การสอบกองทุน Forex: ทบทวนทุกขั้นตอนที่นักเทรดต้องรู้

Table of Contents

สอบกองทุน Forex คืออะไร? เหตุผลที่เทรดเดอร์ทั่วโลกแห่เข้าร่วม

ในโลกของการเทรด Forex ความสามารถในการวิเคราะห์ตลาด จังหวะเวลา และกลยุทธ์ที่แม่นยำ คือสิ่งที่เทรดเดอร์ทุกคนปรารถนา แต่หลายคนที่มีทักษะดีเยี่ยม กลับติดอยู่กับกำแพงเดียวกัน: “ทุนน้อย” การมีบัญชีขนาดเล็กไม่เพียงทำให้กำไรจำกัด แต่ยังบีบให้ต้องใช้เลเวอเรจสูงเกินไปเพื่อหวังผลตอบแทน ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงจนอาจทำให้ล้างพอร์ตได้ในพริบตา นี่คือจุดที่ “การสอบกองทุน Forex” เข้ามามีบทบาทสำคัญในฐานะทางลัดสำหรับเทรดเดอร์ที่อยากก้าวสู่ระดับมืออาชีพ

นักเทรด Forex วิเคราะห์กราฟหน้าจอเต็มไปด้วยข้อมูลการเทรด

การสอบกองทุน Forex หรือที่เรียกอีกอย่างว่า Evaluation คือกระบวนการคัดเลือกเทรดเดอร์จากบริษัทเทรดส่วนตัว (Proprietary Trading Firm หรือ Prop Firm) ซึ่งบริษัทเหล่านี้จะให้โอกาสนักเทรดทั่วโลกได้พิสูจน์ฝีมือผ่านบัญชีเดโมภายใต้เงื่อนไขที่เข้มงวด หากผ่านเกณฑ์ก็จะได้รับเงินทุนจริง ตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลายแสนดอลลาร์ เพื่อใช้ในการเทรดอย่างเต็มตัว โดยไม่ต้องใช้เงินตัวเอง

โมเดลนี้ถือเป็นข้อตกลงที่ให้ผลดีทั้งสองฝ่าย เทรดเดอร์ที่ผ่านการประเมินจะกลายเป็น Funded Trader ได้โอกาสเทรดด้วยทุนก้อนใหญ่โดยความเสี่ยงหลักมีเพียงค่าสมัครสอบเท่านั้น ส่วนบริษัทก็ได้ผู้มีวินัยและทักษะมาช่วยสร้างกำไรให้กับพอร์ตของตน โดยมีการแบ่งผลกำไรตามสัดส่วนที่ตกลงกันไว้ ซึ่งโดยทั่วไปเทรดเดอร์จะได้รับส่วนแบ่ง 70–90% ขึ้นอยู่กับผลงานและความสามารถในการเติบโต

ด้วยข้อได้เปรียบนี้ การสอบกองทุนจึงกลายเป็นเส้นทางที่น่าสนใจสำหรับเทรดเดอร์ที่มีฝีมือแต่ขาดทรัพยากร ช่วยให้พวกเขาสามารถขยายพอร์ต สร้างรายได้ประจำ และอาจก้าวสู่การเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพได้เร็วกว่าการสะสมทุนด้วยตัวเอง

ขั้นตอนการสอบกองทุน Forex ผ่านกี่ด่าน? ระบบการประเมินเป็นอย่างไร

แม้แต่ละ Prop Firm จะมีรายละเอียดที่แตกต่างกันเล็กน้อย แต่โครงสร้างหลักของกระบวนการสอบมักคล้ายคลึงกัน โดยแบ่งเป็นสองขั้นตอน เพื่อประเมินทั้งความสามารถในการทำกำไรและวินัยในการบริหารความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง

ด่านที่ 1: The Challenge (ด่านพิสูจน์ศักยภาพ)

ด่านนี้คือการทดสอบว่าคุณมีระบบเทรดที่สามารถทำกำไรได้จริงในสภาวะตลาดปกติ โดยมีระยะเวลาจำกัด ซึ่งส่วนใหญ่กำหนดไว้ที่ 30 วัน

  • เป้าหมายกำไร (Profit Target): ต้องทำกำไรได้ตามเป้าหมายที่กำหนด เช่น 8–10% ของขนาดบัญชี หากสมัครสอบบัญชี $100,000 จะต้องทำกำไรให้ได้ $8,000–$10,000
  • ขาดทุนสะสมสูงสุด (Maximum Drawdown): ห้ามให้ยอดพอร์ตลดลงเกินกว่า 10–12% ของทุนเริ่มต้น ตัวอย่างเช่น บัญชี $100,000 ที่มี Max Drawdown 10% จะไม่สามารถต่ำกว่า $90,000 ได้ หากแตะหรือต่ำกว่า บัญชีจะถูกปิดทันที
  • ขาดทุนสูงสุดต่อวัน (Daily Drawdown): ข้อจำกัดนี้เข้มงวดที่สุด โดยทั่วไปอยู่ที่ 5% ต่อวัน หากในวันใดวันหนึ่งพอร์ตเสียหายเกินกว่านี้ แม้เพียงชั่วครู่ ก็จะถือว่าสอบตก
  • จำนวนวันเทรดขั้นต่ำ (Minimum Trading Days): เพื่อป้องกันการใช้โชค เช่น เปิดออเดอร์ครั้งเดียวแล้วได้กำไรมหาศาล บางกองทุนจึงกำหนดให้ต้องมีประวัติการเทรดอย่างน้อย 5–10 วัน จึงจะถือว่าผ่าน

ด่านที่ 2: The Verification (ด่านพิสูจน์ความสม่ำเสมอ)

เมื่อผ่านด่านแรกแล้ว ด่านที่สองจะเน้นที่ความต่อเนื่องของผลการเทรด แม้เป้าหมายกำไรจะลดลง แต่กฎเรื่องการขาดทุนยังคงเหมือนเดิม เพื่อทดสอบว่าความสำเร็จในด่านแรกไม่ได้เกิดจากโชค

  • เป้าหมายกำไร: มักลดลงเหลือเพียง 4–5% ของขนาดบัญชี
  • กฎการขาดทุน: Maximum Drawdown และ Daily Drawdown ยังคงใช้เหมือนด่านแรก
  • ระยะเวลา: มักให้เวลา 60 วัน เพื่อให้เทรดเดอร์สามารถเทรดตามแผนโดยไม่เร่งรีบ

หากผ่านทั้งสองด่านอย่างสมบูรณ์ คุณจะได้รับสถานะ Funded Trader พร้อมบัญชีจริงที่เติมเงินทุนให้ตามขนาดที่ผ่านการประเมิน และเริ่มรับส่วนแบ่งกำไรได้ทันที

กฎเหล็กที่ต้องรู้ก่อนสอบกองทุน Forex

ความล้มเหลวในการสอบส่วนใหญ่ไม่ใช่เพราะขาดทักษะ แต่เป็นผลมาจากการทำผิดกฎที่ดูเล็กน้อยแต่มีน้ำหนักมาก การเข้าใจเงื่อนไขอย่างละเอียดจึงเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้คุณสามารถผ่านการประเมินได้

เป้าหมายกำไร (Profit Target)

นี่คือเป้าหมายที่คุณต้องบรรลุในแต่ละเฟส แต่อย่าตีความว่าต้องทำให้เร็วที่สุด ความเร่งรีบมักนำไปสู่การรับความเสี่ยงสูงเกินไป การค่อย ๆ สะสมกำไรด้วยกลยุทธ์ที่มั่นคงจะช่วยรักษาเสถียรภาพของพอร์ตและลดโอกาสทำผิดกฎอื่น ๆ

ขาดทุนสะสมสูงสุด (Maximum Drawdown)

กฎนี้เป็นเกราะป้องกันความเสี่ยงของกองทุน โดยจะจำกัดการขาดทุนรวมตลอดระยะเวลาการสอบ เช่น บัญชี $100,000 ที่มี Max Drawdown 10% จะไม่สามารถต่ำกว่า $90,000 ได้ตลอดช่วงการประเมิน หากแตะระดับนี้ แม้เพียงวินาทีเดียว บัญชีจะถูกปิดทันที

ขาดทุนสูงสุดต่อวัน (Daily Drawdown)

นี่คือ “ข้อผิดพลาดยอดฮิต” ที่ทำให้เทรดเดอร์หลายคนสอบตก โดยเฉพาะผู้ที่ใช้กลยุทธ์ Scalping หรือ News Trading การคำนวณอาจยึดจาก Balance ตอนเริ่มวัน หรือจาก Equity ที่รวม Floating Loss ด้วย ดังนั้นต้องตั้ง Stop Loss อย่างรัดกุม และหลีกเลี่ยงการถือออเดอร์ที่อาจลอยขาดทุนจนเกินขีดจำกัด แหล่งข้อมูลอย่าง BabyPips เน้นย้ำว่าการตั้งขีดจำกัดรายวันคือหัวใจของวินัยการเทรด

จำนวนวันเทรดขั้นต่ำ (Minimum Trading Days)

กฎนี้มีไว้เพื่อป้องกันการใช้โชคหรือกลยุทธ์เสี่ยงสูงเพียงครั้งเดียว แล้วได้กำไรแล้วหยุดเทรด บริษัทต้องการเห็นว่าคุณสามารถมีส่วนร่วมในตลาดอย่างต่อเนื่อง แม้จะเปิด Lot เล็ก ๆ ก็ตาม

ข้อจำกัดอื่น ๆ ที่ต้องระวัง

แต่ละกองทุนมีนโยบายที่แตกต่างกัน บางแห่งห้ามเทรดช่วงข่าวเศรษฐกิจที่มีความผันผวนสูง (High-Impact News) บางแห่งอนุญาตหรือจำกัดการใช้ EA (Expert Advisor) และบางแห่งอาจมีข้อห้ามเรื่องการถือออเดอร์ข้ามคืนหรือข้ามสัปดาห์ การอ่าน Terms & Conditions อย่างละเอียดก่อนจ่ายเงินจึงเป็นสิ่งจำเป็น

ข้อดีและข้อเสียของการสอบกองทุน Forex ที่ควรพิจารณา

การเข้าร่วมกับ Prop Firm เป็นโอกาสที่ดี แต่ก็ไม่ใช่คำตอบสำหรับทุกคน การตัดสินใจควรมาจากการประเมินทั้งข้อดีและข้อเสียอย่างรอบด้าน

ข้อดี (Pros)

  • เข้าถึงทุนก้อนใหญ่: ได้เทรดด้วยเงินทุนที่ใหญ่กว่าทุนตัวเองหลายเท่า ทำให้แม้กำไรต่อเดือนจะเพียง 5% ก็กลายเป็นรายได้ที่มีนัยสำคัญ
  • ส่วนแบ่งกำไรสูง: โดยทั่วไปได้รับ 70–80% ของกำไร และหากทำผลงานดีต่อเนื่อง อาจได้สูงถึง 90–100% ผ่านโปรแกรม Scaling Plan
  • ฝึกวินัยการเทรด: กฎเกณฑ์ที่เข้มงวดบังคับให้คุณต้องวางแผนบริหารความเสี่ยงอย่างรัดกุม ซึ่งเป็นทักษะหลักของเทรดเดอร์มืออาชีพ
  • ความเสี่ยงจำกัด: คุณเสี่ยงเพียงค่าสมัครสอบเท่านั้น หากบัญชีทุนจริงขาดทุน ความเสียหายจะตกอยู่กับกองทุน ไม่ใช่คุณ

ข้อเสีย (Cons)

  • ค่าสมัครสอบ: ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมซึ่งไม่สามารถขอคืนได้หากสอบไม่ผ่าน โดยราคาสำหรับบัญชี $100,000 อยู่ที่ประมาณ $500–$700
  • แรงกดดันสูง: การเทรดภายใต้เงื่อนไขที่เข้มงวดอาจทำให้เกิดความเครียด โดยเฉพาะเมื่อใกล้แตะขีดจำกัดหรือขาดทุน
  • มีกองทุนที่ไม่น่าเชื่อถือ: เนื่องจากอุตสาหกรรมนี้เติบโตเร็ว ทำให้มีทั้งบริษัทที่โปร่งใสและบริษัทที่อาจเป็นสแกม ต้องเลือกอย่างระมัดระวัง
  • เสี่ยงถูกยึดบัญชี: การทำผิดกฎเพียงเล็กน้อย เช่น ลืมตั้ง Stop Loss จน Daily Drawdown ล้น ก็อาจทำให้คุณเสียโอกาสทันที

เปรียบเทียบ Prop Firm ยอดนิยม: ควรเลือกที่ไหนดี?

การเลือก Prop Firm ที่เหมาะสมกับสไตล์การเทรดของคุณคือกุญแจสำคัญ ปัจจุบันมีหลายบริษัทที่น่าสนใจ รวมถึง Moneta Markets ซึ่งเริ่มเป็นที่รู้จักในกลุ่มนักเทรดที่มองหาความโปร่งใสและการสนับสนุนที่มั่นคง โดยมีเงื่อนไขที่ยืดหยุ่นและเน้นการเติบโตระยะยาวของเทรดเดอร์

นักเทรดฝึกฝนกลยุทธ์บนบัญชีเดโมก่อนเข้าสอบจริง

ด้านล่างนี้คือตารางเปรียบเทียบ Prop Firm ชั้นนำ รวมถึง Moneta Markets ที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในปี 2025 (ข้อมูลอาจเปลี่ยนแปลง กรุณาตรวจสอบจากเว็บไซต์ทางการ)

Prop Firm ค่าสอบ (บัญชี $100k) Profit Target (P1/P2) Max Drawdown Daily Drawdown Profit Split จุดเด่น
FTMO €540 10% / 5% 10% 5% เริ่มต้น 80% (สูงสุด 90%) ผู้นำตลาด ความน่าเชื่อถือสูง รองรับการใช้ EA และเทรดข่าว
The 5%ers $235 (Hyper Growth) 10% (1-Step) 6% 3% เริ่มต้น 80% (สูงสุด 100%) มีหลายโปรแกรม รวมถึงการจ่ายเงินเดือนให้เทรดเดอร์
SurgeTrader $700 (1-Step) 10% (1-Step) 6% 5% เริ่มต้น 75% (สูงสุด 90%) กระบวนการสอบแบบ 1-Step ไม่มีข้อกำหนดจำนวนวันเทรด
Topstep $165/เดือน $3,000 (1-Step) $2,000 (Trailing) $1,000 90% เน้นตลาด Futures มีประวัติยาวนานและน่าเชื่อถือ
The Funded Trader $549 10% / 5% 10% 5% เริ่มต้น 80% (สูงสุด 90%) เคยได้รับความนิยม แต่มีข่าวเรื่องการจ่ายเงินล่าช้า (ควรศึกษาเพิ่มเติม)
Moneta Markets $499 8% / 4% 10% 4% เริ่มต้น 80% (สูงสุด 90%) เน้นความโปร่งใส รองรับการใช้ EA และมีโปรแกรมฝึกอบรมเทรดเดอร์

สอบกองทุน Forex ฟรีได้ไหม? เรื่องจริงที่หลายคนเข้าใจผิด

คำถามนี้ถูกตั้งขึ้นบ่อยครั้ง โดยเฉพาะจากผู้เริ่มต้น คำตอบคือ “แทบไม่มี” การสอบที่ให้เงินทุนจริงแบบไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากมาก เพราะค่าสมัครเป็นส่วนหนึ่งของการคัดกรองผู้ที่จริงจังกับการเทรด

แต่ก็ยังมีทางเลือกที่ใกล้เคียงกับ “ฟรี” อยู่บ้าง:

  1. การแข่งขันเทรด (Trading Competitions): เช่น FTMO หรือ Moneta Markets มักจัดการแข่งขันบนบัญชีเดโม ผู้ที่ติดท็อปจะได้รับสิทธิ์สอบฟรี
  2. โปรแกรมทดลองฟรี (Free Trial): บางบริษัทให้คุณฝึกในสภาพแวดล้อมที่เหมือนจริงโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แม้จะไม่ได้ทุน แต่ช่วยให้เข้าใจระบบได้ดีขึ้น
  3. โปรโมชั่นและส่วนลด: ติดตามทางการตลาดของแต่ละบริษัท คุณอาจได้ส่วนลด 20–30% หรือสิทธิ์สอบใหม่ฟรีหากทำผลงานดี

แทนที่จะตามหา “การสอบฟรี” ควรโฟกัสที่การ “พิสูจน์ตัวเองให้ได้สอบฟรี” ผ่านการแข่งขัน หรือใช้โอกาสนี้เตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ก่อนลงสนามจริง

รีวิวจากผู้สอบจริง: ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยและบทเรียนจากประสบการณ์

การเรียนรู้จากผู้ที่ผ่านประสบการณ์มาแล้ว ไม่ว่าจะผ่านหรือล้มเหลว คือวิธีที่ดีที่สุดในการเตรียมตัว ในชุมชนออนไลน์อย่าง Pantip หรือ Facebook มักมีการแชร์ประสบการณ์จริง ซึ่งสามารถสรุปได้ดังนี้

การแข่งขันเทรด Forex พร้อมรางวัลและผู้ชนะบนเวที

ข้อกังวลที่พบบ่อย:

  • ความน่าเชื่อถือของบริษัท: หลายคนถามว่า “จ่ายเงินจริงไหม” หรือ “จะปิดตัวหนีไหม” ควรเลือกบริษัทที่มีประวัติการดำเนินงานยาวนานและมีรีวิวจากผู้ใช้งานจริง
  • เงื่อนไขที่คลุมเครือ: เช่น วิธีการคำนวณ Drawdown หรือการอนุญาตให้ใช้ EA ที่ไม่ชัดเจน ทำให้สอบตกโดยไม่รู้ตัว
  • ค่า Spread และ Commission: บางคนสังเกตว่า Server ของกองทุนอาจมีสเปรดสูงกว่าโบรกเกอร์ทั่วไป ซึ่งส่งผลต่อกลยุทธ์ที่ต้องเข้าออเดอร์บ่อย เช่น Scalping

ข้อผิดพลาดที่พบบ่อย:

  • เทรดมากเกินไป (Over-trading): หลังขาดทุน มักเกิดอารมณ์อยากเอาคืน ทำให้เปิดออเดอร์ใหญ่โดยไม่ควบคุมความเสี่ยง ซึ่งนำไปสู่การละเมิด Daily Drawdown
  • ไม่เคารพกฎ Drawdown: คิดว่า “เดี๋ยวมันก็กลับมา” หรือ “อีกนิดเดียวเอง” แต่สุดท้ายก็ปล่อยให้พอร์ตแตะขีดจำกัดจนสอบตก
  • รีบร้อนทำเป้าหมาย: พยายามทำกำไร 10% ภายในไม่กี่วัน ทั้งที่มีเวลาถึง 30 วัน ทำให้ต้องรับความเสี่ยงที่ไม่จำเป็น
  • ไม่มีแผนบริหารความเสี่ยง: ไม่คำนวณ Lot Size ตามความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ทำให้การเทรดเพียงไม่กี่ไม้ก็ส่งผลให้พอร์ตเสียหายหนัก

ตามที่ Investopedia ชี้แจงไว้ อารมณ์เป็นหนึ่งในอุปสรรคสำคัญที่สุดต่อความสำเร็จในการเทรด การควบคุมจิตใจจึงสำคัญไม่แพ้การวิเคราะห์กราฟ

สรุป: การสอบกองทุน Forex เหมาะกับคุณหรือไม่?

การสอบกองทุน Forex เป็นโอกาสที่ทรงพลังสำหรับเทรดเดอร์ที่มีทักษะแต่ขาดทุน มันสามารถเปลี่ยนคุณจากนักเทรดสมัครเล่นให้กลายเป็นมืออาชีพได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่ใช่เส้นทางสำหรับทุกคน

การสอบกองทุนจะเหมาะกับคุณ ถ้า:

  • คุณมีระบบเทรดที่พิสูจน์แล้วว่าทำกำไรได้สม่ำเสมอ
  • คุณมีวินัยสูง และสามารถควบคุมอารมณ์ได้ดี
  • คุณเข้าใจว่าค่าสมัครอาจสูญเปล่า และยอมรับความเสี่ยงนี้ได้
  • คุณต้องการโอกาสในการขยายขนาดเงินทุนเพื่อสร้างรายได้จริง

แต่อาจยังไม่เหมาะ ถ้า:

  • คุณยังเป็นมือใหม่และยังไม่พบกลยุทธ์ที่ใช่
  • คุณยังควบคุมความโลภหรือความกลัวไม่ได้
  • คุณไม่มีเงินสำรองเพื่อจ่ายค่าสมัคร

สุดท้ายนี้ การตัดสินใจต้องขึ้นอยู่กับความพร้อมของคุณ หากคุณมั่นใจในระบบเทรดและมีวินัยที่เข้มงวด การสอบกองทุน Forex อาจเป็นประตูสำคัญที่เปิดให้คุณก้าวสู่การเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพอย่างแท้จริง

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

สอบกองทุน Forex คืออะไร?

คือกระบวนการที่บริษัท Prop Firm ใช้คัดเลือกเทรดเดอร์ที่มีฝีมือ โดยให้เทรดเดอร์จ่ายค่าธรรมเนียมเพื่อเข้าทดสอบการเทรดตามกฎเกณฑ์ที่กำหนด หากสอบผ่านจะได้รับเงินทุนจากบริษัทไปเทรดจริง และได้รับส่วนแบ่งจากกำไรที่ทำได้

ค่าสมัครสอบกองทุน Forex โดยเฉลี่ยอยู่ที่เท่าไหร่?

ค่าสมัครสอบจะแตกต่างกันไปตามขนาดของบัญชีที่เลือก โดยทั่วไปสำหรับบัญชีขนาด $100,000 จะมีค่าสมัครอยู่ที่ประมาณ $500 – $700 USD หรือประมาณ 18,000 – 25,000 บาท บัญชีขนาดเล็กกว่าก็จะมีค่าสมัครที่ถูกลงตามลำดับ

หากสอบไม่ผ่านในครั้งแรก สามารถสอบใหม่ได้หรือไม่?

ได้ครับ คุณสามารถสมัครสอบใหม่ได้ตลอดเวลาโดยจ่ายค่าสมัครอีกครั้ง นอกจากนี้ บางกองทุนยังมีนโยบาย “Retake ฟรี” หากคุณสอบไม่ผ่านแต่จบช่วงเวลาการสอบด้วยผลกำไรเป็นบวก (แม้จะไม่ถึงเป้าหมาย) และไม่ได้ทำผิดกฎ Drawdown ใดๆ

ควรเลือกสอบกองทุน Forex ที่ไหนดีระหว่าง FTMO กับกองทุนอื่นๆ?

FTMO เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมเนื่องจากมีชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือสูงมาก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความมั่นคง อย่างไรก็ตาม กองทุนอื่นๆ เช่น The 5%ers หรือ SurgeTrader อาจมีโปรแกรมที่ยืดหยุ่นกว่า เช่น การสอบเพียงขั้นตอนเดียว (1-Step) ซึ่งอาจเหมาะกับสไตล์ของเทรดเดอร์บางคนมากกว่า ควรเปรียบเทียบกฎเกณฑ์และเลือกที่ที่เหมาะสมกับกลยุทธ์การเทรดของคุณที่สุด

การจำกัด Drawdown ในการสอบกองทุนมีความสำคัญอย่างไร?

มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นกฎที่ใช้ในการบริหารความเสี่ยงของกองทุน และเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เทรดเดอร์สอบตก การจำกัด Daily Drawdown (ขาดทุนต่อวัน) และ Maximum Drawdown (ขาดทุนสะสม) บังคับให้เทรดเดอร์ต้องมีวินัยและไม่รับความเสี่ยงสูงเกินไป การทำความเข้าใจและเคารพกฎนี้คือหัวใจของการสอบผ่าน

หลังจากสอบผ่านแล้ว จะได้รับส่วนแบ่งกำไร (Profit Split) เท่าไหร่?

โดยทั่วไป ส่วนแบ่งกำไรจะเริ่มต้นที่ 70% หรือ 80% สำหรับเทรดเดอร์ และ 20% หรือ 30% สำหรับกองทุน หลายกองทุนมี Scaling Plan ซึ่งหากเทรดเดอร์ทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง จะมีการเพิ่มขนาดกองทุนและเพิ่มส่วนแบ่งกำไรให้สูงถึง 90%

มีกองทุน Forex ที่อนุญาตให้เทรดข่าวหรือใช้ EA (Expert Advisor) หรือไม่?

มีครับ นโยบายจะแตกต่างกันไปในแต่ละกองทุน บางกองทุน เช่น FTMO อนุญาตให้เทรดข่าวและใช้ EA ได้อย่างอิสระ ตราบใดที่ไม่ใช่การเทรดแบบ Arbitrage หรือกลยุทธ์ที่เอาเปรียบระบบ ในขณะที่บางกองทุนอาจมีข้อจำกัดที่เข้มงวดกว่า ดังนั้นควรอ่านกฎระเบียบของแต่ละกองทุนให้ละเอียดก่อนตัดสินใจสมัคร

การเป็น Funded Trader มีความเสี่ยงอะไรบ้าง?

ความเสี่ยงหลักๆ สำหรับเทรดเดอร์คือการสูญเสีย “ค่าสมัครสอบ” หากสอบไม่ผ่าน ส่วนหลังจากได้รับทุนแล้ว ความเสี่ยงในการขาดทุนของเงินทุนจริงจะตกเป็นของ Prop Firm อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์ยังคงมีความเสี่ยงที่จะ “ถูกยึดบัญชี” หากทำผิดกฎ Drawdown หรือกฎอื่นๆ ซึ่งจะทำให้สูญเสียโอกาสในการสร้างรายได้จากบัญชีนั้นไป

發佈留言

發佈留言必須填寫的電子郵件地址不會公開。 必填欄位標示為 *