บทนำ: ทำไมต้องรู้ศัพท์ Forex?
การก้าวสู่ตลาดเทรด Forex หรือการแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศนั้น คล้ายกับการเรียนภาษาใหม่ที่ต้องใช้คำศัพท์เฉพาะทาง หากคุณเข้าใจคำเหล่านี้มากขึ้น ก็จะช่วยให้คุณสื่อสาร วิเคราะห์สถานการณ์ และตัดสินใจลงทุนได้อย่างชาญฉลาดยิ่งกว่าเดิม สำหรับผู้เริ่มต้นใหม่ การทำความรู้จักกับศัพท์ Forex ถือเป็นขั้นตอนพื้นฐานที่ช่วยสร้างฐานความรู้ที่แข็งแกร่ง เพื่อให้กลายเป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จในระยะยาว ไม่ใช่แค่ท่องจำคำจำกัดความเท่านั้น แต่ต้องเข้าใจหลักการที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง เพื่อนำไปใช้ในการวางกลยุทธ์และจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในบทความนี้ เราจะพาคุณสำรวจคำศัพท์สำคัญต่างๆ ตั้งแต่ระดับพื้นฐานไปจนถึงแนวคิดขั้นสูง เช่น SMC Forex โดยเฉพาะมุมมองที่เหมาะสำหรับนักลงทุนชาวไทย เพื่อให้คุณรู้สึกมั่นใจและพร้อมลุยในตลาดการเงินโลก

หมวด 1: ศัพท์พื้นฐาน Forex ที่มือใหม่ควรรู้
สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้น การรู้จักคำศัพท์พื้นฐานเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้คุณสามารถอ่านกราฟราคา ตีความข่าวสาร และเริ่มเทรดโดยไม่รู้สึกงุนงง คำเหล่านี้เปรียบเสมือนหัวใจหลักที่ทุกเทรดเดอร์ต้องคุ้นเคย

คู่เงิน (Currency Pair) และสกุลเงินหลัก
ในตลาด Forex การซื้อขายจะเกิดขึ้นในรูปแบบคู่เงินเสมอ เช่น EUR/USD, GBP/JPY หรือ USD/THB แต่ละคู่ประกอบด้วยสองสกุลเงินหลัก คือสกุลเงินฐานซึ่งอยู่ด้านหน้า และสกุลเงินอ้างอิงซึ่งอยู่ด้านหลัง ตัวอย่างเช่น ในคู่ EUR/USD การซื้อคู่นี้หมายถึงคุณกำลังซื้อยูโรพร้อมขายดอลลาร์สหรัฐ โดยราคาที่แสดงคือจำนวนดอลลาร์ที่ต้องใช้แลก 1 ยูโร สกุลเงินยอดนิยมในการเทรด ได้แก่ USD (ดอลลาร์สหรัฐ), EUR (ยูโร), JPY (เยนญี่ปุ่น), GBP (ปอนด์สเตอร์ลิง), CHF (ฟรังก์สวิส), CAD (ดอลลาร์แคนาดา) และ AUD (ดอลลาร์ออสเตรเลีย) การเข้าใจคู่นี้ช่วยให้คุณติดตามความผันผวนของตลาดได้ดีขึ้น โดยเฉพาะคู่หลักที่เกี่ยวข้องกับเงินบาท
Bid, Ask และ Spread
เมื่อคุณพร้อมซื้อหรือขายคู่เงิน จะเจอราคา Bid และ Ask เสมอ ราคา Bid คือราคาที่โบรกเกอร์ยินดีซื้อสกุลเงินฐานจากคุณ หรือราคาที่คุณขายได้ ในขณะที่ราคา Ask คือราคาที่โบรกเกอร์ขายสกุลเงินฐานให้คุณ หรือราคาที่คุณซื้อได้ ส่วนต่างระหว่าง Ask กับ Bid เรียกว่า Spread ซึ่งเป็นค่าธรรมเนียมหลักในการเทรดและเป็นกำไรของโบรกเกอร์ โดยมักวัดด้วยหน่วย Pip ยิ่ง Spread แคบเท่าไหร่ ค่าใช้จ่ายของคุณก็ยิ่งต่ำลงเท่านั้น ตัวอย่างเช่น ถ้า Spread กว้างเกินไป อาจทำให้กำไรหายไปในแต่ละออเดอร์
Pip (จุด) และ Lot (ปริมาณการซื้อขาย)
Pip ย่อมาจาก Percentage in Point หมายถึงหน่วยการเปลี่ยนแปลงราคาเล็กๆ ที่สุดใน Forex สำหรับคู่เงินส่วนใหญ่ Pip อยู่ที่ตำแหน่งทศนิยมที่สี่ เช่น ถ้า EUR/USD เปลี่ยนจาก 1.1000 เป็น 1.1001 นั่นคือ Pip เดียว Lot คือหน่วยวัดขนาดการเทรด โดย 1 Standard Lot เท่ากับ 100,000 หน่วยของสกุลเงินฐาน มี Mini Lot (10,000 หน่วย) และ Micro Lot (1,000 หน่วย) ด้วย การคำนวณ Pip และ Lot สำคัญมากสำหรับการประเมินกำไรขาดทุน อย่างเช่น ถ้าคุณเทรด 1 Standard Lot ใน EUR/USD แล้วราคาขึ้น 10 Pip กำไรจะอยู่ที่ราว 100 ดอลลาร์ (10 Pip x 10 ดอลลาร์ต่อ Pip ต่อ Lot) ซึ่งช่วยให้คุณวางแผนขนาดพอร์ตได้อย่างแม่นยำ
Leverage (เลเวอเรจ) และ Margin (มาร์จิ้น)
Leverage คือเครื่องมือที่ขยายกำลังซื้อของคุณ ให้ควบคุมการเทรดขนาดใหญ่ด้วยเงินทุนน้อย เช่น Leverage 1:500 หมายถึงเงิน 1 ดอลลาร์ของคุณควบคุมได้ถึง 500 ดอลลาร์ แม้จะเพิ่มโอกาสกำไร แต่ก็เสี่ยงขาดทุนหนักเช่นกัน Margin คือเงินมัดจำที่ต้องฝากกับโบรกเกอร์เพื่อเปิดออเดอร์ โดยขึ้นกับ Leverage ที่เลือก ยิ่ง Leverage สูง Margin ยิ่งน้อย การจัดการ Margin ดีๆ จะป้องกันไม่ให้เกิด Margin Call หรือการล้างพอร์ต ซึ่งเป็นปัญหาที่มือใหม่มักเจอ โดยเฉพาะในตลาดผันผวน
Stop Loss (SL) และ Take Profit (TP)
Stop Loss หรือ SL คือคำสั่งปิดออเดอร์อัตโนมัติเมื่อราคาเคลื่อนสวนทางถึงจุดที่กำหนด เพื่อจำกัดการขาดทุนให้อยู่ในระดับที่รับไหว Take Profit หรือ TP คือคำสั่งปิดเมื่อราคาไปถึงเป้ากำไรที่ตั้งไว้ เครื่องมือทั้งคู่นี้ช่วยให้คุณเทรดด้วยวินัย โดยไม่ปล่อยให้อารมณ์มาควบคุม เช่น ถ้าคุณตั้ง SL ที่ 50 Pip จากจุดเข้า คุณจะไม่เสียเกินนั้นแม้ตลาดจะพลิกผันกะทันหัน
หมวด 2: ศัพท์เกี่ยวกับการซื้อขายและกลยุทธ์
หลังจากพื้นฐานแล้ว เทรดเดอร์ยังควรรู้จักคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการเทรดและกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อวิเคราะห์และลงมือได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

Long Position (ซื้อ) และ Short Position (ขาย)
Long Position คือการเปิดออเดอร์ซื้อเมื่อคาดว่าราคาจะขึ้น เพื่อเอากำไรจากส่วนต่างราคา ในทางตรงข้าม Short Position คือการขายเมื่อคาดว่าราคาจะลง เพื่อกำไรตอนราคาตกต่ำกว่า การ Short Selling เป็นจุดเด่นของ Forex ที่ให้เทรดเดอร์ทำเงินได้ทั้งตลาดขึ้นและลง ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณ Long EUR/USD แล้วราคาขึ้นจาก 1.1000 เป็น 1.1050 คุณก็ได้กำไร 50 Pip
Hedging (เฮดจิ้ง) และ Swap (ค่าธรรมเนียมข้ามคืน)
Hedging คือกลยุทธ์ลดความเสี่ยงโดยเปิดออเดอร์ตรงข้ามกับตำแหน่งเดิม เช่น ถ้าคุณ Long EUR/USD แล้วกลัวราคาลง ก็ Short คู่นั้นเพื่อคุมความเสียหาย Swap คือค่าดอกเบี้ยที่โบรกเกอร์เรียกหรือจ่ายเมื่อถือออเดอร์ข้ามคืน (หลัง 17:00 น. เวลานิวยอร์ก) โดยขึ้นกับดอกเบี้ยต่างกันระหว่างสกุลเงินและทิศทางออเดอร์ ถ้า Swap ลบ อาจกินกำไรคุณได้ถ้าถือยาว
Fundamental Analysis (FA) และ Technical Analysis (TA)
Fundamental Analysis หรือ FA คือการดูปัจจัยเศรษฐกิจ การเมือง สังคมที่กระทบค่าเงิน เช่น ดอกเบี้ย เงินเฟ้อ GDP การจ้างงาน หรือนโยบายธนาคารกลาง เพื่อพยากรณ์แนวโน้มยาว ส่วน Technical Analysis หรือ TA คือการศึกษากราฟราคาอดีตด้วยเครื่องมืออย่าง Moving Average, RSI, MACD เพื่อหาแพทเทิร์นและสัญญาณเข้า-ออก โดยสมมติว่าประวัติศาสตร์ซ้ำรอย หลายคนผสมทั้งสองวิธีเพื่อตัดสินใจที่รอบคอบ เช่น ใช้ FA ดูข่าวใหญ่ แล้ว TA หาจุดเข้าเทรด
หมวด 3: ศัพท์เฉพาะทางสำหรับเทรดเดอร์ไทยและ SMC Forex
เพื่อให้เนื้อหาโดดเด่นและมีประโยชน์สำหรับนักลงทุนไทย เราจะโฟกัสคำศัพท์ที่ใช้บ่อยในบริบทไทย รวมถึงแนะนำแนวคิดขั้นสูงอย่าง SMC Forex ที่กำลังได้รับความนิยม
ตัวย่อ Forex ที่พบบ่อย
ในแวดวง Forex มีตัวย่อมากมายที่ช่วยสื่อสารเร็วๆ ทั้งระดับโลกและในกลุ่มเทรดเดอร์ไทย การรู้จักจะทำให้คุณตามบทสนทนาและข่าวได้คล่องแคล่ว:
- NFP: Non-Farm Payrolls (ตัวเลขจ้างงานนอกเกษตรสหรัฐ)
- CPI: Consumer Price Index (ดัชนีราคาผู้บริโภค วัดเงินเฟ้อ)
- FOMC: Federal Open Market Committee (คณะกรรมการนโยบายการเงินเฟดสหรัฐ)
- BoJ/ECB/Fed: ธนาคารกลางญี่ปุ่น/ยุโรป/สหรัฐ ตามลำดับ
- EA: Expert Advisor (โปรแกรมเทรดอัตโนมัติ)
- TP/SL: Take Profit / Stop Loss
- MM: Money Management (บริหารเงินทุน)
- SL Hit: Stop Loss ถูกโดน (ขาดทุนตามแผน)
- TP Hit: Take Profit ถูกโดน (กำไรตามแผน)
- ล้างพอร์ต: คำไทยที่หมายถึงออเดอร์ทั้งหมดถูกปิดอัตโนมัติเพราะ Margin ไม่พอ ส่งผลขาดทุนหนักหรือเงินหายหมด
- เทรดทอง: การเทรด XAU/USD หรือทองคำ vs ดอลลาร์สหรัฐ ที่ฮิตมากในไทยเพราะความผันผวนสูง
ตัวย่อเหล่านี้ช่วยให้คุณไม่พลาดข้อมูลสำคัญ เช่น NFP มักทำให้ตลาดปั่นป่วนมาก
แนะนำคำศัพท์ SMC Forex (Smart Money Concept)
SMC หรือ Smart Money Concept คือแนวคิดที่มุ่งติดตามการเคลื่อนไหวของเงินทุนใหญ่จากสถาบันหรือธนาคารที่ขับเคลื่อนตลาด คำศัพท์หลักใน SMC ได้แก่:
- Order Block (OB): โซนราคาที่สถาบันเปิดออเดอร์ใหญ่ มักเป็นจุดพลิกกลับสำคัญของราคา
- Liquidity (สภาพคล่อง): พื้นที่ที่มีออเดอร์รอเยอะ ซึ่ง Smart Money มักกวาดเพื่อสะสมตำแหน่ง
- Imbalance (Inefficiency/FVG – Fair Value Gap): ช่องว่างราคาจากการเคลื่อนไหวรุนแรงที่ไม่สมดุล มักถูกเติมในภายหลัง
- Market Structure Break (MSB): การทะลุโครงสร้างตลาดเดิม เช่น ทำจุดสูงใหม่ในเทรนด์ขึ้น แสดงถึงแนวโน้มต่อเนื่อง
- Change of Character (ChoCH): การเปลี่ยนโครงสร้างตลาดใหญ่ บ่งบอกการกลับตัวของเทรนด์ระยะสั้น-กลาง
- Inducement (IDM): การยั่วให้เทรดเดอร์เล็กเข้าตลาดผิดทาง ก่อน Smart Money ดันราคาไปอีกทิศ
SMC ช่วยให้เทรดเดอร์ไทยมองตลาดลึกขึ้น โดยเฉพาะในคู่เงินหลักที่สถาบันเล่นหนัก
หมวด 4: แพลตฟอร์มและผู้ให้บริการ
การเลือกแพลตฟอร์มและโบรกเกอร์ที่เหมาะสมเป็นกุญแจสำคัญในการเทรด Forex การเข้าใจคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องจะช่วยให้คุณเลือกได้อย่างมีสติ
Broker (โบรกเกอร์) และประเภทของโบรกเกอร์
โบรกเกอร์คือตัวกลางที่เชื่อมคุณกับตลาด Forex โดยจัดการออเดอร์และให้แพลตฟอร์มเทรด ประเภทหลักๆ มี:
- STP (Straight Through Processing) Broker: ส่งออเดอร์ตรงไปยังผู้ให้สภาพคล่อง ไม่มีโต๊ะเทรด (No Dealing Desk)
- ECN (Electronic Communication Network) Broker: คล้าย STP แต่เชื่อมเครือข่ายสภาพคล่องกว้าง ให้ราคาดีจากหลายแหล่ง
- Market Maker Broker: สร้างสภาพคล่องเอง เป็นคู่สัญญากับคุณ อาจมีโต๊ะเทรดและผลประโยชน์ขัดแย้งบ้าง
สำคัญมากที่ต้องเลือกโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาตจากหน่วยงานน่าเชื่อถือ เพื่อปกป้องเงินทุน ในไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เป็นหน่วยงานกำกับตลาดทุน แต่ยังไม่มีโบรกเกอร์ Forex ใดได้ใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. สำหรับรายย่อย ดังนั้นคนไทยมักใช้โบรกเกอร์ต่างชาติที่กำกับโดย CySEC (ไซปรัส), FCA (อังกฤษ) หรือ ASIC (ออสเตรเลีย) ซึ่งควรตรวจสอบให้ดีก่อนฝากเงิน
MetaTrader (MT4/MT5) และศัพท์ที่เกี่ยวข้อง
MetaTrader เป็นแพลตฟอร์มยอดฮิตใน Forex มีสองรุ่นหลัก: MT4 และ MT5
- MT4: เน้น Forex ใช้งานง่าย เสถียร มี EA และ Indicator เยอะ
- MT5: รุ่นใหม่ รองรับสินทรัพย์หลากหลาย (Forex, หุ้น, สินค้า) และเครื่องมือวิเคราะห์ซับซ้อนกว่า
คำศัพท์ที่เกี่ยวข้อง:
- Expert Advisor (EA): โปรแกรมเทรดอัตโนมัติตามกลยุทธ์ที่ตั้ง
- Indicator: เครื่องมือวิเคราะห์กราฟเพื่อหาเทรนด์หรือสัญญาณ
- Chart: กราฟราคาที่แสดงการเคลื่อนไหวคู่เงินใน timeframe ต่างๆ
- Terminal: หน้าต่างแสดงบัญชี ประวัติเทรด และออเดอร์เปิด
MT4/MT5 ช่วยให้เทรดเดอร์ไทยเข้าถึงตลาดได้สะดวก โดยเฉพาะ EA ที่ลดงาน manual
บทสรุป: การประยุกต์ใช้ศัพท์ Forex ในการเทรดจริง
การศึกษาศัพท์ Forex ไม่ใช่แค่จำคำ แต่คือการเข้าใจกลไกตลาด การควบคุมความเสี่ยง และการตัดสินใจที่สมเหตุสมผล เมื่อคุณชำนาญตั้งแต่ Pip, Lot, Leverage, Margin จนถึงกลยุทธ์ขั้นสูงอย่าง SMC Forex คุณจะอ่านข่าว วิเคราะห์กราฟ และพูดคุยกับเทรดเดอร์อื่นได้อย่างคล่องแคล่ว การนำไปใช้จริงจะช่วยวางแผนเทรดรอบคอบ ตั้ง SL/TP ที่เหมาะสม และเลือกโบรกเกอร์ปลอดภัย บทความนี้ตั้งใจเป็นคู่มือครบครันสำหรับนักลงทุนไทยในการเริ่มต้น Forex ขอให้ทุกคนเทรดสำเร็จและพัฒนาฝีมือต่อไป
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับศัพท์ Forex (FAQs)
ศัพท์ Forex ที่สำคัญที่สุดสำหรับมือใหม่มีอะไรบ้าง?
สำหรับมือใหม่ ศัพท์ที่สำคัญที่สุดได้แก่ คู่เงิน (Currency Pair), Pip, Lot, Bid, Ask, Spread, Leverage, Margin, Stop Loss (SL) และ Take Profit (TP) การทำความเข้าใจคำเหล่านี้จะช่วยให้คุณเข้าใจพื้นฐานการเทรดและบริหารความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม
การเทรด Forex ในประเทศไทยถูกกฎหมายหรือไม่ และมีหน่วยงานใดกำกับดูแล?
ในประเทศไทย ยังไม่มีกฎหมายเฉพาะที่รองรับการเทรด Forex สำหรับรายย่อยโดยตรง และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ยังไม่มีการออกใบอนุญาตให้กับโบรกเกอร์ Forex รายใดให้ดำเนินการในประเทศ ดังนั้น นักลงทุนไทยส่วนใหญ่จึงเลือกใช้บริการโบรกเกอร์ต่างประเทศที่ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานในประเทศอื่น ๆ เช่น FCA, ASIC, CySEC ซึ่งเป็นสิ่งที่นักลงทุนควรศึกษาและรับความเสี่ยงด้วยตนเอง
คำว่า “ล้างพอร์ต” ใน Forex หมายถึงอะไร และจะป้องกันได้อย่างไร?
“ล้างพอร์ต” เป็นคำที่นักเทรดไทยใช้ หมายถึงสถานะการซื้อขายทั้งหมดในบัญชีถูกปิดโดยอัตโนมัติ (Margin Call/Stop Out) เนื่องจากเงิน Margin ในบัญชีไม่เพียงพอที่จะรักษาสถานะที่เปิดอยู่ไว้ได้ ซึ่งมักจะนำไปสู่การขาดทุนจำนวนมากหรือหมดเงินทุน การป้องกันทำได้โดยการบริหารจัดการเงินทุนที่ดี (Money Management), การใช้ Leverage อย่างระมัดระวัง, การตั้งค่า Stop Loss ทุกครั้ง และไม่เปิดสถานะการซื้อขายที่ใหญ่เกินกว่าเงินทุนที่มี
โบรกเกอร์ Forex ที่ปลอดภัยและน่าเชื่อถือสำหรับนักลงทุนไทยควรเลือกอย่างไร?
ควรเลือกโบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานที่มีชื่อเสียงในต่างประเทศ (เช่น FCA, ASIC, CySEC), มีประวัติการดำเนินงานที่ดี, มีความโปร่งใสในเรื่องค่าธรรมเนียมและ Spread, มีระบบฝาก-ถอนที่รวดเร็วและน่าเชื่อถือ, และมีฝ่ายบริการลูกค้าที่สามารถช่วยเหลือได้ดี การอ่านรีวิวและเปรียบเทียบข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ก็เป็นสิ่งสำคัญ
ศัพท์ SMC Forex คืออะไร และแตกต่างจากกลยุทธ์อื่นอย่างไร?
SMC Forex (Smart Money Concept) คือแนวคิดการเทรดที่เน้นการทำความเข้าใจและตามรอยการเคลื่อนไหวของสถาบันการเงินหรือธนาคารขนาดใหญ่ (Smart Money) ซึ่งแตกต่างจากกลยุทธ์ทั่วไปที่เน้น Indicator หรือรูปแบบกราฟแบบดั้งเดิม SMC จะมองหาจุดที่สถาบันเข้าซื้อขาย (Order Block), บริเวณที่มีสภาพคล่องสูง (Liquidity), และการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างตลาด (Market Structure Break, ChoCH) เพื่อหาจุดเข้าและออกที่แม่นยำยิ่งขึ้น
การใช้ Leverage สูงมีความเสี่ยงอย่างไร และมีผลกับ Margin อย่างไรบ้าง?
การใช้ Leverage สูงช่วยให้คุณสามารถควบคุมปริมาณการซื้อขายที่ใหญ่ขึ้นด้วยเงินทุนที่น้อยลง ซึ่งเพิ่มโอกาสในการทำกำไรอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกันก็เพิ่มความเสี่ยงในการขาดทุนอย่างมากเช่นกัน หากตลาดเคลื่อนไหวสวนทางกับที่คุณคาดการณ์ไปเพียงเล็กน้อย เงินทุนของคุณอาจหมดลงอย่างรวดเร็ว (ล้างพอร์ต) Leverage สูงจะทำให้เงิน Margin ที่ต้องใช้ในการเปิดสถานะลดลง ซึ่งอาจดูเหมือนดี แต่ก็หมายความว่าบัญชีของคุณจะทนต่อการขาดทุนได้น้อยลงเช่นกัน
นอกจากคู่เงินแล้ว มีสินทรัพย์อะไรอีกบ้างที่สามารถเทรดในตลาด Forex ได้?
แม้ชื่อจะบ่งบอกว่าเป็นตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา แต่โบรกเกอร์ Forex ส่วนใหญ่ยังเปิดให้เทรดสินทรัพย์อื่นๆ ได้ด้วยผ่านสัญญา CFD (Contract for Difference) เช่น ทองคำ (XAU/USD), น้ำมัน, ดัชนีหุ้นต่างประเทศ (เช่น US30, S&P500), และสกุลเงินดิจิทัลบางสกุล (เช่น BTC/USD) การเทรดสินทรัพย์เหล่านี้ก็ใช้หลักการและคำศัพท์พื้นฐาน Forex หลายอย่างร่วมกัน
ควรเริ่มต้นเรียนรู้ศัพท์ Forex จากแหล่งข้อมูลใดที่น่าเชื่อถือในภาษาไทย?
คุณสามารถเริ่มต้นจากเว็บไซต์ให้ความรู้ด้านการเงินที่น่าเชื่อถือ, ช่อง YouTube ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการเทรด Forex, หรือกลุ่มชุมชนออนไลน์ของนักเทรดไทยที่มีการแบ่งปันความรู้ ควรเลือกแหล่งข้อมูลที่มีความชัดเจน เป็นกลาง และมีการอ้างอิงข้อมูลที่ถูกต้อง นอกจากนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) ก็เป็นแหล่งข้อมูลสำคัญสำหรับอัตราแลกเปลี่ยนและนโยบายเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อค่าเงินบาท
ทำไมบางโบรกเกอร์ถึงไม่มีคู่เงิน USD/THB ให้เทรด?
คู่เงิน USD/THB (ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเงินบาทไทย) เป็นคู่เงินที่มีสภาพคล่องต่ำเมื่อเทียบกับคู่เงินหลักอื่นๆ (Major Pairs) และบางประเทศมีการควบคุมการซื้อขายสกุลเงินท้องถิ่นอย่างเข้มงวด ทำให้โบรกเกอร์ต่างประเทศหลายรายไม่สามารถเสนอคู่เงินนี้ให้เทรดได้โดยตรง เนื่องจากอาจติดข้อจำกัดด้านกฎระเบียบหรือสภาพคล่องในตลาด
ตัวย่อ Forex ที่นักเทรดไทยมักใช้มีอะไรบ้าง?
นอกจากตัวย่อสากลแล้ว นักเทรดไทยยังมีคำศัพท์และตัวย่อเฉพาะกลุ่ม เช่น “SL” (Stop Loss), “TP” (Take Profit), “MM” (Money Management), “EA” (Expert Advisor), “ติดดอย” (หมายถึงติดสถานะขาดทุนจำนวนมากและราคาไม่กลับมา), “ล้างพอร์ต” (Margin Call), “วิ่ง” (ราคาวิ่งไปในทิศทางที่รวดเร็ว), และ “เทรดทอง” (เทรด XAU/USD)