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว Infinox กลายเป็นชื่อที่หลายคนให้ความสนใจ แต่คำถามที่มักผุดขึ้นในใจนักเทรดไทยคือ Infinox ดีไหมกันแน่ บทความนี้จะวิเคราะห์ Infinox อย่างละเอียด เพื่อให้คุณได้รับข้อมูลครบถ้วนและเป็นกลาง ครอบคลุมทั้งจุดเด่น จุดด้อย ความน่าเชื่อถือ แพลตฟอร์มการเทรด การฝากถอน และการดูแลลูกค้า ช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น
Infinox โบรกเกอร์เชิงลึก: คู่มือสำหรับนักเทรดชาวไทย
Infinox คืออะไร? ประวัติความเป็นมาและการดำเนินงานทั่วโลก
Infinox คือโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์และ CFD ที่เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2009 โดยมีฐานที่มั่นในลอนดอน ประเทศอังกฤษ และขยายเครือข่ายไปทั่วโลก โบรกเกอร์นี้มุ่งเน้นการนำเสนอแพลตฟอร์มเทรดที่ล้ำสมัย เครื่องมือวิเคราะห์ที่ทรงพลัง และบริการลูกค้าที่มีคุณภาพสูง พวกเขาครองตลาดในกว่า 150 ประเทศ ด้วยปริมาณการซื้อขายมหาศาลและเทคโนโลยีที่เชื่อถือได้ Infinox จึงได้รับการยอมรับในระดับสากลว่าเป็นผู้จัดหาสภาพคล่องและนวัตกรรมการเทรดสำหรับสถาบันการเงิน
Infinox ในตลาดประเทศไทย: ความถูกต้องตามกฎหมายและการกำกับดูแล
สำหรับนักเทรดในไทย ปัจจัยหลักที่ต้องพิจารณาคือเรื่องการกำกับดูแล Infinox ได้รับอนุมัติจากหน่วยงานทางการเงินชั้นนำหลายแห่งทั่วโลก ซึ่งช่วยยืนยันถึงความน่าเชื่อถือและการปกป้องเงินทุนของลูกค้า เช่น
- Financial Conduct Authority (FCA) ประเทศอังกฤษ: Infinox Capital Ltd. อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ FCA (เลขที่ 501057) ถือเป็นหนึ่งในหน่วยงานที่เคร่งครัดที่สุด การดูแลจาก FCA รับประกันว่าต้องปฏิบัติตามมาตรฐานสูงในการคุ้มครองเงินลูกค้า การแยกบัญชี และการรายงานข้อมูลอย่างโปร่งใส
- Securities Commission of the Bahamas (SCB) ประเทศบาฮามาส: Infinox Limited ได้รับใบอนุญาตจาก SCB (เลขที่ SIA-F188) ซึ่งเอื้อให้บริการลูกค้าในหลายภูมิภาค
- Financial Sector Conduct Authority (FSCA) ประเทศแอฟริกาใต้: Infinox (Pty) Ltd ได้รับการรับรองจาก FSCA (เลขที่ 47807)
แต่สิ่งที่นักเทรดไทยต้องรู้คือ Infinox ยังไม่ได้รับการกำกับดูแลโดยตรงจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ของไทย ดังนั้น ลูกค้าชาวไทยจึงอยู่ภายใต้การดูแลจากหน่วยงานต่างประเทศอย่าง FCA หรือ SCB ซึ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับโบรกเกอร์ต่างชาติที่ให้บริการในไทย แม้ใบอนุญาตระดับโลกเหล่านี้จะให้ความอุ่นใจเรื่องความปลอดภัย แต่การแก้ปัญหาข้อพิพาทอาจต้องอาศัยกฎหมายของประเทศนั้นๆ หากเกิดขึ้น
Infinox บัญชีประเภทและเงื่อนไขการซื้อขาย
บัญชีประเภทไหนเหมาะกับคุณ? บัญชี Standard, Raw และ ECN
Infinox นำเสนอบัญชีหลากหลายรูปแบบ เพื่อให้ตรงกับสไตล์การเทรดของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือเซียน การเลือกบัญชีที่ใช่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการลงทุนได้มาก บัญชีหลักที่ควรรู้จักมีดังนี้
- บัญชี Standard (มาตรฐาน): เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นหรือเทรดเดอร์ทั่วไป ด้วยสเปรดที่ต่ำพอสมควรและไม่มีค่าคอมมิชชั่น ทำให้คำนวณต้นทุนได้ง่ายดาย เงินฝากเริ่มต้นก็ไม่สูงเกินไป
- บัญชี Raw (ดิบ): สำหรับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ที่ต้องการสเปรดต่ำสุด บัญชีนี้เรียกเก็บค่าคอมมิชชั่นต่อล็อต แต่สเปรดเริ่มต้นที่ 0 pips ซึ่งคุ้มค่ากับความโปร่งใส
- บัญชี ECN (Electronic Communication Network): ให้เข้าถึงสภาพคล่องตรงจากหลายแหล่ง ส่งผลให้สเปรดแคบและชัดเจน แม้จะมีเงินฝากขั้นต่ำสูงกว่าและค่าคอมมิชชั่น แต่เหมาะสำหรับการเทรดที่ต้องการความเร็ว
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น นี่คือตารางเปรียบเทียบประเภทบัญชีของ Infinox
| ประเภทบัญชี | สเปรด (สเปรด) | ค่าคอมมิชชั่น (ค่าคอมมิชชั่น) | ฝากเงินขั้นต่ำ (โดยประมาณ) | เหมาะสำหรับ |
|---|---|---|---|---|
| Standard | เริ่มต้นจาก 1.2 pips | ไม่มี | $100 | มือใหม่, นักเทรดทั่วไป |
| Raw | เริ่มต้นจาก 0.2 pips | $3.50 ต่อล็อตต่อข้าง | $100 | นักเทรดที่มีประสบการณ์, Scalper |
| ECN | เริ่มต้นจาก 0.0 pips | $7 ต่อล็อตต่อข้าง | สูงกว่า | นักเทรดมืออาชีพ, EA Trader |
การเลือกบัญชีควรพิจารณาจากสไตล์การเทรดของคุณ เช่น ถ้าคุณเพิ่งเริ่มต้น บัญชี Standard จะช่วยให้ปรับตัวได้ง่าย โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าธรรมเนียมซับซ้อน
เลเวอเรจ, สเปรด และค่าใช้จ่ายในการซื้อขาย
Infinox ให้เลเวอเรจที่แข็งแกร่ง สูงสุดถึง 1:1000 สำหรับบางสินทรัพย์และบัญชี แต่ระดับนี้ขึ้นอยู่กับหน่วยงานกำกับดูแลและประเภทสินค้าที่เทรด แน่นอนว่าเลเวอเรจสูงช่วยขยายโอกาสกำไร แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงขาดทุนเช่นกัน ดังนั้น ควรใช้อย่างมีวินัยเสมอ
สเปรดคือต้นทุนหลักในการเทรด ซึ่ง Infinox ใช้ระบบลอยตัวที่ปรับตามสภาวะตลาด บัญชี Raw และ ECN มักมีสเปรดแคบกว่า แต่ต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่นเพิ่ม เพื่อประเมินต้นทุนจริง แนะนำให้ดูสเปรดเฉลี่ยของคู่เงินหลักอย่าง EUR/USD ซึ่งช่วยให้วางแผนการเทรดได้ดีขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ควรระวัง เช่น สวอปสำหรับการถือออเดอร์ข้ามคืน ซึ่งอาจเป็นทั้งค่าใช้จ่ายหรือกำไร ขึ้นกับคู่เงินและทิศทางเทรด Infinox เปิดเผยข้อมูลเหล่านี้ชัดเจนบนแพลตฟอร์ม ทำให้เทรดเดอร์ติดตามได้สะดวก
แพลตฟอร์มและเครื่องมือการซื้อขาย: MT4/MT5 และ Infinox App
MetaTrader 4 (MT4) และ MetaTrader 5 (MT5): คุณสมบัติและข้อดีข้อเสีย
Infinox สนับสนุนแพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง MetaTrader ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของเทรดเดอร์ทั่วโลก ทั้ง MT4 และ MT5 ล้วนมีจุดเด่นที่ช่วยเสริมการเทรด
- MetaTrader 4 (MT4): แพลตฟอร์มคลาสสิกที่เหมาะกับการเทรดฟอเร็กซ์ มีเครื่องมือวิเคราะห์เทคนิคหลากหลาย กราฟที่ปรับแต่งได้อิสระ และรองรับการเทรดอัตโนมัติผ่าน Expert Advisors ได้อย่างราบรนม ชุมชนผู้ใช้ขนาดใหญ่ยังช่วยให้หาข้อมูลหรือสคริปต์เพิ่มเติมได้ง่าย
- MetaTrader 5 (MT5): เวอร์ชันอัปเกรดจาก MT4 ที่เพิ่มฟีเจอร์มากมาย เช่น สินทรัพย์เทรดที่ครอบคลุมกว่า (รวมหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์) กรอบเวลาหลายแบบ ปฏิทินเศรษฐกิจในตัว และคำสั่งเทรดขั้นสูง MT5 ยังพัฒนาการรองรับ EA ด้วยภาษา MQL5 ที่แข็งแกร่งกว่า
ทั้งสองแพลตฟอร์มมีเวอร์ชันเดสก์ท็อป เว็บ และมือถือ ทำให้คุณเทรดได้ทุกที่ทุกเวลา โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการเชื่อมต่อ
Infinox Trader App และ IX Social Copy Trade
помимо MetaTrader Infinox ยังพัฒนาแอปมือถือของตัวเองชื่อ Infinox Trader App ซึ่งออกแบบให้ใช้งานสะดวกและมีฟีเจอร์พื้นฐานสำหรับการเทรดนอกสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบราคาหรือเปิดออเดอร์ด่วน
อีกฟีเจอร์ที่น่าตื่นเต้นคือ IX Social ซึ่งเป็นระบบคัดลอกการเทรดที่ช่วยให้คุณเลียนแบบกลยุทธ์จากเทรดเดอร์ชั้นนำ เหมาะมากสำหรับมือใหม่ที่ยังขาดประสบการณ์ หรือคนที่ไม่มีเวลาวิเคราะห์ตลาดเอง
IX Social Copy Trade ทำงานโดยให้ผู้เชี่ยวชาญ (Strategy Providers) แชร์กลยุทธ์ แล้วผู้ติดตาม (Followers) เลือกคัดลอกอัตโนมัติ คุณสามารถตรวจสอบประวัติผลงาน ระดับความเสี่ยง และสถิติอื่นๆ เพื่อตัดสินใจ แม้จะมีความเสี่ยง แต่ระบบนี้ยังช่วยกระจายพอร์ตและเรียนรู้จากผู้เก่งจริง
การจัดการเงินทุน: คู่มือการฝากและถอน Infinox
ช่องทางการฝากเงินและขั้นตอนสำหรับนักเทรดชาวไทย
Infinox ให้ความสำคัญกับความสะดวก โดยเฉพาะสำหรับลูกค้าไทย มีตัวเลือกฝากเงินหลายช่องทาง เพื่อให้การทำธุรกรรมราบรื่นและรวดเร็ว
- การโอนเงินผ่านธนาคาร: วิธียอดฮิตสำหรับการโอนระหว่างประเทศ อาจใช้เวลา 1-5 วันทำการ และมีค่าธรรมเนียมจากธนาคารต้นทาง
- บัตรเครดิต/เดบิต (Visa, MasterCard): รวดเร็วสุดๆ เงินเข้าบัญชีเกือบทันทีหรือไม่กี่นาที
- E-wallets (เช่น Skrill, Neteller, Fasapay): ช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ปลอดภัยและไว เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ชอบความคล่องตัว
- การฝากเงินผ่านธนาคารท้องถิ่น (Local Bank Transfer): ในบางกรณี Infinox รองรับผ่านพันธมิตร ซึ่งอาจครอบคลุมไทย หากใช้ตัวเลือกนี้ จะช่วยลดค่าธรรมเนียมข้ามชาติและเร่งกระบวนการได้มาก
ขั้นตอนฝากเงินทั่วไปนั้นง่ายดาย
- ล็อกอินเข้าบัญชี Infinox
- คลิกที่ส่วน “ฝากเงิน” หรือ Deposit
- เลือกวิธีชำระเงินที่ชอบ
- กรอกจำนวนเงิน
- ยืนยันตามคำแนะนำ
ก่อนฝาก ควรเช็คเงินขั้นต่ำและค่าธรรมเนียม Infinox มักไม่เรียกเก็บจากฝั่งโบรกเกอร์ แต่ผู้ให้บริการภายนอกอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
Infinox ถอนเงิน: ขั้นตอน, ความเร็ว และข้อควรระวังสำหรับนักเทรดชาวไทย
การถอนเงินคือประเด็นที่เทรดเดอร์กังวลมาก Infinox มีนโยบายชัดเจนและพยายามประมวลผลให้เร็วที่สุด
- ช่องทางการถอนเงิน: ต้องใช้วิธีเดียวกับฝาก เพื่อป้องกันการฟอกเงิน เช่น ถ้าฝากด้วยบัตรเครดิต ต้องถอนคืนบัตรก่อน จากนั้นค่อยถอนกำไรทางอื่น
- ระยะเวลาดำเนินการ: Infinox ประมวลผลภายใน 1-2 วันทำการ แล้วขึ้นกับช่องทาง เช่น ธนาคารอาจ 3-5 วัน แต่ e-wallets เร็วกว่า
- ค่าธรรมเนียม: Infinox ไม่คิดค่าถอนสำหรับยอดเกินขั้นต่ำหรือ e-wallets แต่การโอนธนาคารข้ามประเทศอาจมีค่าจากธนาคารกลางหรือปลายทาง นักเทรดไทยควรสอบถามธนาคารตัวเอง
เคล็ดลับสำหรับเทรดเดอร์ไทย
- เอกสารยืนยันตัวตน (KYC): ต้องอัปเดตให้ครบเพื่อหลีกเลี่ยงความล่าช้า
- ค่าธรรมเนียมธนาคาร: ธนาคารไทยอาจคิดค่าความรับเงินต่างชาติและแปลงสกุล
- อัตราแลกเปลี่ยน: การแปลงจาก USD เป็นบาทอาจทำให้ยอดจริงแตกต่าง ตามอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน
- ปัญหาการถอนเงิน (ปัญหาการถอนเงิน): ถ้าล่าช้าหรือมีปัญหา ติดต่อฝ่ายบริการทันทีเพื่อแก้ไข
ด้วยการเตรียมพร้อมและเข้าใจขั้นตอนเหล่านี้ คุณจะจัดการเงินทุนกับ Infinox ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเครียดในการเทรด
Infinox ฝ่ายบริการลูกค้าและสนับสนุน
ช่องทางการติดต่อและการสนับสนุนหลายภาษา
Infinox จัดช่องทางติดต่อหลากหลาย เพื่อให้ลูกค้าได้รับความช่วยเหลือทันเวลา
- โทรศัพท์: มีเบอร์ตรง แยกตามภูมิภาคสำหรับความสะดวก
- อีเมล: เหมาะสำหรับเรื่องไม่ด่วน
- แชทสด (Live Chat): เร็วและง่ายสำหรับปัญหาเบื้องต้นหรือถามข้อมูล
โบรกเกอร์นี้สนับสนุนหลายภาษา แต่ภาษาไทยอาจจำกัดเวลาหรือไม่ 24 ชั่วโมง นักเทรดไทยควรเช็คช่วงเวลาที่มีบริการภาษาไทย หากต้องการความช่วยเหลือเฉพาะทาง
ทีมสนับสนุนที่ตอบสนองดีและเชี่ยวชาญช่วยแก้ปัญหาเทคนิคหรือบัญชีได้ทันท่วงที Infinox จึงรักษามาตรฐานบริการสูงเพื่อลูกค้าทั่วโลก
Infinox ดีไหม? ข้อดี, ข้อเสีย และความเห็นจากผู้ใช้งานชาวไทย
ข้อดีหลักของ Infinox
จากการพิจารณาอย่างรอบคอบ Infinox มีจุดแข็งหลายอย่างที่ดึงดูดเทรดเดอร์
- การกำกับดูแลที่แข็งแกร่ง: ใบอนุญาตจาก FCA และ SCB สร้างความเชื่อมั่นสูง
- แพลตฟอร์มที่หลากหลาย: รองรับ MT4, MT5 และแอป Infinox Trader
- คุณสมบัติ Copy Trade (IX Social): ช่วยมือใหม่และกระจายความเสี่ยง
- สเปรดและค่าคอมมิชชั่นที่แข่งขันได้: โดยเฉพาะ Raw และ ECN
- ตราสารการซื้อขายที่หลากหลาย: ครอบคลุมฟอเร็กซ์ ดัชนี สินค้าโภคภัณฑ์
- การดำเนินการคำสั่งซื้อขายที่รวดเร็ว: ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง
ข้อเสียที่อาจเกิดขึ้นและข้อกังวลของนักเทรดชาวไทย
ถึงแม้จะมีข้อดีมาก แต่ Infinox ก็มีจุดที่ต้องชั่งน้ำหนัก โดยเฉพาะสำหรับตลาดไทย
- ไม่มีการกำกับดูแลในประเทศไทยโดยตรง: แม้ระดับสากลแข็งแกร่ง แต่ขาดใบอนุญาต ก.ล.ต. ไทย อาจทำให้กังวลเรื่องการแก้ไขปัญหาภายในประเทศ
- ตัวเลือกการฝาก/ถอนเงินท้องถิ่นที่จำกัด: ช่องทางเยอะแต่ยังไม่สะดวกเท่าโบรกเกอร์ที่มีฐานในไทย
- Infinox ดีไหม pantip: จากรีวิวใน Pantip และฟอรัมไทย พบความเห็นเรื่องถอนเงินล่าช้าในช่วงตลาดผันผวน หรือเข้าใจผิดค่าธรรมเนียม แต่โดยรวมเป็นกลางถึงบวก ปัญหาส่วนใหญ่แก้ได้ด้วยการติดต่อ support
- การสนับสนุนภาษาไทย: ไม่ครบ 24 ชั่วโมง อาจเป็นปัญหาสำหรับความช่วยเหลือด่วน
ใครเหมาะกับ Infinox? คำแนะนำสำหรับประเภทนักเทรด
สรุปจากข้อมูล Infinox เหมาะกับกลุ่มเทรดเดอร์เหล่านี้
- นักเทรดที่ให้ความสำคัญกับการกำกับดูแล: ต้องการความปลอดภัยจาก FCA ระดับโลก
- นักเทรดที่ใช้ MT4/MT5: ชอบแพลตฟอร์มมาตรฐานที่คุ้นเคย
- นักเทรดมือใหม่และผู้ที่ต้องการเรียนรู้: IX Social Copy Trade ช่วยเริ่มต้นและทำกำไรได้
- นักเทรดที่ต้องการสเปรดต่ำ: Raw และ ECN สำหรับ scalping หรือเทรดบ่อย
- นักเทรดที่ต้องการความหลากหลายของตราสาร: มีสินค้าครบครันให้เลือก
สรุป: Infinox คุ้มค่าที่นักเทรดชาวไทยจะพิจารณาหรือไม่?
ท้ายที่สุด Infinox เป็นโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ ด้วยการกำกับดูแลจาก FCA ชั้นนำ แพลตฟอร์มแข็งแกร่งอย่าง MT4, MT5 และแอป Infinox รวมถึงนวัตกรรม IX Social Copy Trade ที่ช่วยนักเทรดไทยหลายสไตล์
แม้ยังไม่ได้รับการดูแลจาก ก.ล.ต. ไทยโดยตรง และภาษาไทยมีจำกัด แต่การกำกับสากลที่โปร่งใสยังคงเป็นจุดแข็ง สำหรับเทรดเดอร์ไทยที่มองหาความมั่นคงและเทคโนโลยีทันสมัย Infinox คือตัวเลือกที่น่าลอง
ก่อนเปิดบัญชีจริง แนะนำศึกษาลึกซึ้ง ทดลองด้วยบัญชีเดโมเพื่อทำความรู้จัก และประเมินความเสี่ยงที่ยอมรับได้ การเทรดฟอเร็กซ์และ CFD มีความเสี่ยงสูง อาจสูญเสียทุนทั้งหมด
คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
Infinox ดีไหม Pantip มีคนพูดถึงอะไรบ้าง?
จากรีวิวใน Pantip และเว็บบอร์ดไทย Infinox ได้รับความนิยมในฐานะโบรกเกอร์ต่างชาติชื่อดัง ผู้ใช้มักชื่นชอบการกำกับดูแลจาก FCA ที่ให้ความมั่นใจ ระบบ IX Social Copy Trade ที่น่าใช้ และความเร็วในการประมวลผลออเดอร์ แต่บางครั้งก็มีข้อกังวลเรื่องถอนเงินช้าในช่วงตลาดวุ่นวาย หรือขั้นตอนยืนยันตัวตนที่ยุ่งยาก โดยรวมแล้ว ปัญหาเหล่านี้มักแก้ไขได้เมื่อติดต่อทีมสนับสนุน
INFINOX ถอนเงิน ต้องรอนานไหม มีค่าธรรมเนียมซ่อนอยู่หรือเปล่า?
Infinox ประมวลผลคำขอถอนภายใน 1-2 วันทำการ จากนั้นขึ้นกับวิธีถอน เช่น e-wallet อาจแค่ไม่กี่ชั่วโมงถึงวันเดียว แต่ธนาคารอาจ 3-5 วัน
Infinox ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝงสำหรับการถอน แต่ธนาคารไทยหรือตัวกลางอาจคิดค่าความรับโอนต่างชาติและแปลงสกุล แนะนำสอบถามธนาคารตัวเองก่อนถอนเพื่อหลีกเลี่ยงเซอร์ไพรส์
INFINOX Thailand มีช่องทางการติดต่อหรือสาขาในประเทศหรือไม่?
ตอนนี้ Infinox ยังไม่มีสำนักงานหรือสาขาในไทยอย่างเป็นทางการ แต่คุณติดต่อได้ผ่านออนไลน์ เช่น แชทสด อีเมล หรือโทรศัพท์ ทีม support อาจมีเจ้าหน้าที่ภาษาไทยในบางช่วง แต่ไม่ครบ 24 ชั่วโมง
INFINOX ฝากเงิน ผ่านธนาคารไทยได้ไหม วิธีไหนสะดวกที่สุด?
Infinox รองรับฝากผ่านช่องทางสากล เช่น บัตร Visa/MasterCard และ e-wallet อย่าง Skrill, Neteller ซึ่งรวดเร็วและง่าย แต่บางครั้งมีตัวเลือกธนาคารท้องถิ่นผ่านพันธมิตร ซึ่งอาจรวมไทย ถ้ามี จะสะดวกสุดเพราะลดค่าธรรมเนียมข้ามชาติและเร็วกว่า เช็คช่องทางล่าสุดในพื้นที่ลูกค้าบนเว็บ Infinox
INFINOX บัญชีประเภทไหนเหมาะกับนักเทรดมือใหม่ในประเทศไทย?
สำหรับมือใหม่ในไทย บัญชี Standard ของ Infinox เป็นตัวเลือกยอดเยี่ยม ด้วยสเปรดสมเหตุสมผล ไม่มีคอมมิชชั่น ทำให้คำนวณต้นทุนง่าย และฝากขั้นต่ำไม่แพง
ยิ่งไปกว่านั้น IX Social Copy Trade ช่วยให้มือใหม่เรียนรู้และทำกำไรจากการเลียนแบบเซียน โดยควบคุมความเสี่ยงได้
Infinox EX คืออะไร แตกต่างจากการเทรดปกติอย่างไร มีความเสี่ยงพิเศษไหม?
Infinox EX มักหมายถึงบริการเฉพาะสำหรับเทรดสินทรัพย์ดิจิทัลหรือคริปโต ซึ่งอาจต่างจากฟอเร็กซ์/CFD ทั่วไปในด้านเงื่อนไข แพลตฟอร์ม และการกำกับดูแล
จุดต่างหลักคือประเภทสินค้าและความผันผวน ตลาดคริปโตผันผวนสูงกว่าฟอเร็กซ์มาก จึงมีความเสี่ยงเพิ่ม แนะนำศึกษาละเอียดก่อนลงทุนใน Infinox EX หรือบริการคล้ายๆ กัน
Infinox ปลอดภัยสำหรับนักเทรดไทยหรือไม่? เงินทุนของเราได้รับการคุ้มครองอย่างไร?
Infinox ถือว่าปลอดภัยสูง ด้วยการกำกับดูแลจากหน่วยงานชั้นนำอย่าง FCA ของอังกฤษ ที่มีกฎเข้มงวด
สำหรับเทรดเดอร์ไทย (ภายใต้ Infinox Capital Ltd. ที่ FCA รับรอง) เงินทุนได้รับการปกป้องผ่าน
- การแยกบัญชีเงินทุนลูกค้า (Segregated Accounts): เงินลูกค้าอยู่แยกจากบริษัท ในธนาคารชั้นนำ เพื่อป้องกันการใช้ผิดวัตถุประสงค์
- โครงการชดเชยบริการทางการเงิน (FSCS): ลูกค้าภายใต้ FCA อาจชดเชยได้ถึง 85,000 ปอนด์ ถ้าโบรกเกอร์ล้ม (เช็คคุณสมบัติกับ Infinox และ FSCS)
แม้ไม่มี ก.ล.ต. ไทยโดยตรง แต่ FCA ให้มาตรฐานความปลอดภัยชั้นเลิศ
การเทรดกับ Infinox ในประเทศไทย ต้องเสียภาษีอย่างไร?
กำไรจากการเทรดฟอเร็กซ์หรือ CFD กับ Infinox ถือเป็นรายได้ที่ต้องยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาต่อกรมสรรพากรไทย
โดยปกติ จัดเป็นเงินได้มาตรา 40(4)(ซ) คำนวณภาษีแบบก้าวหน้าพร้อมรายได้อื่น
กฎภาษีซับซ้อนและอาจเปลี่ยน แนะนำปรึกษานักบัญชีหรือผู้เชี่ยวชาญในไทยเพื่อให้ถูกต้อง
Infinox Copy Trade เหมาะกับใคร และมีกลยุทธ์อะไรที่น่าสนใจบ้าง?
IX Social Copy Trade ของ Infinox เหมาะสำหรับ
- นักเทรดมือใหม่: ที่ขาดประสบการณ์วิเคราะห์ตลาด
- ผู้ที่ไม่มีเวลา: อยากลงทุนแต่ไม่ติดตามตลาด
- ผู้ที่ต้องการกระจายความเสี่ยง: คัดลอกจากหลายเซียน
- ผู้ที่ต้องการเรียนรู้: ศึกษากลยุทธ์จากมือโปร
ใน IX Social คุณดูโปรไฟล์ Strategy Providers ได้ เช่น ผลตอบแทน ความเสี่ยง ผู้ติดตาม ประวัติเทรด และสไตล์ (Scalping, Swing, Trend) เลือกตามเป้าหมายด้วยเครื่องมือกรองของ Infinox
หากมีปัญหาในการใช้งาน Infinox สามารถขอความช่วยเหลือเป็นภาษาไทยได้หรือไม่?
Infinox สนับสนุนหลายภาษา รวมไทยในบางช่วง แต่ไม่ครบ 24 ชั่วโมง และอาจช้ากว่าภาษาอังกฤษ
ถ้าต้องการช่วยด่วน ใช้แชทหรืออีเมลภาษาอังกฤษจะเร็ว ถ้าไม่ถนัด ลองเครื่องแปลหรือติดต่อช่วงที่ support ไทยเปิด (เช็คเว็บไซต์)
