Buy Sell ทอง คืออะไร? คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับมือใหม่ในตลาดไทย

## บทนำ: Buy Sell ทอง คืออะไร? ทำไมต้องสนใจ?

ทองคำนับเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงและได้รับความชื่นชอบมาอย่างยาวนาน ไม่ใช่แค่ใช้เป็นเครื่องประดับเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการลงทุนและจัดการความเสี่ยง โดยเฉพาะในยุคที่เศรษฐกิจโลกเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ทองคำมักถูกมองว่าเป็นที่หลบภัยที่ช่วยรักษามูลค่าเงินทุนของคุณ ในประเทศไทย ทองคำยังคงเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมการออมและการวางแผนทางการเงินของคนไทยมาช้านาน การทำความเข้าใจพื้นฐานเรื่องการซื้อขายทองคำจึงเป็นก้าวแรกที่จำเป็นสำหรับใครก็ตามที่อยากเข้ามาในตลาดนี้

คนกำลังซื้อขายทองคำอย่างมั่นใจในตลาดดิจิทัล

บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจความหมายและกลไกของการซื้อขายทองคำอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นมุมมองของการลงทุนระยะยาวหรือการเทรดระยะสั้น เราจะแนะนำช่องทางการซื้อขายที่ได้รับความนิยมในไทย ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำ กลยุทธ์จัดการความเสี่ยง และเคล็ดลับหลีกเลี่ยงการถูกหลอก เพื่อให้คุณเริ่มต้นซื้อขายทองคำได้อย่างมั่นใจและฉลาดยิ่งขึ้น

แท่งทองและเหรียญทองเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจพร้อมองค์ประกอบวัฒนธรรมไทย

## ทำความเข้าใจ Buy Sell ทองคำ: ความหมายและกลไกพื้นฐาน

การซื้อขายทองคำ หรือที่เรียกกันว่าการซื้อและขายทอง เป็นกระบวนการที่นักลงทุนหรือผู้เทรดแลกเปลี่ยนทองคำกับเงินตรา โดยมุ่งหวังให้เกิดกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของราคา

ปุ่มซื้อและขายในอินเทอร์เฟซการเทรดพร้อมกราฟราคาทองคำที่ขึ้นลงและสัญลักษณ์กำไร

### Buy (ซื้อ): การเปิดสถานะและกลยุทธ์เข้าซื้อทอง

การซื้อทองคำหมายถึงการเปิดสถานะแบบถือยาว โดยคาดว่าราคาจะเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งจะช่วยให้คุณขายออกได้ในราคาที่สูงกว่าและรับกำไร นี่คือจุดเริ่มต้นในการเป็นเจ้าของทองคำ ไม่ว่าจะในรูปแบบจริงหรือผ่านระบบออนไลน์

กลยุทธ์การเข้าซื้อที่นิยมมีหลายแบบ เช่น การซื้อตอนราคาตกต่ำเพื่อรอการฟื้นตัว การซื้อเมื่อราคาทะลุระดับสูงเพื่อเก็งกำไรต่อเนื่อง หรือการทยอยซื้อเป็นประจำด้วยเงินจำนวนเท่าๆ กันเพื่อลดผลกระทบจากความผันผวน คุณสามารถซื้อทองได้ผ่านร้านทอง โบรกเกอร์ หรือธนาคารที่ให้บริการ

### Sell (ขาย): การปิดสถานะและกลยุทธ์การขายทองคำ

การขายทองคำคือการปิดสถานะ หรือบางครั้งคือการเปิดสถานะแบบขายก่อน โดยคาดว่าราคาจะลดลง เพื่อให้ซื้อคืนได้ในราคาที่ถูกลงและรับกำไรจากส่วนต่าง

กลยุทธ์การขายที่สำคัญ ได้แก่ การขายเมื่อถึงเป้าหมายกำไร การขายเพื่อจำกัดการขาดทุนเมื่อราคาเคลื่อนไหวผิดทาง หรือการขายเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากสินทรัพย์อื่นๆ การขายไม่จำเป็นต้องเพื่อกำไรเสมอไป แต่เป็นส่วนหนึ่งของการจัดการความเสี่ยงในการเทรดทองคำ

### สถานะ Long และ Short ในตลาดทองคำ (ขา Buy และ ขา Sell)

ในตลาดทองคำ โดยเฉพาะตลาดอนุพันธ์อย่างสัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำหรือตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราทองคำ คุณจะพบกับสถานะถือยาวและขายก่อน

สถานะถือยาวคือการซื้อสินทรัพย์โดยหวังว่าราคาจะขึ้น แล้วขายเพื่อกำไร ส่วนสถานะขายก่อนคือการขายสินทรัพย์ที่ยังไม่มี โดยหวังว่าราคาจะลง แล้วซื้อคืนในราคาถูกกว่า ซึ่งมักต้องยืมสินทรัพย์มาก่อน สถานะเหล่านี้เป็นพื้นฐานที่ต้องรู้ก่อนเทรด โดยเฉพาะเมื่อใช้เลเวอเรจที่เพิ่มทั้งโอกาสกำไรและความเสี่ยง

## ความแตกต่างระหว่าง “การลงทุนทองคำ” และ “การเทรดทองคำ”

แม้ทั้งสองจะเกี่ยวข้องกับการซื้อขายทองคำ แต่การลงทุนและการเทรดมีเป้าหมาย วิธีการ และระดับความเสี่ยงที่ต่างกันชัดเจน

### การลงทุนทองคำ (Gold Investment): เป้าหมายระยะยาว

การลงทุนทองคำมุ่งเน้นการถือครองในระยะยาว เพื่อรักษามูลค่า ป้องกันเงินเฟ้อ และเป็นที่หลบภัยในช่วงวิกฤต นักลงทุนมักเลือกทองคำแท่งหรือกองทุนทองคำ และถือไว้นานหลายปีโดยไม่สนใจความผันผวนระยะสั้น

ลักษณะเด่น ได้แก่ เป้าหมายรักษามูลค่าและป้องกันเงินเฟ้อ กรอบเวลายาวนาน เครื่องมืออย่างทองคำแท่ง ทองรูปพรรณ กองทุนทองคำ หรือกองทุนรวม ETF ทองคำ ความเสี่ยงต่ำกว่าเทรด แต่ยังมีโอกาสที่ราคาไม่ขึ้นตามคาด และต้องเข้าใจปัจจัยเศรษฐกิจใหญ่

### การเทรดทองคำ (Gold Trading): โอกาสทำกำไรระยะสั้น

การเทรดทองคำมุ่งสร้างกำไรจากความเคลื่อนไหวราคาในระยะสั้นถึงกลาง ผู้เทรดใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคและพื้นฐานเพื่อคาดการณ์ทิศทาง แล้วเข้าซื้อหรือขายเพื่อรับส่วนต่าง มักใช้เลเวอเรจเพื่อเพิ่มพลังซื้อขาย แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงตามไปด้วย

ลักษณะเด่น ได้แก่ เป้าหมายกำไรจากความผันผวน กรอบเวลาสั้นถึงกลาง เครื่องมืออย่างสัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำใน TFEX ทองคำออนไลน์ในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา หรือสัญญา CFD ทองคำ ความเสี่ยงสูงกว่าเนื่องจากเลเวอเรจและความผันผวน และต้องรู้การวิเคราะห์ทางเทคนิค พื้นฐาน และจัดการความเสี่ยง

### ตารางเปรียบเทียบ: ลงทุน vs เทรดทองคำ

| คุณสมบัติ | การลงทุนทองคำ (Gold Investment) | การเทรดทองคำ (Gold Trading) |
| :——– | :—————————— | :—————————- |
| **เป้าหมายหลัก** | รักษามูลค่า, ป้องกันเงินเฟ้อ | สร้างกำไรจากส่วนต่างราคา |
| **กรอบเวลา** | ระยะยาว (ปี) | ระยะสั้นถึงปานกลาง (วัน-เดือน) |
| **ความเสี่ยง** | ต่ำกว่า | สูงกว่า (มีการใช้เลเวอเรจ) |
| **เครื่องมือ** | ทองคำแท่ง, ทองรูปพรรณ, กองทุนทองคำ | Gold Futures, Forex Gold, CFDs |
| **ความรู้ที่เน้น** | ปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจ | การวิเคราะห์ทางเทคนิค, ปัจจัยพื้นฐาน |
| **การบริหารจัดการ** | ซื้อแล้วถือ (Buy and Hold) | Active Trading, เข้า-ออกบ่อย |
| **เหมาะสำหรับ** | ผู้ที่ต้องการความมั่นคง, ออมระยะยาว | ผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูง, มีเวลาติดตามตลาด |

## วิธีการซื้อขายทองคำในประเทศไทย: ช่องทางและแพลตฟอร์มยอดนิยม

ในไทยมีตัวเลือกการซื้อขายทองคำหลากหลาย เพื่อให้เหมาะกับความต้องการและระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ไม่ว่าจะเป็นแบบดั้งเดิมหรือออนไลน์

### ซื้อขายทองคำแท่ง/ทองรูปพรรณ (Physical Gold)

นี่คือวิธีที่คนไทยคุ้นเคยมากที่สุด คือการซื้อทองคำแท่งหรือทองรูปพรรณจากร้านทองโดยตรง

ร้านทองแบบดั้งเดิม เช่น ฮั่วเซ่งเฮง ออโรร่า หรือร้านอื่นๆ ในย่านเยาวราชซึ่งเป็นศูนย์กลางตลาดทองคำไทย ข้อดีคือได้ทองจริงที่จับต้องได้ รู้สึกปลอดภัย เหมาะสำหรับลงทุนระยะยาว แต่ต้องระวังค่ากำเหน็จสำหรับทองรูปพรรณ ค่าบล็อกสำหรับแท่งขนาดเล็ก การเก็บรักษาเอง และส่วนต่างราคาซื้อขายที่กว้างกว่าออนไลน์ บางร้านอนุญาตให้ซื้อแล้วฝากไว้กับร้านพร้อมใบรับรอง ซึ่งสะดวกและปลอดภัยกว่า

### ซื้อขายทองคำออนไลน์ผ่านธนาคาร (Online Gold via Banks)

ธนาคารหลายแห่งในไทยพัฒนาบริการออนไลน์สำหรับซื้อขายทองคำ เพื่อความสะดวกและปลอดภัย

ธนาคารกสิกรไทย มี Gold Wallet หรือ Gold Plus ที่ซื้อขายได้ 24 ชั่วโมง อ้างอิงราคาทองคำโลก และถอนเป็นแท่งจริงได้ตามเงื่อนไข CIMB Thai Bank มี Gold Save สำหรับลงทุนออนไลน์ ข้อดีคือสะดวก เข้าถึงผ่านแอป ราคาอ้างอิงตลาดโลก แต่ราคาซื้อขายอาจต่างกันตามธนาคาร และมีค่าธรรมเนียมบางส่วน

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการทองคำของธนาคารกสิกรไทย สามารถดูได้ที่ เว็บไซต์ธนาคารกสิกรไทย

### ซื้อขายทองคำผ่านโบรกเกอร์ (Gold Futures/Forex Gold)

สำหรับผู้ที่อยากเทรดระยะสั้นและรับความเสี่ยงสูง การใช้โบรกเกอร์ให้ตัวเลือกหลากหลาย เช่น สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำหรือทองคำในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา

Gold Futures ใน TFEX คือการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าโดยไม่ต้องถือทองจริง สามารถกำไรทั้งขาขึ้นและขาลง ใช้เลเวอเรจ โบรกเกอร์ยอดนิยมในไทย เช่น InnovestX YLG Globlex ข้อดีคือใช้เงินน้อย สภาพคล่องสูง แต่ความเสี่ยงสูงจากเลเวอเรจ ต้องรู้วิเคราะห์เทคนิคและจัดการความเสี่ยง

Forex Gold คือการเทรดทองในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราผ่านโบรกเกอร์ต่างประเทศหรือในประเทศที่ให้ CFD ทองออนไลน์ โบรกเกอร์ยอดนิยม เช่น ThinkMarkets XM Exness ข้อดีคือเลเวอเรจสูง ซื้อขาย 24 ชั่วโมง 5 วัน สภาพคล่องดี แต่ความเสี่ยงสูง โบรกเกอร์บางแห่งอาจไม่ได้รับการกำกับจาก ก.ล.ต. ไทย ควรเลือกที่เชื่อถือได้และกำกับโดยหน่วยงานสากล

## ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อราคา Buy Sell ทองคำ

ราคาทองคำไม่ได้เคลื่อนไหวแบบสุ่ม แต่ขึ้นอยู่กับปัจจัยเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ที่ซับซ้อน การรู้จักปัจจัยเหล่านี้ช่วยให้ตัดสินใจซื้อขายได้อย่างมีข้อมูลมากขึ้น

### ปัจจัยเศรษฐกิจมหภาค: อัตราดอกเบี้ย, เงินเฟ้อ, ค่าเงินดอลลาร์

อัตราดอกเบี้ยมีผลมาก เมื่อดอกเบี้ยจริงสูงขึ้น ทองคำซึ่งไม่มีผลตอบแทนดอกเบี้ยจะน่าสนใจน้อยลง นักลงทุนอาจหันไปสินทรัพย์อื่น แต่ถ้าดอกเบี้ยต่ำ ทองคำจะได้รับความนิยมมากกว่า

เงินเฟ้อทำให้ทองคำเป็นตัวป้องกันที่ดี เมื่อเงินเฟ้อสูง ค่าเงินอ่อน คนหันมาซื้อทองเพื่อรักษามูลค่า ส่งผลให้ราคาขึ้น

ค่าเงินดอลลาร์มักเคลื่อนไหวสวนทางกับทอง เพราะทองซื้อขายด้วยดอลลาร์ ถ้าดอลลาร์แข็ง ทองจะแพงสำหรับผู้ถือเงินอื่น ความต้องการลด ราคาก็ลง

### ปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์: สงคราม, วิกฤตการณ์

ความไม่แน่นอนทางการเมือง สงคราม ความขัดแย้งระหว่างประเทศ หรือวิกฤตเศรษฐกิจ ทำให้เกิดความเสี่ยง นักลงทุนจึงหันไปทองคำที่ปลอดภัย ส่งผลให้ราคาพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจากความต้องการที่เพิ่ม

### อุปสงค์และอุปทาน: การผลิต, ความต้องการบริโภค

เหมือนสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ราคาทองขึ้นกับอุปสงค์และอุปทาน

อุปทานมาจากการขุดเหมืองและรีไซเคิลทองเก่า ถ้าผลิตน้อยหรือมีข้อจำกัด ราคาอาจขึ้น

อุปทานมาจากเครื่องประดับ การลงทุนทั้งแท่งและกองทุน ภาคอุตสาหกรรม และธนาคารกลาง ถ้าความต้องการเพิ่ม ราคาก็สูงขึ้น

คุณสามารถติดตามข้อมูลราคาทองคำและบทวิเคราะห์ได้จาก เว็บไซต์ฮั่วเซ่งเฮง หรือแหล่งข่าวการเงินอื่นๆ

## กลยุทธ์การ Buy Sell ทองคำสำหรับมือใหม่ในตลาดไทย

สำหรับมือใหม่ในตลาดไทย การมีกลยุทธ์ชัดเจนและจัดการความเสี่ยงดีเป็นกุญแจสำคัญในการซื้อขายทองคำ

### การกำหนดเป้าหมายและวางแผนการเทรด/ลงทุน

ก่อนเริ่ม คุณควรกำหนดเป้าหมายและแผนให้ชัด

เงินทุนที่พร้อมลงทุนโดยไม่กระทบชีวิตประจำวัน ระยะเวลาที่ต้องการลงทุนหรือเทรด ผลตอบแทนที่คาดหวังและระดับความเสี่ยงที่ยอมรับ จุดทำกำไรและตัดขาดทุนเพื่อจำกัดความเสี่ยง

แผนชัดเจนช่วยให้ตัดสินใจด้วยวินัย ไม่ใช่ตามอารมณ์

### การวิเคราะห์แนวโน้มราคา: Technical vs Fundamental

นักลงทุนทองมักใช้การวิเคราะห์สองแบบควบคู่

การวิเคราะห์ทางเทคนิค ดูกราฟราคาอดีตและตัวชี้วัด เช่น แนวรับต้าน รูปแบบกราฟ ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ RSI MACD เหมาะสำหรับเทรดระยะสั้นกลาง

การวิเคราะห์พื้นฐาน ดูปัจจัยเศรษฐกิจใหญ่ ภูมิรัฐศาสตร์ อุปสงค์อุปทาน เหมาะสำหรับลงทุนยาว และยืนยันแนวโน้มจากเทคนิค

มือใหม่ควรเรียนรู้พื้นฐานทั้งสองเพื่อเห็นภาพรวมตลาดทอง

### การบริหารความเสี่ยง (Risk Management) ฉบับคนไทย

การจัดการความเสี่ยงเป็นหัวใจของการซื้อขายทอง ไม่ว่าจะลงทุนหรือเทรด

ตั้งจุดตัดขาดทุนเพื่อจำกัดความเสียหายและปฏิบัติตามเสมอ กระจายการลงทุนไปสินทรัพย์อื่น เช่น หุ้น กองทุน หรืออสังหาฯ เพื่อลดความเสี่ยงรวม ไม่ใช้เลเวอเรจเกินตัวใน Gold Futures หรือ Forex Gold เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกเรียกเติมเงิน และใช้เงินเย็นที่เสียได้โดยไม่กระทบชีวิต

คนไทยมักผูกพันกับทองในฐานะมรดกมั่นคง แต่ในการซื้อขายเพื่อกำไร ต้องแยกอารมณ์ส่วนตัวออกจาก quyết định

### ข้อควรระวังและหลีกเลี่ยงการถูกหลอกลวง

ในยุคดิจิทัล แพลตฟอร์มออนไลน์เพิ่มขึ้น แต่ก็มีโอกาสถูกหลอก

ตรวจสอบใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. ไทยหรือหน่วยงานสากลที่น่าเชื่อถือ ระวังข้อเสนอผลตอบแทนสูงเกินจริง เพราะการลงทุนทองมีความเสี่ยง ไม่มีกำไรแน่นอน ศึกษาข้อมูล รีวิว และเงื่อนไขให้ละเอียด และระวังมิจฉาชีพที่แอบอ้างเป็นโบรกเกอร์เพื่อหลอกโอนเงินหรือข้อมูล

การตรวจสอบละเอียดช่วยปกป้องเงินทุน เว็บไซต์สำนักงาน ก.ล.ต. เป็นแหล่งดีสำหรับตรวจผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาต

## บทสรุป: เริ่มต้น Buy Sell ทองคำอย่างมั่นใจ

การซื้อขายทองคือกุญแจสู่ตลาดทองคำ ซึ่งเป็นทั้งทางเลือกสำหรับลงทุนระยะยาวและเทรดระยะสั้น การเข้าใจพื้นฐาน กลไก และความต่างระหว่างลงทุนกับเทรดจำเป็นสำหรับมือใหม่

ในไทยมีช่องทางหลากหลาย จากร้านทองดั้งเดิม บริการธนาคารออนไลน์ ไปจนถึงโบรกเกอร์ในตลาดอนุพันธ์ เลือกให้เหมาะกับเป้าหมายและความเสี่ยงของคุณ

สำคัญคือศึกษาปัจจัยราคา วางกลยุทธ์ชัดเจน จัดการความเสี่ยงด้วยวินัย และระวังการถูกหลอกโดยใช้แพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือ

เริ่มต้นซื้อขายทองด้วยความรู้และรอบคอบ เพื่อให้ทองคำช่วยเสริมความมั่นคงและความมั่งคั่งในพอร์ตของคุณ

Buy Sell ทอง คืออะไรในบริบทของตลาดไทย?

ในตลาดไทย การซื้อขายทองคือการซื้อและขายทองคำเพื่อจุดประสงค์ต่างๆ เช่น ลงทุนยาวเพื่อออมและป้องกันเงินเฟ้อ หรือเก็งกำไรสั้นจากความผันผวนราคา ช่องทางยอดนิยม ได้แก่ ร้านทองทั่วไป ธนาคารที่ให้บริการทองออนไลน์ หรือโบรกเกอร์สำหรับเทรดสัญญาล่วงหน้าทองคำหรือทองในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา

ควรเริ่มต้นลงทุนทองคำ หรือเทรดทองคำก่อนดีสำหรับมือใหม่?

สำหรับมือใหม่ แนะนำเริ่มจากลงทุนทองคำระยะยาวก่อน เพราะเสี่ยงต่ำกว่า ไม่ต้องติดตามราคาบ่อย และไม่ต้องใช้ความรู้เทคนิคมาก สามารถเริ่มด้วยทองแท่งหรือกองทุนทอง แต่ถ้าคุณเข้าใจตลาด มีเวลาติดตาม และรับเสี่ยงสูง การเทรดทองก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ควรศึกษาละเอียดก่อน

แพลตฟอร์มไหนในไทยที่น่าเชื่อถือสำหรับการ Buy Sell ทองคำ?

แพลตฟอร์มเชื่อถือได้ในไทยมีหลายแบบ:

  • ร้านทอง: เช่น ฮั่วเซ่งเฮง, ออโรร่า (สำหรับซื้อทองแท่งหรือรูปพรรณจริง)
  • ธนาคาร: เช่น ธนาคารกสิกรไทย (Gold Wallet/Gold Plus), CIMB Thai (Gold Save) (สำหรับซื้อขายทองออนไลน์)
  • โบรกเกอร์ที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต.: เช่น InnovestX, YLG, Globlex (สำหรับเทรดสัญญาล่วงหน้าทองคำใน TFEX)

ควรตรวจใบอนุญาตและชื่อเสียงก่อนใช้เสมอ

มีความเสี่ยงอะไรบ้างที่ต้องรู้ก่อน Buy Sell ทองคำ?

ความเสี่ยงหลัก ได้แก่:

  • ความผันผวนของราคา: ราคาทองอาจลง ทำให้ขาดทุน
  • ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน: ถ้าซื้อขายอ้างอิงราคาต่างประเทศ
  • ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง: บางช่วงซื้อขายยาก
  • ความเสี่ยงจากเลเวอเรจ: สำหรับเทรดสัญญาล่วงหน้าหรือทองในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราที่อาจขาดทุนเกินทุนเริ่มต้น
  • ความเสี่ยงจากมิจฉาชีพ: แพลตฟอร์มปลอมหรือหลอกลวง

กำไรจากการ Buy Sell ทองคำต้องเสียภาษีในไทยอย่างไร?

โดยทั่วไป:

  • กำไรจากการซื้อขายทองแท่งหรือรูปพรรณจริง: ถ้าซื้อขายในประเทศโดยบุคคลธรรมดาและไม่ใช่ค้าขายโดยตรง มักไม่เสียภาษีกำไร เว้นแต่ปริมาณมากจนเข้าข่ายการค้า
  • กำไรจากการเทรดสัญญาล่วงหน้าทองคำใน TFEX: หักภาษี ณ ที่จ่าย 15%
  • กำไรจากการเทรดทองในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา: กำไรจากโบรกเกอร์ต่างประเทศอาจต้องนำมารวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ถ้านำเงินเข้ามาไทยในปีเดียวกันหรือปีถัดไป

แนะนำปรึกษาผู้เชี่ยวชาญภาษีเพื่อข้อมูลถูกต้องและอัปเดต

ราคา Buy กับ Sell ทองคำต่างกันอย่างไร? และทำไม?

ราคาซื้อ (ราคาที่ร้านหรือโบรกเกอร์ขายให้) สูงกว่าราคาขาย (ราคาที่รับซื้อคืน) เสมอ ความต่างนี้เรียกส่วนต่างราคาหรือ Bid-Ask Spread ซึ่งเป็นกำไรของร้านหรือโบรกเกอร์ รวมค่าดำเนินงาน ค่าขนส่ง ประกัน และความเสี่ยงจากการถือทอง

การซื้อทองคำแท่งที่ร้านทองแตกต่างจากการซื้อออนไลน์อย่างไร?

ความต่างหลัก:

  • การครอบครอง: ร้านทองได้ทองจริงกลับบ้าน ออนไลน์เป็นทองในบัญชี (แต่ถอนจริงได้ตามเงื่อนไข)
  • ความสะดวก: ออนไลน์ 24 ชม. ทุกที่ ร้านทองต้องไปในเวลาทำการ
  • ค่าใช้จ่าย: ร้านทองมีค่ากำเหน็จหรือบล็อก ออนไลน์มีค่าธรรมเนียมซื้อขายหรือถอน
  • สภาพคล่อง: ออนไลน์สูงกว่า ราคาเรียลไทม์จากตลาดโลก

จะดูอย่างไรว่าเมื่อไหร่ควร Buy หรือ Sell ทองคำ?

การตัดสินใจขึ้นกับกลยุทธ์ส่วนตัวและวิเคราะห์ตลาด:

  • เมื่อควรซื้อ: เมื่อปัจจัยพื้นฐานสนับสนุน เช่น เงินเฟ้อสูง ดอกเบี้ยต่ำ เศรษฐกิจไม่แน่นอน หรือวิเคราะห์เทคนิคชี้ว่าราคาที่แนวรับและมีโอกาสขึ้น
  • เมื่อควรขาย: เมื่อถึงเป้าหมายกำไร ปัจจัยพื้นฐานไม่ดี เช่น ดอกเบี้ยสูง เศรษฐกิจฟื้น หรือวิเคราะห์เทคนิคชี้ว่าราคาหลุดแนวรับและมีโอกาสลง

ควรศึกษาวิเคราะห์เทคนิคและพื้นฐานควบคู่

ศัพท์เทรดทองที่พบบ่อยมีอะไรบ้างที่ควรรู้?

ศัพท์สำคัญ:

  • Long/Short: ซื้อคาดราคาขึ้น/ขายคาดราคาลง
  • Bid/Ask Price: ราคาผู้ซื้อเสนอ/ผู้ขายเสนอ (ราคาซื้อ/ขาย)
  • Spread: ส่วนต่าง Bid กับ Ask
  • Leverage: อัตราทดให้เทรดมากกว่าทุนจริง
  • Margin Call: เรียกเติมเงินเมื่อพอร์ตใกล้หมด
  • Stop Loss/Take Profit: จุดตัดขาดทุน/ทำกำไร
  • Support/Resistance: แนวรับ/ต้านในกราฟราคา

การ Buy Sell ทองคำช่วยกระจายความเสี่ยงพอร์ตลงทุนได้อย่างไร?

ทองคำมักเคลื่อนไหวตรงข้ามกับสินทรัพย์อื่น เช่น หุ้น โดยเฉพาะช่วงเศรษฐกิจไม่แน่นอนหรือตลาดหุ้นผันผวน ราคาทองมักขึ้น การมีทองในพอร์ตช่วยลดความผันผวนรวม ถ้าสินทรัพย์อื่นลง ทองช่วยพยุงมูลค่า ทำให้พอร์ตมั่นคงและเสี่ยงน้อยลง

發佈留言

發佈留言必須填寫的電子郵件地址不會公開。 必填欄位標示為 *